นึกได้อีกเรื่องนึง ที่ผมคิดว่าควรจะแชร์ไว้... เรื่องของกิน
เล่าสู่กันฟัง เพื่อความเพลิดเพลินเจริญใจ เล่นๆ อิ อิ
คือ เมื่อซื้ออาหารถุงกลับมาบ้าน ....ทำไงดี ? ที่จะเก็บไว้ได้นานหน่อย
....ไม่บูด ไม่เสียเร็ว
ผมจะซื้อกับข้าวถุงเยอะ ถ้าเจอเจ้าประจำ ที่ทำอาหารภาคกลางอร่อย มาขาย และทันเจอ
(แกชอบมาไม่ตรงเวลาครับ)
อย่างแกงขี้เหล็ก ซื้อครั้งละ 5 ถุง / พะแนงหมู ทีละ 3 ถุง
แม่ค้าเค้ายังตักขายถุงละ 20 ครับ... (อำเภอนึง รอบนอกของเชียงใหม่)
และเขาจะรู้ว่า ของผม เมื่อตักใส่ถุงแล้ว ไม่ต้องโป่งลม จนถุงกลมเป็นบอลลูน แบบที่ขายให้คนอื่นๆ
แต่จะรัดปากแน่น อย่างถุงแบนๆ มาให้แทน...
เพราะผมเคยบอกกำชับ...ว่าจะเก็บอาหารเหล่านี้นี้ เรียงไว้ในถาด ใต้ช่องฟรีซ
และจะทะยอย ลากออกมากินทีละ 1-2 ขนาน...
อุปมาดั่งเสือดาว ที่ชอบเม้มเหยื่อ เมี่ยงหลบสัตว์อื่น ไว้บนคาคบไม้สูง...
แอบปีนขึ้นไปกินทีละส่วน
วันนี้ขาหลังซ้าย...พรุ่งนี้ขาหน้าขวา.....ประมาณนั้น
ว่าไปโน่นครับ .... 5555
ปลาทูนึ่งใส่แพ็ค ...ซื้อทีละ 3 แพ็ค อย่ามากกว่านี้
ซ้อนกันดีๆ จะพอดีกับความสูงของถาดตู้เย็น 6.7 คิวบิคฟุตครับ
เลื่อนลิ้นชักถาดได้....ไม่ฝืด ไม่ติด
เจอขนมพวกมันเทศเชื่อม (มีกะทิสดใส่ถุงเล็กแนบมา) ที่เขาเชื่อมจนน้ำเชื่อมเหนียวเป็นไซรัป ...น่ากิน
ตักขายถุงละ 20 (ก็เยอะอยู่ครับ-แบ่งกินได้ 2 ถ้วย)
ผมซื้อไว้ทีละ 2 ชุด ...กะกิน 4 รอบ .....
เพราะแน่ใจว่า สามารถเก็บได้เป็นอาทิตย์ กะทิไม่ทันบูด
พวก แกงบวดฟักทอง ปลากริมไข่เต่า...เลือกเจ้าอร่อย ที่พอวางใจเรื่องความสะอาด
ก็จะซื้อมาเก็บตุนไว้เหมือนกันครับ... 1 อาทิตย์ ผมว่า ก็เก็บได้
ส้มตำก็เหมือนกันครับ...สั่งเจ้าประจำ ทีละ 3 ถุง (วาไรตี้ทั้ง 3 อย่าง-ไม่ซ้ำ)
( นอกเรื่องนิด ทางเหนือ เรียกส้มตำ ว่า "ตำส้ม" ครับ
ภาษาจะสลับตำแหน่งคำกับภาคกลาง... แบบเก๋ไก๋ มีเอกลักษณ์มาก
เช่น เศษกระดาษ จะเรียก กระดาษเศษ ... กินได้ จะเรียก ดีกิน
...ขายได้ จะเรียก ได้ขาย
แต่ถ้าขายดี จะเรียก ขายม่วน
.....ถ้า ขายดี๊-ดี ก็ ขายม้วน-ม่วน ครับ)
ส้มตำของผม จะสั่ง ตำมะละกอ(ตำบะก้วยเต้ด)... ตำแตงกวา(ตำบะแต๋ง)...และตำมะม่วง (ตำบะม่วง)
ทุกอย่าง เป็นตำไทยใส่ปู ...ไม่ปลาร้า -(บะฮ้า เน่อคับ)
รสชาติ คือ เปรี้ยวนำ หวานตาม เผ็ดย่องมาข้างหลังติดๆ และเค็มนิดหน่อย -บะดีเก็มนัก
และ แม่ค้าจะแยกถั่วลิสงคั่ว ใส่ถุงเล็กให้... แบบเผื่อไว้โรยใส่ทีหลัง ให้กับส้มตำทั้ง 3 ชุด...
เพราะถ้าใส่ตอนตำไปเลย ....แช่ตู้เย็นไว้ ถั่วจะอมน้ำส้มตำ จนถั่ว "ยม"
... คือ นิ่ม ไม่กรอบ
...กิ๋น บะลำ-กินไม่อร่อยครับ
และ แน่นอน....ถุงส้มตำจะสั่งให้มัดมาอย่างถุงแป้บ...คือ ถุงแบนๆ
ไม่โป่งกลมแบบพิมพ์นิยมของตลาดกับข้าวถุงสมัยนี้
... เพราะมันจะกินที่ในถาดของเรา ซะเปล่าปลี้ ไงครับ
ก็จับบรรดาอาหารถุงทั้งหลาย ที่ซื้อมา ....สั่ง "จั๊ด แถว! "
เข้าแถวตอน เรียงหมู่ .. ขยับชิดกัน แช่ในถาดใต้ช่องฟรีซ...จนหมด
รวมทั้งถุงถั่วลิสงคั่วนั้นด้วย... ไว้ข้างนอก กลัวออกฮา-ขึ้นราครับ
(แช่แล้ว ถั่วคั่วก็ไม่นิ่มนะครับ ออกมากินยังกรอบ)
ไม่ทราบว่า มีท่านใดทำอย่างผมบ้างครับ...อย่างนี้ เก็บกินได้หลายวัน
นานกว่าเก็บธรรมดา นอกถาดครับ
แบบไปธุระ ตจว. 3-4 วัน...กลับมา ยังไม่บูด
เว้นซะแต่ ....ที่บ้านโดนตัดไฟ
อย่างนั้น คนละเคส เน่อครับ...อิ อิ
**********
(ช่องธรรมดา ก็เก็บอาหารที่เทจากถุงใส่ถ้วยแล้ว....ซึ่งจะทานต่อในวันนั้น
ส่วนช่องฟรีซขั้วโลกเหนือ.. สงวนไว้ทำ อิ-กลู (igloo)บ้านของคนเอสกิโม
สำหรับไว้แช่หมู แช่หน่อไม้หั่น แช่ลูกชิ้นเอ็น ...สดๆ คาวๆ พวกนั้นครับ)
ยืดอายุ " กับข้าวถุง "ที่ซื้อมา ... กับ "ถาดใต้ช่องฟรีซของตู้เย็น" กันดีไหมครับ ?
เล่าสู่กันฟัง เพื่อความเพลิดเพลินเจริญใจ เล่นๆ อิ อิ
คือ เมื่อซื้ออาหารถุงกลับมาบ้าน ....ทำไงดี ? ที่จะเก็บไว้ได้นานหน่อย
....ไม่บูด ไม่เสียเร็ว
ผมจะซื้อกับข้าวถุงเยอะ ถ้าเจอเจ้าประจำ ที่ทำอาหารภาคกลางอร่อย มาขาย และทันเจอ
(แกชอบมาไม่ตรงเวลาครับ)
อย่างแกงขี้เหล็ก ซื้อครั้งละ 5 ถุง / พะแนงหมู ทีละ 3 ถุง
แม่ค้าเค้ายังตักขายถุงละ 20 ครับ... (อำเภอนึง รอบนอกของเชียงใหม่)
และเขาจะรู้ว่า ของผม เมื่อตักใส่ถุงแล้ว ไม่ต้องโป่งลม จนถุงกลมเป็นบอลลูน แบบที่ขายให้คนอื่นๆ
แต่จะรัดปากแน่น อย่างถุงแบนๆ มาให้แทน...
เพราะผมเคยบอกกำชับ...ว่าจะเก็บอาหารเหล่านี้นี้ เรียงไว้ในถาด ใต้ช่องฟรีซ
และจะทะยอย ลากออกมากินทีละ 1-2 ขนาน...
อุปมาดั่งเสือดาว ที่ชอบเม้มเหยื่อ เมี่ยงหลบสัตว์อื่น ไว้บนคาคบไม้สูง...
แอบปีนขึ้นไปกินทีละส่วน
วันนี้ขาหลังซ้าย...พรุ่งนี้ขาหน้าขวา.....ประมาณนั้น
ว่าไปโน่นครับ .... 5555
ปลาทูนึ่งใส่แพ็ค ...ซื้อทีละ 3 แพ็ค อย่ามากกว่านี้
ซ้อนกันดีๆ จะพอดีกับความสูงของถาดตู้เย็น 6.7 คิวบิคฟุตครับ
เลื่อนลิ้นชักถาดได้....ไม่ฝืด ไม่ติด
เจอขนมพวกมันเทศเชื่อม (มีกะทิสดใส่ถุงเล็กแนบมา) ที่เขาเชื่อมจนน้ำเชื่อมเหนียวเป็นไซรัป ...น่ากิน
ตักขายถุงละ 20 (ก็เยอะอยู่ครับ-แบ่งกินได้ 2 ถ้วย)
ผมซื้อไว้ทีละ 2 ชุด ...กะกิน 4 รอบ .....
เพราะแน่ใจว่า สามารถเก็บได้เป็นอาทิตย์ กะทิไม่ทันบูด
พวก แกงบวดฟักทอง ปลากริมไข่เต่า...เลือกเจ้าอร่อย ที่พอวางใจเรื่องความสะอาด
ก็จะซื้อมาเก็บตุนไว้เหมือนกันครับ... 1 อาทิตย์ ผมว่า ก็เก็บได้
ส้มตำก็เหมือนกันครับ...สั่งเจ้าประจำ ทีละ 3 ถุง (วาไรตี้ทั้ง 3 อย่าง-ไม่ซ้ำ)
( นอกเรื่องนิด ทางเหนือ เรียกส้มตำ ว่า "ตำส้ม" ครับ
ภาษาจะสลับตำแหน่งคำกับภาคกลาง... แบบเก๋ไก๋ มีเอกลักษณ์มาก
เช่น เศษกระดาษ จะเรียก กระดาษเศษ ... กินได้ จะเรียก ดีกิน
...ขายได้ จะเรียก ได้ขาย
แต่ถ้าขายดี จะเรียก ขายม่วน
.....ถ้า ขายดี๊-ดี ก็ ขายม้วน-ม่วน ครับ)
ส้มตำของผม จะสั่ง ตำมะละกอ(ตำบะก้วยเต้ด)... ตำแตงกวา(ตำบะแต๋ง)...และตำมะม่วง (ตำบะม่วง)
ทุกอย่าง เป็นตำไทยใส่ปู ...ไม่ปลาร้า -(บะฮ้า เน่อคับ)
รสชาติ คือ เปรี้ยวนำ หวานตาม เผ็ดย่องมาข้างหลังติดๆ และเค็มนิดหน่อย -บะดีเก็มนัก
และ แม่ค้าจะแยกถั่วลิสงคั่ว ใส่ถุงเล็กให้... แบบเผื่อไว้โรยใส่ทีหลัง ให้กับส้มตำทั้ง 3 ชุด...
เพราะถ้าใส่ตอนตำไปเลย ....แช่ตู้เย็นไว้ ถั่วจะอมน้ำส้มตำ จนถั่ว "ยม"
... คือ นิ่ม ไม่กรอบ
...กิ๋น บะลำ-กินไม่อร่อยครับ
และ แน่นอน....ถุงส้มตำจะสั่งให้มัดมาอย่างถุงแป้บ...คือ ถุงแบนๆ
ไม่โป่งกลมแบบพิมพ์นิยมของตลาดกับข้าวถุงสมัยนี้
... เพราะมันจะกินที่ในถาดของเรา ซะเปล่าปลี้ ไงครับ
ก็จับบรรดาอาหารถุงทั้งหลาย ที่ซื้อมา ....สั่ง "จั๊ด แถว! "
เข้าแถวตอน เรียงหมู่ .. ขยับชิดกัน แช่ในถาดใต้ช่องฟรีซ...จนหมด
รวมทั้งถุงถั่วลิสงคั่วนั้นด้วย... ไว้ข้างนอก กลัวออกฮา-ขึ้นราครับ
(แช่แล้ว ถั่วคั่วก็ไม่นิ่มนะครับ ออกมากินยังกรอบ)
ไม่ทราบว่า มีท่านใดทำอย่างผมบ้างครับ...อย่างนี้ เก็บกินได้หลายวัน
นานกว่าเก็บธรรมดา นอกถาดครับ
แบบไปธุระ ตจว. 3-4 วัน...กลับมา ยังไม่บูด
เว้นซะแต่ ....ที่บ้านโดนตัดไฟ
อย่างนั้น คนละเคส เน่อครับ...อิ อิ
**********
(ช่องธรรมดา ก็เก็บอาหารที่เทจากถุงใส่ถ้วยแล้ว....ซึ่งจะทานต่อในวันนั้น
ส่วนช่องฟรีซขั้วโลกเหนือ.. สงวนไว้ทำ อิ-กลู (igloo)บ้านของคนเอสกิโม
สำหรับไว้แช่หมู แช่หน่อไม้หั่น แช่ลูกชิ้นเอ็น ...สดๆ คาวๆ พวกนั้นครับ)