สวัสดีเพื่อนๆๆ พันทิป ทุกๆๆท่าน เลยนะคะ เมย์สิงอยู่ใน นี้มานานพักนึงแล้ว แต่นานๆๆทีจะมาตั้งกระทู้ถาม พอดีช่วงนี้เครียดเรื่อง หลาน สาวค่ะ ท้าวความนิดนึงนะค่ะ
เมย์มีหลานสาว 2 คนค่ะ เป็นลูกของพี่ชาย คนโตอยู่ มัธยม 3 แล้วคะ ส่วนคนเล็กอยู่ ประถม 4 แต่คนละโรงเรียน หลานสาวทั้ง 2 คนกำพร้า พ่อค่ะ พี่ชายเราเสียไปได้ประมาณ 2 ปีแล้ว พี่สะใภ้เลยเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว บ้านเมย์เป็นครอบครัวแบบเก่าค่ะ คืออยู่กันหลายๆๆครอบครัว ในบริเวณบ้านเดียวกัน บ้านพ่อแม่ บ้านพี่สาว บ้านพี่ชาย ถัดๆกันไป เวลามีเรื่องอะไรจะคอยให้คำปรึษากันตลอดเวลา มีกับข้าวกับปลาทำกันก็จะถือถ้วยถือชามเอาไปแบ่ง ชีวิตสมัยก่อนก่อนที่พี่ชายจะเสีย ครอบครัวเรามีความสุขมาก เฮฮา สนุกสนาน เนื่องจากว่าพี่ชาย เป็นพี่คนโตคนเดียวของบ้าน พ่อที่ทำสวนทำนา ก็จะมีพี่ชายคอยช่วยเหลืออยู่เสมอ ส่วนครอบครัวของพี่ชายเองก็ทำสวนทำนา ตามรอยพ่อค่ะ...
หลังจากพี่ชายเสียไป พี่สะใภ้ที่มาจากต่างถิ่น (พี่สะใภ้เป็นคนอุดรธานีค่ะ) ก็อยู่กับครอบครัวเราเหมือนเดิม พี่สะใภ้เป็นคนอีสาน จากพื้นฐานครอบครัว พี่สะใภ้เรียนจบแค่ ป.4 พออ่านออก เขียนได้บ้าง แต่ไม่ถึงกับเก่งมาก ก็เปลี่ยนอาชีพ จากเคยทำสวน ทำนากับพี่ชายเมย์ เปลี่ยนมาขายส้มตำหน้าบ้านตามความถนัดของตัวเอง เวลาลูกสาวทั้ง 2 คนมีปัญหาเรื่องการเรียน ทำการบ้าน จะวิ่งมาปรึกษาเมย์ก่อนเป็นคนแรก เพราะว่าพี่สาวคนโตอีกคนดุมากกกก 555.. จะวิ่งมาบอก อาๆๆ สอนหน่อย เอาการบ้านสมัย ม.3 วิชาคณิตศาสตร์มาให้สอน ไอ้เราก็จบมานานแสนนาน ลืมไปบ้าง สอนได้บ้าง ไม่ได้บ้างตามประสา แต่หลานคนโตเป็นคนเรียนเก่งค่ะ ( คนแถวบ้านบอกเก่งเหมือนอามัน หุหุ...) เป็นเด็กกิจกรรม เรียนดี เวลามีงานอะไร หลานจะเป็นคนอันดับแรกๆๆ ที่อาจารย์จะเรียกใช้ อย่างเช่น พูดกล่าวประวัติของนักกีฬา วันกีฬาสีของโรงเรียน อาจารย์ส่งไปแข่งขันวิทยาศาสตร์ระดับภาค หลายงานมากกกก กวาดมาหมด ส่วนกิจกรรม หลานก็ทำได้ดี มีแข่งเต้น cover ตามประสาเด็กวัยรุ่น นางก็ไปกะเค้า แข่งร้องเพลง นางก็ไปกะเค้า เราเลยคิดว่าเรื่องเรียน ไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับหลานคนนี้
จนวันนึงหลาน กับพี่สะใภ้มาปรึกษาเรื่องที่จะเรียนต่อระดับ ม.4 หลานเลยมาบอกว่า จะขอไปสอบ รร.จุฬาภรณ์ ประจำจังหวัด ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ ตอนแรกเมย์ไม่รู้จักนะคะ เพราะเมย์เรียนสายอาชีพ มา เลยไม่ได้ศึกษาเรื่อง การเรียนระดับ มัธยมปลาย ด้วยความที่เราเป็นห่วง เห็นว่าจริงๆแล้ว ระดับ มัธยมปลายของจังหวัด มีโรงเรียนอีกมากมายที่อยู่ในระดับต้นๆๆ ของภาคตะวันออก แต่หลานต้องการที่จะไปเพราะบอกว่าเป็น รร.สำหรับวิทยาศาสตร์โดยตรง หลานบอกชอบเรียนมาก (จริงๆแล้ว เด็กระดับนี้ เค้าสามารถบอกตัวเองได้แล้วเหรอค่ะ ว่าเค้าต้องการเป็นอะไร ที่พูดแบบนี้เพราะว่าตัวเอง ปัจจุบันยังไม่ทราบเลยว่าตัวเองต้องการอะไร เพียงแค่มีเงินไว้มาเลี้ยงครอบครัวเป็นพอ 555..) เราบอกเหตุผล เรื่องที่ว่าแม่แกต้องอยู่บ้านกับน้อง 2 คนนะ แม่แกต้องทำงานหนักกว่าเดิม เพื่อที่จะส่งแกทั้ง 2 คนเรียนพร้อมๆๆกัน ถ้าแกไปเรียน โรงเรียนประจำใครจะคอยช่วยแม่แกทำงาน ( ปกติเวลาเด็กๆ 2คน กลับจากเรียน จะคอยช่วย แม่ขายส้มตำทุกวัน ) ยอมรับค่ะ ว่าเด็ก ๆ 2 คนเป็นเด็กขยัน ไม่เกเร ช่วยงานตลอดเวลา เรามองว่า แม่เค้าไม่มี power ในการบอกลูก ไม่มีการตัดสินใจที่เฉียบขาดในการบอกลูกว่า มันจะดีเหรออ... ไปเรียนแบบธรรมดาดีไหม คนในครอบครัวจะได้ไม่เป็นห่วง อย่างน้อยลูกก็ได้กลับมานอนบ้านด้วยกันทุกวัน บอกตรงๆๆ ว่าเหนื่อยกับ แม่มันเหมือนกัน ไม่มี power ในการดูแลลูก ลูกนอนดึกๆๆ 4 – 5 ทุ่ม ไม่บอกให้ลูกนอน ตัวเองหลับก่อน เมย์ต้องคอยเดินไปบอก พอมันเห็นเมย์เดินไปเท่านั้นแหละ มันวิ่งกันกระเจิงงง
สุดท้ายอยากจะปรึกษา หน่อยค่ะ ว่าจะมีวิธีคุย หรือวิธีสอน ลูกหลานยังไง เราพอรู้นะว่าการบังคับ มันไม่ดีแต่เรากำลังมองที่ กำลังของครอบครัวพี่สะใภ้ว่าไหวไหม ถ้ามันเลี่ยงได้ สมควรจะเลี่ยงไหม ประมาณนี้ค่ะ ขอบคุณทุกความเห็น ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะค่ะ
กลุ้มใจ .. เรื่องการ เลี้ยงหลาน ..ขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ..T_T
เมย์มีหลานสาว 2 คนค่ะ เป็นลูกของพี่ชาย คนโตอยู่ มัธยม 3 แล้วคะ ส่วนคนเล็กอยู่ ประถม 4 แต่คนละโรงเรียน หลานสาวทั้ง 2 คนกำพร้า พ่อค่ะ พี่ชายเราเสียไปได้ประมาณ 2 ปีแล้ว พี่สะใภ้เลยเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว บ้านเมย์เป็นครอบครัวแบบเก่าค่ะ คืออยู่กันหลายๆๆครอบครัว ในบริเวณบ้านเดียวกัน บ้านพ่อแม่ บ้านพี่สาว บ้านพี่ชาย ถัดๆกันไป เวลามีเรื่องอะไรจะคอยให้คำปรึษากันตลอดเวลา มีกับข้าวกับปลาทำกันก็จะถือถ้วยถือชามเอาไปแบ่ง ชีวิตสมัยก่อนก่อนที่พี่ชายจะเสีย ครอบครัวเรามีความสุขมาก เฮฮา สนุกสนาน เนื่องจากว่าพี่ชาย เป็นพี่คนโตคนเดียวของบ้าน พ่อที่ทำสวนทำนา ก็จะมีพี่ชายคอยช่วยเหลืออยู่เสมอ ส่วนครอบครัวของพี่ชายเองก็ทำสวนทำนา ตามรอยพ่อค่ะ...
หลังจากพี่ชายเสียไป พี่สะใภ้ที่มาจากต่างถิ่น (พี่สะใภ้เป็นคนอุดรธานีค่ะ) ก็อยู่กับครอบครัวเราเหมือนเดิม พี่สะใภ้เป็นคนอีสาน จากพื้นฐานครอบครัว พี่สะใภ้เรียนจบแค่ ป.4 พออ่านออก เขียนได้บ้าง แต่ไม่ถึงกับเก่งมาก ก็เปลี่ยนอาชีพ จากเคยทำสวน ทำนากับพี่ชายเมย์ เปลี่ยนมาขายส้มตำหน้าบ้านตามความถนัดของตัวเอง เวลาลูกสาวทั้ง 2 คนมีปัญหาเรื่องการเรียน ทำการบ้าน จะวิ่งมาปรึกษาเมย์ก่อนเป็นคนแรก เพราะว่าพี่สาวคนโตอีกคนดุมากกกก 555.. จะวิ่งมาบอก อาๆๆ สอนหน่อย เอาการบ้านสมัย ม.3 วิชาคณิตศาสตร์มาให้สอน ไอ้เราก็จบมานานแสนนาน ลืมไปบ้าง สอนได้บ้าง ไม่ได้บ้างตามประสา แต่หลานคนโตเป็นคนเรียนเก่งค่ะ ( คนแถวบ้านบอกเก่งเหมือนอามัน หุหุ...) เป็นเด็กกิจกรรม เรียนดี เวลามีงานอะไร หลานจะเป็นคนอันดับแรกๆๆ ที่อาจารย์จะเรียกใช้ อย่างเช่น พูดกล่าวประวัติของนักกีฬา วันกีฬาสีของโรงเรียน อาจารย์ส่งไปแข่งขันวิทยาศาสตร์ระดับภาค หลายงานมากกกก กวาดมาหมด ส่วนกิจกรรม หลานก็ทำได้ดี มีแข่งเต้น cover ตามประสาเด็กวัยรุ่น นางก็ไปกะเค้า แข่งร้องเพลง นางก็ไปกะเค้า เราเลยคิดว่าเรื่องเรียน ไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับหลานคนนี้
จนวันนึงหลาน กับพี่สะใภ้มาปรึกษาเรื่องที่จะเรียนต่อระดับ ม.4 หลานเลยมาบอกว่า จะขอไปสอบ รร.จุฬาภรณ์ ประจำจังหวัด ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ ตอนแรกเมย์ไม่รู้จักนะคะ เพราะเมย์เรียนสายอาชีพ มา เลยไม่ได้ศึกษาเรื่อง การเรียนระดับ มัธยมปลาย ด้วยความที่เราเป็นห่วง เห็นว่าจริงๆแล้ว ระดับ มัธยมปลายของจังหวัด มีโรงเรียนอีกมากมายที่อยู่ในระดับต้นๆๆ ของภาคตะวันออก แต่หลานต้องการที่จะไปเพราะบอกว่าเป็น รร.สำหรับวิทยาศาสตร์โดยตรง หลานบอกชอบเรียนมาก (จริงๆแล้ว เด็กระดับนี้ เค้าสามารถบอกตัวเองได้แล้วเหรอค่ะ ว่าเค้าต้องการเป็นอะไร ที่พูดแบบนี้เพราะว่าตัวเอง ปัจจุบันยังไม่ทราบเลยว่าตัวเองต้องการอะไร เพียงแค่มีเงินไว้มาเลี้ยงครอบครัวเป็นพอ 555..) เราบอกเหตุผล เรื่องที่ว่าแม่แกต้องอยู่บ้านกับน้อง 2 คนนะ แม่แกต้องทำงานหนักกว่าเดิม เพื่อที่จะส่งแกทั้ง 2 คนเรียนพร้อมๆๆกัน ถ้าแกไปเรียน โรงเรียนประจำใครจะคอยช่วยแม่แกทำงาน ( ปกติเวลาเด็กๆ 2คน กลับจากเรียน จะคอยช่วย แม่ขายส้มตำทุกวัน ) ยอมรับค่ะ ว่าเด็ก ๆ 2 คนเป็นเด็กขยัน ไม่เกเร ช่วยงานตลอดเวลา เรามองว่า แม่เค้าไม่มี power ในการบอกลูก ไม่มีการตัดสินใจที่เฉียบขาดในการบอกลูกว่า มันจะดีเหรออ... ไปเรียนแบบธรรมดาดีไหม คนในครอบครัวจะได้ไม่เป็นห่วง อย่างน้อยลูกก็ได้กลับมานอนบ้านด้วยกันทุกวัน บอกตรงๆๆ ว่าเหนื่อยกับ แม่มันเหมือนกัน ไม่มี power ในการดูแลลูก ลูกนอนดึกๆๆ 4 – 5 ทุ่ม ไม่บอกให้ลูกนอน ตัวเองหลับก่อน เมย์ต้องคอยเดินไปบอก พอมันเห็นเมย์เดินไปเท่านั้นแหละ มันวิ่งกันกระเจิงงง
สุดท้ายอยากจะปรึกษา หน่อยค่ะ ว่าจะมีวิธีคุย หรือวิธีสอน ลูกหลานยังไง เราพอรู้นะว่าการบังคับ มันไม่ดีแต่เรากำลังมองที่ กำลังของครอบครัวพี่สะใภ้ว่าไหวไหม ถ้ามันเลี่ยงได้ สมควรจะเลี่ยงไหม ประมาณนี้ค่ะ ขอบคุณทุกความเห็น ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะค่ะ