สวัสดีวันจันทร์ (สิ้นเดือนที่แสนจะยุ่งเหยิงของเรา ^^! ) ค่ะ มีเรื่องอยากเล่าให้ฟังค่ะ
เมื่อวันเสาร์เราไปทำธุระที่เซนทรัลเวิลด์ ระหว่างยืนรอเมลล์กลับบ้านที่ป้ายรถท่ามกลางอากาศโคตรจะร้อน ก็เห็นคู่แฟนชาวต่าง 2 คน (น่าจะไต้หวันนะ แอบสังเกตุเห็นตัวอักษรบนแผนที่ที่พวกเค้าถืออยู่) เดินเอาแผนที่มาถามผู้หญิงที่ยืนอยู่ถัดจากเราไปนิดนึงว่า คำนี้อ่านภาษาไทย ออกเสียงว่าอะไร แล้วก็ชี้ไปในแผนให้ดู “Donmuang” ผู้หญิงคนนั้นก็ตอบว่า "ดอนเมือง" ผู้ชายก็ขอบคุณและพยายามออกเสียงทบทวนหลายครั้ง แล้วเค้าก็ไปโบกแท๊กซี่อยู่หลายคัน แต่ไม่มีคันไหนรับ ซักพักก็มีพี่ผู้ชายขับตุ๊กตุ๊กอยู่แถวนั้นพยายามจะพา 2 คนนี้ไป แต่ผู้หญิงก็เหมือนกลัวๆ โบกมือปฏิเสธพร้อมบอกว่า no no, big baggage ซักพักผู้ชายก็หยิบโทรศัพท์โทรหาคุยกับใครซักคนนึง แล้วก็โบกแท๊กซี่ต่อ แต่ก็ไม่มีใครรับ
ด้วยความอยากช่วยของเรา จึงเดินเข้าไปถามว่า
Me : Excuse me, Are you going to Donmuang Airport?
Them : Yes. I’d like to go there by air train (พร้อมชี้ให้ดูในแผนที่ว่าจะไปขึ้น air train ที่หมอชิตเพื่อไปดอนเมือง)
ณ จุดนี้ เรานิ่งไปซักพักพร้อมคิดในใจว่า มีด้วยหรอวะ air train จากหมอชิตไปดอนเมือง ถึงจะมีก็เถอะนะ กว่าจะลากกระเป๋าจากหน้าเซนทรัลเวิลด์ไปขึ้น BTS ที่ใกล้ที่สุดคือชิดลม หรือสยาม ก็คงใช้เวลาแน่ๆ เราเลยถามเค้าต่อว่า
Me : What’s flight departure time? (คือ เราแอบเห็น E-Ticket ของ Air Asia โชว์ BKK-HKG ในแฟ้มที่เค้าถืออยู่พอดี)
Them : 16.25 PM
Me : As I know, no have air train go to Donmuang Airport because it’s small airport it’s not Big Airport as same as Suvarnabhumi Airport. I think you should go to there by taxi, it’s good way for you because now it’s 2.45 pm and very traffic jam. (พร้อมชี้ให้ดูว่า รถติดไม่ขยับ เหอๆๆ) If you lately arrive at there maybe miss flight. I’ll call taxi for you. Don’t worry because it’s taxi meter.
Them : Oh, really OK Thank you so much.
พอเราพูดจบออกไปโบกแท๊กซี่ ไปสนามบินดอนเมืองมั๊ยคะ พอบอกว่าไป เราก็บอกพี่คนขับว่า ผู้โดยสารขาออกนะคะพี่ ฝากด้วยนะคะ ชาวต่างชาติ 2 คน ช่วยๆ กัน เค้าจะได้ประทับใจประเทศไทยของเรา แล้วเราก็ช่วยยกกระเป๋าขึ้นรถพร้อมบอกว่า Have a nice trip and nice time in Thailand ~~ เค้า 2 คนจับมือขอบคุณเราใหญ่ ประหนึ่งจะร้องไห้ เพราะซาบซึ้ง ถ้าไม่ได้ยู พวกเราคงแย่ (ในใจเราก้อคิดว่า เหอะๆ รีบไปเห๊อะ มัวแต่ร่ำลา กำลังจะไฟเขียว คันหลังด่าแหลกแระ รถติดขนาดนี้ กว่าจะถึงดอนเมือง กว่าจะเชคอิน final call พอดี --”)........ แล้วเราก็ยิ้มให้พร้อมบอกว่า You’re welcome ~~~
มิตรภาพเกิดขึ้นได้ทุกที่ สิ่งที่เราทำอาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่มากมายอะไร แต่เราก็สุขใจเล็กๆค่ะที่ได้ช่วยเหลือคนอื่นค่ะ ความช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆในฐานะเจ้าของบ้าน ทำให้ผู้มาเยือนยิ้มและประทับใจ เรา็ก็มีความสุขค่ะ และเราก็เข้าใจสถานการณ์เข้าใจความรู้สึกต่างบ้านต่างเมืองแบบนี้มาก ว่าถ้าหลงทางหรือไปไหนไม่ถูกจะเป็นยังไง เราเคยแบคแพคแบกเป้เที่ยวคนเดียวไปเกาหลี 2 ครั้งค่ะ ครั้งแรก ปี 2008 ไปโซล, แดจอน, -ู 10 วันไปเรื่อยๆ ประทับใจที่เราถือแผนที่ถามทาง ถามทีท่องเทียวก็มีคนช่วยบอก เข้ามาถามว่ามีอะไรให้ช่วยมั๊ย ประทับใจที่มีคนมาช่วยเราลากกระเป๋าขึ้นลงรถไฟใต้ดิน (จริงๆ เค้าเห็นแล้วอาจจะสมเพชก็ได้ ฮาๆๆ ว่า อินี่จะถึกไปไหน ทั้งเป้สะพายหลัง ทั้งกระเป๋า ทั้งกล้อง ทั้งแผนที่ในมือ ) อีกครั้งแบคแพคแบกเป้ไปปูซาน กับควังจูธันวาคมปีที่แล้วค่ะ ไป 5 วัน ครั้งนี้ประทับใจมาก เราไปเที่ยวปูซานทาวเว่อร์ แล้วขอให้คนบนนั้นช่วยถ่ายรูปให้ คุยไปคุยมาเค้าเป็นเจ้าหน้าที่ท่องเทียวของที่นี่ เลยพาเราไปกินข้าว กินเสร็จก็พาไปแนะนำที่ท่องเทียวใกล้ๆ อีก เราไปตามแผนที่ พอมีคนเห็นว่าเราเก้ๆกังๆ กับรถไฟใต้ดินว่าจะลงสถานีไหน ก็มีคนมาช่วยบอก ช่วยแนะนำให้ค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านกันนะคะ ^^
รอยยิ้ม กับ ความสุขเล็กๆ หน้าเซนทรัลเวิลด์
เมื่อวันเสาร์เราไปทำธุระที่เซนทรัลเวิลด์ ระหว่างยืนรอเมลล์กลับบ้านที่ป้ายรถท่ามกลางอากาศโคตรจะร้อน ก็เห็นคู่แฟนชาวต่าง 2 คน (น่าจะไต้หวันนะ แอบสังเกตุเห็นตัวอักษรบนแผนที่ที่พวกเค้าถืออยู่) เดินเอาแผนที่มาถามผู้หญิงที่ยืนอยู่ถัดจากเราไปนิดนึงว่า คำนี้อ่านภาษาไทย ออกเสียงว่าอะไร แล้วก็ชี้ไปในแผนให้ดู “Donmuang” ผู้หญิงคนนั้นก็ตอบว่า "ดอนเมือง" ผู้ชายก็ขอบคุณและพยายามออกเสียงทบทวนหลายครั้ง แล้วเค้าก็ไปโบกแท๊กซี่อยู่หลายคัน แต่ไม่มีคันไหนรับ ซักพักก็มีพี่ผู้ชายขับตุ๊กตุ๊กอยู่แถวนั้นพยายามจะพา 2 คนนี้ไป แต่ผู้หญิงก็เหมือนกลัวๆ โบกมือปฏิเสธพร้อมบอกว่า no no, big baggage ซักพักผู้ชายก็หยิบโทรศัพท์โทรหาคุยกับใครซักคนนึง แล้วก็โบกแท๊กซี่ต่อ แต่ก็ไม่มีใครรับ
ด้วยความอยากช่วยของเรา จึงเดินเข้าไปถามว่า
Me : Excuse me, Are you going to Donmuang Airport?
Them : Yes. I’d like to go there by air train (พร้อมชี้ให้ดูในแผนที่ว่าจะไปขึ้น air train ที่หมอชิตเพื่อไปดอนเมือง)
ณ จุดนี้ เรานิ่งไปซักพักพร้อมคิดในใจว่า มีด้วยหรอวะ air train จากหมอชิตไปดอนเมือง ถึงจะมีก็เถอะนะ กว่าจะลากกระเป๋าจากหน้าเซนทรัลเวิลด์ไปขึ้น BTS ที่ใกล้ที่สุดคือชิดลม หรือสยาม ก็คงใช้เวลาแน่ๆ เราเลยถามเค้าต่อว่า
Me : What’s flight departure time? (คือ เราแอบเห็น E-Ticket ของ Air Asia โชว์ BKK-HKG ในแฟ้มที่เค้าถืออยู่พอดี)
Them : 16.25 PM
Me : As I know, no have air train go to Donmuang Airport because it’s small airport it’s not Big Airport as same as Suvarnabhumi Airport. I think you should go to there by taxi, it’s good way for you because now it’s 2.45 pm and very traffic jam. (พร้อมชี้ให้ดูว่า รถติดไม่ขยับ เหอๆๆ) If you lately arrive at there maybe miss flight. I’ll call taxi for you. Don’t worry because it’s taxi meter.
Them : Oh, really OK Thank you so much.
พอเราพูดจบออกไปโบกแท๊กซี่ ไปสนามบินดอนเมืองมั๊ยคะ พอบอกว่าไป เราก็บอกพี่คนขับว่า ผู้โดยสารขาออกนะคะพี่ ฝากด้วยนะคะ ชาวต่างชาติ 2 คน ช่วยๆ กัน เค้าจะได้ประทับใจประเทศไทยของเรา แล้วเราก็ช่วยยกกระเป๋าขึ้นรถพร้อมบอกว่า Have a nice trip and nice time in Thailand ~~ เค้า 2 คนจับมือขอบคุณเราใหญ่ ประหนึ่งจะร้องไห้ เพราะซาบซึ้ง ถ้าไม่ได้ยู พวกเราคงแย่ (ในใจเราก้อคิดว่า เหอะๆ รีบไปเห๊อะ มัวแต่ร่ำลา กำลังจะไฟเขียว คันหลังด่าแหลกแระ รถติดขนาดนี้ กว่าจะถึงดอนเมือง กว่าจะเชคอิน final call พอดี --”)........ แล้วเราก็ยิ้มให้พร้อมบอกว่า You’re welcome ~~~
มิตรภาพเกิดขึ้นได้ทุกที่ สิ่งที่เราทำอาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่มากมายอะไร แต่เราก็สุขใจเล็กๆค่ะที่ได้ช่วยเหลือคนอื่นค่ะ ความช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆในฐานะเจ้าของบ้าน ทำให้ผู้มาเยือนยิ้มและประทับใจ เรา็ก็มีความสุขค่ะ และเราก็เข้าใจสถานการณ์เข้าใจความรู้สึกต่างบ้านต่างเมืองแบบนี้มาก ว่าถ้าหลงทางหรือไปไหนไม่ถูกจะเป็นยังไง เราเคยแบคแพคแบกเป้เที่ยวคนเดียวไปเกาหลี 2 ครั้งค่ะ ครั้งแรก ปี 2008 ไปโซล, แดจอน, -ู 10 วันไปเรื่อยๆ ประทับใจที่เราถือแผนที่ถามทาง ถามทีท่องเทียวก็มีคนช่วยบอก เข้ามาถามว่ามีอะไรให้ช่วยมั๊ย ประทับใจที่มีคนมาช่วยเราลากกระเป๋าขึ้นลงรถไฟใต้ดิน (จริงๆ เค้าเห็นแล้วอาจจะสมเพชก็ได้ ฮาๆๆ ว่า อินี่จะถึกไปไหน ทั้งเป้สะพายหลัง ทั้งกระเป๋า ทั้งกล้อง ทั้งแผนที่ในมือ ) อีกครั้งแบคแพคแบกเป้ไปปูซาน กับควังจูธันวาคมปีที่แล้วค่ะ ไป 5 วัน ครั้งนี้ประทับใจมาก เราไปเที่ยวปูซานทาวเว่อร์ แล้วขอให้คนบนนั้นช่วยถ่ายรูปให้ คุยไปคุยมาเค้าเป็นเจ้าหน้าที่ท่องเทียวของที่นี่ เลยพาเราไปกินข้าว กินเสร็จก็พาไปแนะนำที่ท่องเทียวใกล้ๆ อีก เราไปตามแผนที่ พอมีคนเห็นว่าเราเก้ๆกังๆ กับรถไฟใต้ดินว่าจะลงสถานีไหน ก็มีคนมาช่วยบอก ช่วยแนะนำให้ค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านกันนะคะ ^^