ต้อม ปิยะพันธุ์ เจออาถรรพ์เกาะฮาชิมะ? อุบัติเหตุ 7 คันรวด????

ผมไปเจอข่าวอุบัติเหตุของ คุณต้อม ผกก.หนังเรื่องใหม่ที่จะเข้าโรงเดือนตุลาคมนี้
(เค้าเคยทำหนังเรื่อง แฟนเก่า, แฟนใหม่)
เกี่ยวกับเกาะอาถรรพ์ ที่มีความน่ากลัวติดอันดับโลกอย่าง "เกาะฮาชิมะ"

คหสต ครั้งแรกที่เห็นข้อมูลกับรูปเกาะฮาชิมะ ผมว่ามันก็น่ากลัวนะ หลอนๆ ดี
แต่ผมยังไม่อินกับเรื่องราวของเกาะเท่าไร (หรืออาจเป็นเพราะผมชอบสไตล์-
เรื่องเล่าแบบไทยๆ มีประวัติเยอะๆ อะไรแบบนี้ก็เป็นได้)
ผมรอดูเทรลเลอร์หนังอีกที ว่ามันจะเล่าเรื่องและสร้างโครงเรื่องให้ผมกระจ่างใจ
และอยากเข้าไปดูในโรงมั้ย คาดว่าน่าจะปล่อยเร็วๆ นี้ (เพราะหนังจะเข้าฉาย 31 ตุลานี้แล้วครับ)
อยากดูออมแสดงหนังผี หนังสยองขวัญ แบบจริงจังสักครั้งนึงครับ (แหม่) จุ๊บๆ

อ้อ พออ่านข่าวจบแล้ว.... ผมไม่ได้ติดใจเรื่องอะไรเลยครับ นอกจาก....
สงสัยขึ้นมาว่าสรุปแล้ว ถ้าเราทำบุญ ไม่ว่าจะศาสนาอะไรก็ตาม
ผลบุญที่ส่งไปหาคนที่เราตั้งใจทำไปให้ เค้าจะได้รับมั้ยนะ? อย่างถ้าเราทำให้วิญญาณ
ที่ฮาชิมะ... แต่เป็นพระไทย วิญญาณเหล่านั้นจะรู้เรื่องหรือเปล่า? จะได้รับมั้ย?
หรือ.........โลกนั้น ก็มีพื้นที่กั้นเหมือนเขตแดนแบ่งประเทศเหมือนกัน โอนรับบุญกันได้???
หรือถ้าอยู่ประเทศอะไร วิญญาณก็ต้องกลับไปประเทศนั้น??
หรือมีสถานทูต?? ยื่นเรื่องได้ในประเทศนั้น???

ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย (คิดไปเรื่อยจริงๆ เลย) แต่ผมก็เชื่อนะครับว่า ถ้าเราตั้งใจทำอะไรแล้ว
ด้วยความศรัทธาผลบุญกุศลเหล่านั้นจะถูกส่งไปถึงคนเหล่านั้นอย่างแน่นอน

-----------------------
เกือบลืมแปะข่าวให้อ่านครับ (ขออภัย)

ชนจริง 7 คันรวด 'ต้อม' เชื่อน่าจะลางบอกเหตุ
ห่างกำกับหนังหลอนมา3ปี ผู้กำกับ “ต้อม-ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์” เจ้าของงานกำกับภาพยนตร์ แฟนเก่า ,  แฟนใหม่ มีโอกาสวนมาร่วมงานกับค่ายหนัง M๓๙ ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องใหม่ “ฮาชิมะ โปรเจกต์” ไม่เชื่อต้องลบหลู่ ซึ่งยังคงสไตล์แนววัยซ่าส์กล้าระทึกขวัญ นำแสดงโดยแก๊งค์นักแสดงวัยรุ่น “ไมค์-พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล, อเล็กซ์ เรนเดลลล์, สายป่าน อภิญญา สกุลเจริญสุข , ออม สุชาร์ มานะยิ่ง ,เจสซี่ เมฆวัฒนา ไปถ่ายทำกันถึงเกาะ “ฮาชิมะ” ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีชื่อเสียงในทางหลอนติดอันดับ 2 ของโลก กำหนดเข้าฉาย 31 ตุลาคม นี้

ยังไม่ทันจะปิดโปรเจกต์ ผู้กำกับก็ได้ประเดิมความระทึกก่อนใครโดยจู่ๆรถคันโปรดก็เจออุบัติเหตุชน 7 คันรวดพังยับบริเวณสะพานข้ามแยกเกษตรบางเขนไป แต่เดชะบุญที่เจ้าตัวไม่เป็นอะไรมากแค่เคล็ดขัดยอกเล็กน้อย หลังจากนั้นจึงรีบรุดทำบุญโดยด่วน "ไม่อยากจะคิดว่ามันจะเกี่ยวอะไรกับงานใหม่ที่เรากำลังทำ แต่ทุกปีที่เราจับงานแนวนี้มันก็มีเรื่องทุกครั้ง ที่ห่างไป 3 ปีไม่ได้ทำหนังแนวระทึกก็ไม่มีเหตุอะไร แต่เท่าที่สังเกตุตัวเองดูนะพอเริ่มทำงานมันก็มีเหตุทุกที คราวนี้มันกลางวันแสกๆ อยู่ดีๆก็มีรถพุ่งมาจากข้างหลัง มาชนเข้าอย่างจังรถเค้าพังเกือบทั้งคัน ส่วนรถเราก็พุ่งไปชนคันหน้าและชนต่อกันไปอีก 7 คันรวด จนรถเราข้ามเข้าไปอยู่อีกเลน โชคดีที่ไม่มีรถสวนมา ไม่อย่างงั้นคงไม่รอด

มานั่งคิดๆดูแล้ว ตั้งแต่ถ่ายหนังกลับมาจากญี่ปุ่น มันมีความรู้สึกแปลกๆ เกิดขึ้นหลายอย่าง อย่างพี่มีไปถ่ายหนังอีกเรื่องหลังจากกลับมาไทยแล้ว ในฉากมันต้องเข้าไปถ่ายในคุก ปกติเวลาถ่ายหนังในสถานที่แบบนั้นมันจะมีเคล็ดว่าเวลาเดินเข้าออกต้องถอยหลังนะ แต่ว่าวันนั้นไม่ได้ทำเดินเข้าเดินออกปกติ กลับมาบ้านก็รู้สึกติดในใจแหละว่า มันเหมือนจะมีอะไรหรือเปล่านะ ความรู้สึกมันคือคล้ายๆกับเราจะต้องมีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลอะไรแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากคิดแค่ว่าก็การทำงานปกติแหละ ไม่น่ามีอะไร จนมาเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดนี้แหล่ะ

มีลางบอกเหตุอะไรก่อนหน้านั้นมั๊ย? "มีอยู่เรื่องหนึ่งที่รู้สึกแปลกใจมากเหมือนกันก็คือ ก่อนหน้านั้นวันนึง พี่รู้สึกว่ารถที่ขับอยู่มันดูไม่มีสีสัน (สีขาวทั้งคัน) ดูแล้วมันจืดๆ ไม่เข้ากับเรา เลยอยากหาสติ๊กเกอร์มาแปะข้างรถเพื่อให้มันดูมีอะไรขึ้นหน่อย ก็เลยไปบอกพี่ชายว่าอยากได้สติ๊กเกอร์ UN(สหประชาชาติ) มาติดคิดว่ามันน่าจะดูเท่ห์ดีนะ พี่ชายก็เลยไปหารูปเรฟเฟอรเร้นท์มาให้ดู แต่เค้าก็บอกนะว่าอย่าติดเลย ไม่มีใครเค้าติดกันหรอก รถที่ติดสติ๊กเกอร์แบบนี้มันโดนระเบิดกันหมดแหละ เราก็ยังคิดอยู่ว่า เหรอๆ แต่ก็คงไม่เป็นไรมั้ง

"จนได้ดูรูปที่เค้าส่งมา มันก็เป็นรูปรถสีขาวเหมือนเรา แต่ว่าเยินทั้งคัน คือเหมือนกับว่าโดนระเบิดมาอะไรแบบนั้น ก็ยังไม่ได้ล้มเลิกความคิดนะ แค่ยังไม่ได้ติดเฉยๆ สรุปว่าวันถัดมารถก็มาโดนชนซะก่อน และที่ตกใจที่สุดก็คือ รูปรถที่พี่ชายส่งมาให้ดูเป็นเรฟเฟอเร้นท์กับสภาพรถเราที่โดนชนมันคล้ายกันมาก ดีที่ไม่ตาย ไม่งั้นคงไม่ได้กลับไปทำบุญที่ญี่ปุ่นแล้ว ตอนนี้ก็มานั่งนึกไปถึงว่าเราเคยคิดว่าจะกลับไปทำบุญที่เมืองที่ไปถ่ายซึ่งมันก็แบบว่าขึ้นชื่อในเรื่องความหลอนติดอันดับ 2 ของโลก เพราะตอนที่ไปเหมือนว่าเราได้ไหว้เค้าตอนที่เราขึ้นไปถ่ายบนเกาะกัน แต่ขากลับ

"เหมือนว่าเรากลับออกมาเลยโดยไม่ได้ลา ก็คิดว่าจะกลับไปช่วงก่อนหนังเข้าหรือหลังหนังเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ตั้งใจจะไปให้ถึงที่เลย ระหว่างที่รอกลับไปทำบุญที่นู่นก็ทำสังฆทานที่วัดในบ้านเราไปพลางๆ ก่อน ก็คิดว่าเค้าคงตามมาทวงน่ะ จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีรถใช้ ไปไหนมาไหนต้องไปแท็กซี่ แต่ว่าเมื่อ 911 ที่ผ่านมา ทาง M๓๙ เค้าก็ให้เราไปบวงสรวงแล้วนะก็เพื่อความสบายใจ เห็นรถพี่พังยับขนาดนั้นไม่ทำก็คงไม่ได้แล้ว  ก็ทำบุญให้ไปก่อนแหล่ะ ไม่รู้ว่าจะเขาจะได้รับไหมนะ หมายถึงถ้าเขาเป็นญี่ปุ่นเขาจะเข้าใจไหมว่าเราทำให้เขาแล้ว เดี๋ยวค่อยกลับไปทำที่โน่นอีกที

"ไม่อยากจะเล่าเลยว่า ทางทีมเขาบังคับให้เราไปดูฟุตหนังว่ามันมีอะไรติดมาไหม เขาจะเอาไปเสนอรายการ ปรากฏว่ามันไปเจออะไรบางอย่างในเทปที่เราไปดูโลเคชั่น ก่อนที่จะถ่ายทำจริง คือเกาะนี้เขาไม่ให้ขึ้นหลังพระอาทิตย์ตกดิน แต่วันนั้นพิเศษตรงที่เราได้ขึ้นไปดูโลเกชั่น ไปถึงเกาะกันตอนตี 3 ก็รีบๆถ่ายกลับมาเมืองไทยก็ไม่ได้สังเกตอะไร จนมาเมื่อไม่กี่วันนี้แหล่ะ เราก็ไปดูมันมีความประหลาดที่อธิบายไม่ได้ว่ามายังไง มันก็เป็นเรื่องที่ผมรู้สึกเซอร์ไพรส์มาก เพราะที่ผ่านๆมาเขาก็ไม่ได้ตามมาให้เราเห็นขนาดนี้".

cr.http://m.thairath.co.th/content/ent/371895
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่