เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลารับศึกหนักที่ BlackBerry อดีตหนึ่งในสามผู้ผลิตสมาร์ทโฟนของโลกต้องผ่านไปให้ได้กับสถานการณ์หนีตายแบบรดต้นคอและเพื่อความอยู่รอดต่อไป ก็ทำให้บริษัทต้องงัดเอาแอพพลิเคชั่นสนทนาลูกหม้อ BBM พอร์ตลงแพลตฟอร์มมือถือคู่แข่งหรือการออกลิตภัณฑ์ใหม่ แต่อย่างไรก็ดี ดูทว่าความพยายามทั้งหมดแลดูจะยังไม่เป็นผล แถมยังจะซ้ำร้ายมากขึ้น
เมื่อล่าสุด T-Mobile ซึ่งเป็นโอเปอเรเตอร์มือถือรายใหญ่อันดับ 4 ในสหรัฐฯ ได้ออกมาประกาศว่า จะยุติการขายสมาร์ทโฟนจากแคนาดารายนี้ในสโตร์สหรัฐฯ ทั้งหมดอย่างเป็นทางการ ซึ่งนั่นก็หมายความ ถ้าผู้ใช้รายใดยังคงต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ BlackBerry อยู่ ก็จะต้องใช้วิธีซื้อโดยตรงจากผู้ผลิตหรือโอเปอเรเตอร์เจ้าอื่นแทน
ทั้งนี้ การตัดสินใจเลิกขายสมาร์ทโฟนผลไม้สีดำของ T-Mobile ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรนักที่จะกระทำต่อสมาร์ทโฟนที่มี 'ยอดขายลดลงอย่างต่อเนื่อง' ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากการที่ตัว BlackBerry เอง ที่ได้ออกมาประกาศว่าจะปลีกตัวออกจากตลาดผู้บริโภคและกระโดดเข้าสู่ตลาดองค์กรอย่างเต็มตัว ซึ่ง David Carey รองประธานบริหารฝ่ายบริการองค์กรของ T-Mobile อธิบายแก่แหล่งข่าวว่า ส่วนใหญ่แล้วสมาร์ทโฟน BlackBerry มักจะขายให้กับลูกค้าองค์กร ซึ่งก็เป็นกลุ่มลูกค้าที่ไม่ได้ตัดสินใจซื้อในสโตร์ นอกจากนี้ ไม่แน่ว่าการเลิกขายดังกล่าว อาจจะเป็นกลยุทธ์ในการเปิดพื้นที่ชั้นวางให้กับ Windows Phones ที่เพิ่งได้ Nokia เข้ามารับช่วงต่อก็เป็นได้
ทั้งนี้ ด้วยสถานการณ์ที่หายใจรวยริน จึงทำให้เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา BlackBerry ได้ตัดสินใจลงนามเซ็นสัญญาขายกิจการให้กับกลุ่มบริษัทนักลงทุน Fairfax Financial ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 4,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รวมถึงการออกมาประกาศปรับลดการจ้างงาน 4,500 อัตราทั่วโลก โดยจะมีผลในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2014
ที่มา The Next Web

T-Mobile เลิกวางขายดีไวซ์ BlackBerry ในสโตร์ทุกแห่ง เหตุเพราะยอดขายไม่กระเตื้อง
เมื่อล่าสุด T-Mobile ซึ่งเป็นโอเปอเรเตอร์มือถือรายใหญ่อันดับ 4 ในสหรัฐฯ ได้ออกมาประกาศว่า จะยุติการขายสมาร์ทโฟนจากแคนาดารายนี้ในสโตร์สหรัฐฯ ทั้งหมดอย่างเป็นทางการ ซึ่งนั่นก็หมายความ ถ้าผู้ใช้รายใดยังคงต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ BlackBerry อยู่ ก็จะต้องใช้วิธีซื้อโดยตรงจากผู้ผลิตหรือโอเปอเรเตอร์เจ้าอื่นแทน
ทั้งนี้ การตัดสินใจเลิกขายสมาร์ทโฟนผลไม้สีดำของ T-Mobile ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรนักที่จะกระทำต่อสมาร์ทโฟนที่มี 'ยอดขายลดลงอย่างต่อเนื่อง' ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากการที่ตัว BlackBerry เอง ที่ได้ออกมาประกาศว่าจะปลีกตัวออกจากตลาดผู้บริโภคและกระโดดเข้าสู่ตลาดองค์กรอย่างเต็มตัว ซึ่ง David Carey รองประธานบริหารฝ่ายบริการองค์กรของ T-Mobile อธิบายแก่แหล่งข่าวว่า ส่วนใหญ่แล้วสมาร์ทโฟน BlackBerry มักจะขายให้กับลูกค้าองค์กร ซึ่งก็เป็นกลุ่มลูกค้าที่ไม่ได้ตัดสินใจซื้อในสโตร์ นอกจากนี้ ไม่แน่ว่าการเลิกขายดังกล่าว อาจจะเป็นกลยุทธ์ในการเปิดพื้นที่ชั้นวางให้กับ Windows Phones ที่เพิ่งได้ Nokia เข้ามารับช่วงต่อก็เป็นได้
ทั้งนี้ ด้วยสถานการณ์ที่หายใจรวยริน จึงทำให้เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา BlackBerry ได้ตัดสินใจลงนามเซ็นสัญญาขายกิจการให้กับกลุ่มบริษัทนักลงทุน Fairfax Financial ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 4,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รวมถึงการออกมาประกาศปรับลดการจ้างงาน 4,500 อัตราทั่วโลก โดยจะมีผลในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2014
ที่มา The Next Web