
“ส.ว.คำนูณ” ระบุการยื่นเรื่องต่อประธานรัฐสภา ตาม ม.154 ให้นายกฯชะลอทูลเกล้าฯร่างแก้ไข รธน.จนกว่าศาล รธน.จะวินิจฉัยเสร็จ เป็นทางออกให้นายกฯ ไม่ต้องตกที่นั่งลำบาก แต่ก็อยู่ที่ประธานรัฐสภา จะวินิจฉัยอย่างไร
นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวถึง
การยื่นเรื่องต่อประธานรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 154(1) ให้นายกรัฐมนตรีชะลอการทูลเกล้าฯร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มา ส.ว.จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ประเด็นที่จะเกิดขึ้น
เชื่อว่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และเป็นทางที่ป้องกันไม่ให้นายกรัฐมนตรี ตกที่นั่งลำบาก แต่หลังจากที่มีการยื่นเรื่องต่อประธานรัฐสภาแล้ว ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประธานรัฐสภาว่าจะมีความเห็นอย่างไร เนื่องจากรัฐธรรมนูญ 154(1) เปิดช่องให้แค่ร่างพระราชบัญญัติ ซึ่งจะนำมาเทียบเคียงกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ต้องให้ประธานรัฐสภาตัดสินใจ
อย่างไรก็ตาม การใช้ช่องทางของรัฐธรรมนูญ มาตรา 154(1) จะไม่เกี่ยวข้องกับการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ กลุ่มมาตราที่มาของ ส.ว.ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 68 หรือไม่ ทั้งนี้การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทราบว่ามีอยู่ 2-3 สำนวนแล้ว ดังนั้นการพิจารณาเรื่องนี้จะไม่จบง่ายๆ อย่างแน่นอน
ด้าน นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา กล่าวต่อเรื่องเดียวกันว่า
ส.ว.จะร่วมยื่นกับพรรคประชาธิปัตย์ เบื้องต้นในส่วนของ ส.ว.ได้ร่วมลงชื่อครบตามจำนวนที่รัฐธรรมนูญกำหนดแล้ว เช่นเดียวกันกับการทำหนังสือเพื่อเสนอความเห็น และหลังจากที่รัฐสภาได้ลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตราที่มา ส.ว.แล้วเสร็จ จะมีการยื่นเรื่องให้ประธานรัฐสภาทันที
สำหรับสาระของหนังสือส่วนของ ส.ว.จะมีทั้งหมด 9 ประเด็น โดย 4 ประเด็นแรก เป็นเรื่องของสาระของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีขัดและแย้งกับมาตราอื่นในรัฐธรรมนูญ เช่น ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 วรรคสอง ที่ระบุว่าญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่มีผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขจะกระทำมิได้ เป็นต้น และ 5 ประเด็นหลัง จะเป็นเรื่องของกระบวนการตราร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มิชอบ ทั้งนี้รายละเอียดทั้งหมดตนจะขอเปิดเผยกับสื่อมวลชนหลังจากที่ยื่นเรื่องให้กับประธานรัฐสภาเรียบร้อยแล้ว ส่วนการยื่นเรื่องในช่วงวันหยุดนั้น ไม่ใช่ปัญหา เพราะเชื่อว่าจะมีคนมาทำงาน
นายไพบูลย์ กล่าวว่า
การใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 154(1) จะไม่ทำให้เกิดความลำบากในการตัดสินใจของนายกฯ ที่จะนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย ภายใน 20 วันนับแต่วันที่ได้รับเรื่องจากรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 150 กำหนด เนื่องจากการกำหนดเงื่อนไข 20 วันนั้นเป็นภาวะการออกกฎหมายที่ไม่มีปัญหา
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000121503
อยู่เฉยๆดีกว่ามะ ห่วงตัวเองก่อนเหอะไม่ต้องเออะไปห่วงนายกเค้า
คำนูณ” เผย ที่ทำแบบนี้ก็เพราะต้องการช่วย “ปู” ไม่ให้ตกที่นั่งลำบาก
“ส.ว.คำนูณ” ระบุการยื่นเรื่องต่อประธานรัฐสภา ตาม ม.154 ให้นายกฯชะลอทูลเกล้าฯร่างแก้ไข รธน.จนกว่าศาล รธน.จะวินิจฉัยเสร็จ เป็นทางออกให้นายกฯ ไม่ต้องตกที่นั่งลำบาก แต่ก็อยู่ที่ประธานรัฐสภา จะวินิจฉัยอย่างไร
นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวถึงการยื่นเรื่องต่อประธานรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 154(1) ให้นายกรัฐมนตรีชะลอการทูลเกล้าฯร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มา ส.ว.จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ประเด็นที่จะเกิดขึ้นเชื่อว่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และเป็นทางที่ป้องกันไม่ให้นายกรัฐมนตรี ตกที่นั่งลำบาก แต่หลังจากที่มีการยื่นเรื่องต่อประธานรัฐสภาแล้ว ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประธานรัฐสภาว่าจะมีความเห็นอย่างไร เนื่องจากรัฐธรรมนูญ 154(1) เปิดช่องให้แค่ร่างพระราชบัญญัติ ซึ่งจะนำมาเทียบเคียงกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ต้องให้ประธานรัฐสภาตัดสินใจ
อย่างไรก็ตาม การใช้ช่องทางของรัฐธรรมนูญ มาตรา 154(1) จะไม่เกี่ยวข้องกับการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ กลุ่มมาตราที่มาของ ส.ว.ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 68 หรือไม่ ทั้งนี้การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทราบว่ามีอยู่ 2-3 สำนวนแล้ว ดังนั้นการพิจารณาเรื่องนี้จะไม่จบง่ายๆ อย่างแน่นอน
ด้าน นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา กล่าวต่อเรื่องเดียวกันว่า ส.ว.จะร่วมยื่นกับพรรคประชาธิปัตย์ เบื้องต้นในส่วนของ ส.ว.ได้ร่วมลงชื่อครบตามจำนวนที่รัฐธรรมนูญกำหนดแล้ว เช่นเดียวกันกับการทำหนังสือเพื่อเสนอความเห็น และหลังจากที่รัฐสภาได้ลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตราที่มา ส.ว.แล้วเสร็จ จะมีการยื่นเรื่องให้ประธานรัฐสภาทันที
สำหรับสาระของหนังสือส่วนของ ส.ว.จะมีทั้งหมด 9 ประเด็น โดย 4 ประเด็นแรก เป็นเรื่องของสาระของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีขัดและแย้งกับมาตราอื่นในรัฐธรรมนูญ เช่น ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 วรรคสอง ที่ระบุว่าญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่มีผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขจะกระทำมิได้ เป็นต้น และ 5 ประเด็นหลัง จะเป็นเรื่องของกระบวนการตราร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มิชอบ ทั้งนี้รายละเอียดทั้งหมดตนจะขอเปิดเผยกับสื่อมวลชนหลังจากที่ยื่นเรื่องให้กับประธานรัฐสภาเรียบร้อยแล้ว ส่วนการยื่นเรื่องในช่วงวันหยุดนั้น ไม่ใช่ปัญหา เพราะเชื่อว่าจะมีคนมาทำงาน
นายไพบูลย์ กล่าวว่า การใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 154(1) จะไม่ทำให้เกิดความลำบากในการตัดสินใจของนายกฯ ที่จะนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย ภายใน 20 วันนับแต่วันที่ได้รับเรื่องจากรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 150 กำหนด เนื่องจากการกำหนดเงื่อนไข 20 วันนั้นเป็นภาวะการออกกฎหมายที่ไม่มีปัญหา
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000121503
อยู่เฉยๆดีกว่ามะ ห่วงตัวเองก่อนเหอะไม่ต้องเออะไปห่วงนายกเค้า