*** นายกฯ Idea_กระฉูด >> เล็งตั้งแบงก์พิเศษ แก้.. " หนี้ครัวเรือน "

Siam Business  :  เล็งตั้งแบงก์พิเศษ  >>  แก้ปัญหา... " หนี้ครัวเรือน "
     หนี้ครัวเรือน ยังเป็นปัญหากับเศรษฐกิจไทย นายกฯ Idea_กระฉูด เล็งตั้งแบงก์พิเศษ แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน เน้นปล่อยกู้ อย่างเดียว , ขณะที่ศูนย์วิจัยCIMB Thai มองเศรษฐกิจไทยหดตัว คนเก็บเงินน้อยลง เพราะหนี้ครัวเรือนยังตึงตัว ส่งผลสภาพคล่องทางการเงินตึงตัว , ด้าน TMB แนะ ต้องแก้ด้วย การส่งเสริมการออมทั้งระบบ & ใช้จ่ายให้น้อยลง

(1) นายธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาธิการสมาคม ธ.ไทย เปิดเผยว่า...
       จากการที่ นส. ยิ่งลักษณ์ นายกฯ & รมว.กลาโหม ได้เรียกนายธนาคาร เข้าไปหารือเกี่ยวกับประเด็นทางเศรษฐกิจ & การแก้ไขปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนนั้น รัฐบาลมีแนวคิด ที่จะจัดตั้งสถาบันการเงินพิเศษ เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ภาคครัวเรือน ที่ถือเป็นปัญหาระดับรากหญ้า ที่จะต้องเร่งแก้ไขปัญหา อย่างเร่งด่วน !
      โดยเบื้องต้น คาดว่าจะเป็นสถาบันการเงิน ที่ดำเนินงานเพื่อรากหญ้าในการให้บริการด้านสินเชื่อรายย่อยเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีการรับฝากเงิน & สามารถคิดอัตราดอกเบี้ยได้สูงขึ้น จากระดับปัจจุบัน เนื่องจาก การปล่อยสินเชื่อเพื่อรายย่อยนั้น จะมี Cost_ต้นทุน ดำเนินการที่สูงกว่า ส่วนวิธีการระดมเงินในการปล่อยกู้นั้น คาดว่าจะใช้วิธีการออกตั๋วสัญญา ใช้เงิน (P/N) หรือ การกู้ยืมเงินเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจ
      อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามในรายละเอียดอีกครั้ง แต่โดยเจตนาในการจัดตั้งสถาบันการเงินดังกล่าว มีวัตถุประสงค์หลักๆ คือ ต้องการที่จะให้ลูกหนี้นอกระบบ เข้ามาอยู่ในระบบสถาบันการเงิน เพิ่มมากขึ้น

(2) นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กก.ผจก.ใหญ่ ธ.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า...
      ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือน ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องได้รับการแก้ไข >> การจัดตั้งสถาบันการเงินพิเศษขึ้นมาดูแลนั้น จะส่งผลให้กลุ่มที่มีรายได้น้อย สามารถเข้าถึงสถาบันการเงินได้มากขึ้น ขณะที่ปัจจุบันธนาคาร มีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง โดยเน้นกลุ่มที่มีรายได้ตั้งแต่ 15,000บ. เป็นหลัก

(3) Dr.อมรเทพ จาวะลา หน.ส่วนวิจัยเศรษฐกิจ&ตลาดการเงิน สายบริหารความเสี่ยง สำนักวิจัย ธ. CIMB Thai (มหาชน)
       เศรษฐกิจไทย กำลังเผชิญกับปัญหาที่สำคัญ 2ประการ คือ...
  3.1 ประการแรก ไทย จะเข้าสู่ช่วง แห่งการเติบโตที่ช้าลงกว่าก่อน
       อันเป็นผลสืบเนื่องมาจาก การบริโภคที่จะชะลอตัวลง หลังจากที่ได้เร่งตัวขึ้นมากในปีก่อนหน้า โดยการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นสูง , ในปีที่ผ่านๆ มาได้ส่งผลให้หนี้ครัวเรือนเร่งตัว สูงขึ้น
       ทั้งนี้ ครัวเรือน จะเหลือเงินเพื่อการบริโภคลดลง หลังจากหักค่าเงินผ่อน ดอกเบี้ยเงินกู้ รวมทั้ง ค่าใช้จ่ายพื้นฐานอื่นๆ เมื่อการบริโภคลดลง >> ธุรกิจก็จะปรับลดการลงทุน ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญ ที่ทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ช้าลง โดยคาดว่า ภาวะการชะลอตัวของการบริโภคจะดำเนิน อยู่อีกราว 2ปี_เป็นอย่างน้อย ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นมา เติบโตได้เหมือนช่วงก่อนหน้า ตามภาวะหนี้ที่คาดว่า จะลดลง

  3.2 ประการที่2 ตลาดการเงินไทย จะเผชิญกับปัญหาสภาพคล่องที่ตึงตัว อันจะมีผลเชิงลบ(-) ต่อการลงทุนของไทย
       โดยเงินทุนจากต่างชาติที่ไหลเข้ามายังไทยนับตั้งแต่ปี '51 ที่มีส่วนช่วยเสริมสภาพคล่องในอดีต & สนับสนุนให้ ธ.พาณิชย์ของไทย เร่งการปล่อยสินเชื่ออย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สินเชื่อเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล อย่างไรก็ดี เมื่อการออม มี Trend_แนวโน้มลดลง จากปัญหาหนี้ครัวเรือน ขณะที่การลงทุนภาครัฐ เพิ่มขึ้น ซึ่งจะแย่งชิงแหล่งเงินออม จากภาคเอกชน
       ดังนั้น คาดว่า เงินทุนต่างชาติ จะกลับเข้ามาสู่ตลาดเอเชียชั่วคราว ภายหลังจากที่มีความชัดเจนในมาตรการ QE ในปีนี้ แต่สิ่งที่น่ากังวลก็คือ ในอนาคต สหรัฐฯ จะขึ้นดอกเบี้ย (คาดว่า กลางปี '58) ซึ่งจะกดดันให้เงินไหลออกอีกครั้ง ในปีหน้า & ส่งผลให้สภาพคล่อง ของตลาดเงินในประเทศตึงตัวมากขึ้น ได้

(4) ส่วนศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ_TMB  หรือ TMB Analytics ระบุว่า...
       ปัญหาหนี้ครัวเรือน ต้องแก้ด้วยการส่งเสริมการออม ทั้งระบบ & ใช้จ่ายให้น้อยลง เป็นโจทย์ ที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันสร้างเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินของประเทศ ในระยะยาว , หนี้ครัวเรือนของไทย ที่เกิดจากระบบสถาบันการเงิน เพิ่มขึ้นเร็ว จนมีขนาด 75% ของ GDP ในไตรมาสแรกปีนี้ จาก 57% ในไตรมาสสุดท้ายของปี '51
       โดยมาจาก ธ.พาณิชย์ 42% , สถาบันการเงินของรัฐ ร้อยละ 30 , สหกรณ์ออมทรัพย์ 15% & บริษัทบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล 10% และอื่นๆ เช่น บริษัทประกัน โรงรับจำนำ อีก 3%
.    
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  หุ้น สินเชื่อธุรกิจ เศรษฐกิจ การลงทุน การเงิน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่