โบอิ้งเปิดเผยว่า ได้ทำการดัดแปลงแก้ไขเครื่องบินรบรุ่นที่เลิกใช้งานแล้ว เพื่อเปลี่ยนเป็นอากาศยานไร้คนขับ
โบอิ้งกล่าวว่า หนึ่งในเครื่องบินรบรุ่น เอฟ-16 ที่ผลิตโดยบริษัทล็อคฮีด มาร์ติน ที่ถูกดัดแปลงให้เป็นเครื่องบินไร้คนขับได้ทำการทดสอบบินเที่ยวแรกเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ในเส้นทางระหว่างสนามบินในรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ ไปยังอ่าวเม็กซิโก โดยใช้นักบินของกองทัพอากาศสหรัฐฯ เป็นผู้ควบคุมจากภาคพื้นดิน
เครื่องบินรบลำดังกล่าว ซึ่งมีมูลค่าในปี 1998 ถึง 19 ล้านดอลลาร์ ถูกจอดทิ้งไว้เฉยๆที่โรงเก็บเครื่องบินในรัฐอริโซนาเป็นเวลานานถึง 15 ปี สามารถบินขึ้นสู่ระดับความสูง 12.2 กม. ด้วยความเร็วประมาณ 1,800 กม./ ชม. บริษัทกล่าวว่า การดัดแปลงดังกล่าวอาจนำไปใช้เพื่อการช่วยฝึกนักบินให้คุ้นเคยกับการโจมตีศัตรู
ในการทดสอบบินครั้งนี้ นักบินได้ควบคุมให้เครื่องบินบินผาดโผนในลักษณะต่างๆได้ อาทิ การพลิกลำตัวเครื่อง และการบินพลิกโค้งกลับหัวเป็นรูปตัวเอส ซึ่งเป็นหนึ่งในกลวิธีเพื่อหักหลบการล็อคเป้าหมายโจมตีของศัตรู
โบอิ้งกล่าวว่า เครื่องบิน เอฟ-16 ลำนี้ จะถูกประกบด้วยเครื่องบินติดตามอีก 2 ลำ เพื่อให้สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังมีการติดตั้งอุปกรณ์ที่ทำให้เครื่องสามารถทำลายตัวเองได้หากอยู่ในภาวะคับขัน และเสริมว่าเครื่องบินสามารถทำอัตราเร่งได้ในระดับ 7จี แต่มีความสามารถสูงสุดได้ถึง 9จี ซึ่งเป็นระดับที่อาจเป็นอันตรายต่อนักบิน
ด้านพันอากาศเอกไรอัน อินแมน ผู้บังคับการฝูงบินเล็งเป้าหมายทางอากาศที่ 82 กล่าวว่า การทดสอบบินเป็นไปได้ด้วยดี และแทบไม่แตกต่างเมื่อเปลี่ยนเป็นเครื่องบินไร้คนขับ และจะใช้เครื่องบินดังกล่าวเพื่อการฝึกนักบินให้เรียนรู้การจัดการกับเครื่องบินรบของศัตรู
ปัจจุบันโบอิ้งมีเครื่องบิน เอฟ-16 ที่ดัดแปลงแล้วเป็นจำนวน 6 ลำ ซึ่งได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็น คิวเอฟ-16เอส และกองทัพอากาศได้เตรียมนำเครื่องบินบางส่วนไปใช้ในการทดสอบยิงด้วยอาวุธจริง
เคดิต
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1380101640&grpid&catid=06&subcatid=0600
วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 21:45:37 น.
โบอิ้ง"ดัดแปลง"เอฟ-16"รุ่นเก่า เป็นอากาศยานไร้คนขับ
โบอิ้งกล่าวว่า หนึ่งในเครื่องบินรบรุ่น เอฟ-16 ที่ผลิตโดยบริษัทล็อคฮีด มาร์ติน ที่ถูกดัดแปลงให้เป็นเครื่องบินไร้คนขับได้ทำการทดสอบบินเที่ยวแรกเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ในเส้นทางระหว่างสนามบินในรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ ไปยังอ่าวเม็กซิโก โดยใช้นักบินของกองทัพอากาศสหรัฐฯ เป็นผู้ควบคุมจากภาคพื้นดิน
เครื่องบินรบลำดังกล่าว ซึ่งมีมูลค่าในปี 1998 ถึง 19 ล้านดอลลาร์ ถูกจอดทิ้งไว้เฉยๆที่โรงเก็บเครื่องบินในรัฐอริโซนาเป็นเวลานานถึง 15 ปี สามารถบินขึ้นสู่ระดับความสูง 12.2 กม. ด้วยความเร็วประมาณ 1,800 กม./ ชม. บริษัทกล่าวว่า การดัดแปลงดังกล่าวอาจนำไปใช้เพื่อการช่วยฝึกนักบินให้คุ้นเคยกับการโจมตีศัตรู
ในการทดสอบบินครั้งนี้ นักบินได้ควบคุมให้เครื่องบินบินผาดโผนในลักษณะต่างๆได้ อาทิ การพลิกลำตัวเครื่อง และการบินพลิกโค้งกลับหัวเป็นรูปตัวเอส ซึ่งเป็นหนึ่งในกลวิธีเพื่อหักหลบการล็อคเป้าหมายโจมตีของศัตรู
โบอิ้งกล่าวว่า เครื่องบิน เอฟ-16 ลำนี้ จะถูกประกบด้วยเครื่องบินติดตามอีก 2 ลำ เพื่อให้สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังมีการติดตั้งอุปกรณ์ที่ทำให้เครื่องสามารถทำลายตัวเองได้หากอยู่ในภาวะคับขัน และเสริมว่าเครื่องบินสามารถทำอัตราเร่งได้ในระดับ 7จี แต่มีความสามารถสูงสุดได้ถึง 9จี ซึ่งเป็นระดับที่อาจเป็นอันตรายต่อนักบิน
ด้านพันอากาศเอกไรอัน อินแมน ผู้บังคับการฝูงบินเล็งเป้าหมายทางอากาศที่ 82 กล่าวว่า การทดสอบบินเป็นไปได้ด้วยดี และแทบไม่แตกต่างเมื่อเปลี่ยนเป็นเครื่องบินไร้คนขับ และจะใช้เครื่องบินดังกล่าวเพื่อการฝึกนักบินให้เรียนรู้การจัดการกับเครื่องบินรบของศัตรู
ปัจจุบันโบอิ้งมีเครื่องบิน เอฟ-16 ที่ดัดแปลงแล้วเป็นจำนวน 6 ลำ ซึ่งได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็น คิวเอฟ-16เอส และกองทัพอากาศได้เตรียมนำเครื่องบินบางส่วนไปใช้ในการทดสอบยิงด้วยอาวุธจริง
เคดิต http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1380101640&grpid&catid=06&subcatid=0600
วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 21:45:37 น.