#1
“นัท....นัท.... ไอ้นัท ตื่นเว้ย สายแล้ว”
เสียงผู้คุมประจำบ้านตะโกนปลุกผมในยามเช้าตรู่
“ตื่นแล้วๆ”
ผมงัวเงียลุกออกจากเตียง เข้าห้องน้ำ
เช้านี้เป็นเช้าวันจันทร์แรกของชีวิตนักเรียน ม 4 ของผม
เพื่อนใหม่ และโรงเรียนใหม่
บรรยากาศวันแรกของการเปิดภาคเรียน เหมือนนกกระจอกที่แตกรังสำหรับนักเรียนเก่า
แต่สำหรับนักเรียนใหม่อย่างผม มีแต่ความเงียบงัน ไหนจะวุ่นวายกับการเข้าแถวตาม
คณะสีของตนเอง ตารางเรียนที่เพิ่งได้รับแจกวันแรก การเดินหาตึกเรียนอีก
ผมอยู่ห้อง 4/1 สายวิทย์คณิต ห้องแรก ที่หลายคนบอกว่าห้องเทพ
หน้าตาเพื่อนในห้องผมจึงเหมือนกับเหล่าทวยเทพในตำนาน
ร้อยละห้าสิบของคนในห้องใส่แว่น และกระเป๋าตุงเต็มไปด้วยชีท แต่ผมละ
กระเป๋าแบนๆ สมุดเล่มเดียวจดได้ทุกวิชา นี่ผมไม่เหมาะกับห้องนี้เลยนะ
ผมถูกบังคับให้เรียนวิทย์คณิต ตามลูกพี่ลูกน้อง โดยที่ใจผมอยากเรียนศิลป์ภาษา
แต่ในเมื่อไม่สามารถย้อนเวลาได้แล้วนินา ก็ต้องก้มหน้ารับสภาพมันต่อไป
ในห้องเรียนคาบแรก ที่นั่งด้านหน้าถูกจับจองแน่น เหลือหลังห้องที่ว่างอยู่
“นายๆ นั่งกับเราซิ เราไม่มีเพื่อน”
“ขอบใจนะ”
หญิงสาวหน้าตาสวย เรียกให้ผมนั่งลงโต๊ะข้างๆของเธอ
“เราชื่อปุ้ยนะ นายชื่อไร”
“เราชื่อนัท”
ปุ้ยที่ใบหน้าสวย ยิ้มหวานให้ผม
เพื่อนคนแรกในรั้ว ม ปลายในโรงเรียนนี้ของผมได้เกิดแล้ว
เวลาว่างหลังพักกลางวัน ผมกับปุ้ยก็สนิทกันมากขึ้น
“เรามีแฟนแล้วนะนัท ไม่ต้องคิดมาจีบเรานะ ฮ่าๆๆ”
ปุ้ยหัวเราะเสียงดัง
“เปล่าสักหน่อย เราก็มีแฟนแล้ว” ผมตอบเสียงอ่อยๆ
“สวยป่ะ” ปุ้ยหันมามอง
“ก็ธรรมดานะ” ผมพยายามตอบแบบเสียไม่ได้
“เรียนที่นี่ป่าว” ปุ้ยยังไม่ลดละ
“ป่าวๆ เรียนที่อื่น”
ใจจริงๆอยากจะบอกว่าเกิดมาเรายังไม่เคยมีแฟนเลยนะปุ้ย
ความรักเป็นยังไงเรายังไม่รู้เลย
“แล้วแฟนปุ้ยละ” ผมถามกลับไปบ้าง
“เรียนที่นี่ละ อยู่ห้อง สาม เหมือนจะมาจากโรงเรียนเดิมของนัทนะ”
“อ่อๆ”
“ไปขึ้นเรียนคาบบ่ายกันดีกว่า”
ปุ้ยเดินนำหน้าผมไปลิ่ว อะไรที่ทำให้เธอมาสนิทและคุยกับผมนะ
.......
“นัท เลิกเรียนแล้วไปไหนป่าว”
“เปล่า พ่อมารับ”
“งั้นยื่นเป็นเพื่อนเราหน่อยจิ”
“อืมได้”
ปุ้ยยืนรอใครสักคนตรงประตูทางออกของโรงเรียน
ไม่นานนักมีผู้ชายหุ่นนักกีฬาผิวสีแทนเดินตรงเข้ามาที่เราสองคนยื่น
“อาร์ม นี่เพื่อนเรา ชื่อนัท เรียนห้องเดียวกัน นัท นี่อาร์มแฟนเราเอง”
ผมยิ้มเล็กๆตอบรับอาร์มไป
ที่แท้ยืนรอแฟนนี่เอง ผมเหลือบไปที่ประตู เห็นรถพ่อมาแล้ว
จึงขอตัวออกมาจากบทสนทนาที่เริ่มจะหวานขึ้นจนเลี่ยน
...ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์
เพื่อนเก่าสมัย ม ต้น ก็นัดรวมพลกันที่ห้าง
ผมเองก็ปฏิเสธไม่ได้ เพราะถ้าขาดไปคนนึง งานก็ต้องล่ม
ผมเองก็ไม่อยากจะถูกเพื่อนประนามอย่างนั้น
ผมมาถึงที่นัดหมายเกือบคนสุดท้าย ยังเหลือแอนอีกคน
ผ่านไปสักครึ่งชั่วโมง แอนก็มาถึงพร้อมกับแฟนคนใหม่ที่ตั้งใจ
จะเอามาอวดเพื่อนๆในวันนี้
“ทุกคนๆ นี่แฟนเราเองนะ ชื่ออาร์ม”
ผมมองไปที่หน้าอาร์ม และอาร์มเองดูตกใจที่มองเห็นผม
..................
วันจันทร์ถัดมา พ่อผมก็ขับรถมาส่งผมที่โรงเรยนเช่นเคย
ผมมองเห็นปุ้ยตัวปลิวเดินมากับอาร์มที่ถือกระเป๋าให้
ผมยิ้มให้ทั้งคู่ อาร์มเองก็ยิ้มแห้งๆให้ผม
“วันหยุดไปไหนมานัท” ปุ้ยทักขึ้น
“ไปเดินห้างกะดูหนังมา แล้วปุ้ยละ”
“เราอยู่บ้าน ก็คนนี่สิ ดันไม่ว่างไปทำธุระกับที่บ้าน”
ผมมองไปที่อาร์ม ซึ่งตอนนี้ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ มองไปทางอื่น
“เดี๋ยวเราไปใต้ตึกนะ แล้วเจอกัน”
ผมขอตัวออกมาจากทั้งสองคน มุ่งหน้าไปห้องสมุด
ผมชอบห้องสมุดช่วงเช้าเพราะเงียบ ไม่ค่อยมีคนเข้ามาใช้บริการเท่าไหร่นัก
“ไงนัท แอบซุ่มมาอ่านหนังสือคนเดียวนี่หว่า” โจรอ้วนผอมสำหรับผมมาแระ
บีกับไกร เพื่อนต่างไซส์อยู่ห้องเดียวกันกับผม นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่แล้ว
“ไง ชอบอ่านหนังสือเหมือนกันเหรอ” ผมทัก
“ก็เป็นนักเรียนก็ต้องอ่านหนังสือสิวะ” ไกรพูดขึ้น
มันก็ถูกนะ ถ้าไม่อ่านหนังสือ แล้วจะอ่านอะไรละ
ช่วงสองอาทิตย์นี้ผมเองก็จำชื่อเพื่อนทั้งสามสิบสองคนในห้องได้ครบแล้ว
ต่างพากันพัฒนาความสัมพันธ์ไปเรื่อยๆ ตอนเย็นหลังเลิกเรียน
แต่ละคนก็มุ่งหน้าเพื่อไปเรียนพิเศษ เรียนติว แต่สำหรับผมส่วนใหญ่จะกลับบ้าน
“นัทๆ เย็นนี้เลิกเรียนแล้วไปไหนป่าว” ปุ้ยถามผมขณะกำลังเก็บหนังสือลงกระเป๋า
“ป่าว กลับบ้านปกติ”
“พ่อมารับป่าว”
“ป่าว วันนี้กลับเอง”
“อยู่เป็นเพื่อนเราหน่อยจิ”
“มีอะไรเหรอ”
“วันนี้อาร์มเขามีคัดนักบอลทีมโรงเรียนอ่ะ อยู่เป็นเพื่อนเรานะ”
อาร์มอีกแล้ว ผมไม่ค่อยชอบหน้าผู้ชายคนนี้เลย ผมเกลียดคนเจ้าชู้
“เย็นมากป่าว ไม่งั้นเราจะได้บอกโทรบอกที่บ้าน”
“โทรเลยๆ” ปุ้ยคะยั้นคะยอให้ผมโทร
ผมเดินลงไปที่ชั้น 1 เพื่อกดโทรศัพท์ไปบอกที่บ้าน
โดยมีปุ้ยยืนประกบแอบฟังอยู่ข้างหลัง
“ห้ามเกินทุ่มนึงนะปุ้ย” ผมหันไปบอกคนข้างๆที่ทำหน้าแป้นแล้นใส่
ปุ้ยซื้อน้ำดื่ม ขนม สำหรับอาร์ม ไปนั่งที่แสตนเชียร์ข้างสนาม
ส่วนผมหยิบสมุดการบ้านมานั่งทำที่ขั้นแสตนรอ
“โหย จะขยันอะไรตอนนี้อ่ะนัท ไม่ดูบอลเหรอ”
“ไม่อ่ะ เราไม่ชอบเล่นกีฬา”
“อะไรว่ะ ไม่แมนเลย” ใช่สิ ก็เราไม่แมนนิหว่า
ผมหันหลังไปมองที่สนามที่ตอนนี้เต็มไปด้วยนักกีฬา
ที่ตั้งใจเข้ามาคัดเลือกทีมโรงเรียน และแน่นอนว่า
รอบข้างสนามจึงเต็มไปด้วยสาวๆ ที่มาให้กำลังใจแฟนของตนเอง
“นัทๆ นัทดูสิ อาร์มเล่นเก่งมากเลยอ่ะ”
ปุ้ยที่พยายามบังคับให้ผมละจากการบ้านหันไปมองเกมส์
“อืม เก่ง ชาบูๆ”
“อะไรคือชาบู” ปุ้ยถามงงๆ
“ไม่รู้ว่ะ จำเขามา”
ผ่านไปสามสิบนาที
ก็เปลี่ยนผู้เล่น อาร์มก็เดินมาหาปุ้ยที่แสตน
แน่นอนว่า ทั้งคู่ลืมไปว่ามีผมอยู่ข้างๆ
กลายเป็นสิ่งมีชีวิตรอบกายที่ไร้ตัวตนไปซะงั้น
หลังจากเสร็จการคัดเลือก เราสามคนก็เดินไปหาอะไรทานกันหน้าโรงเรียน
สั่งอาหารเสร็จ ปุ้ยก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ก่อนที่อาร์มจะทำลายความเงียบ
“ไม่ลงมาคัดบอลด้วยกัน”
“เราเล่นกีฬาไม่เป็น”
“อืม ก็ว่าอยู่”
“เป็นแฟนกับปุ้ยนานยัง” ผมถามกลับไปบ้าง
“นานแล้ว”
“แล้วกับแอนละ”
“เดือนนึงมั้ง”
การสนทนาสิ้นสุดลงเมื่อปุ้ยเดินกลับมา
พร้อมกับอาหารที่สั่งที่ถูกนำมาวางที่โต๊ะ
โดยที่ไม่ต้องให้เสียเวลาเราสามคนก็ตั้งหน้าตั้งตาทาน
เพราะหิวมากกันทั้งสามคน
“เออ นัท ที่นัทจะบอกเราเมื่อตอนบ่าย เรื่องอะไรนะ”
ปุ้ยพูดขึ้น อาร์มวางช้อนแล้วหันมามองหน้าผม
“อ่อ แล้วแค่จะบอกว่าเราไม่ชอบคนเจ้าชู้”
“อ้าวเหรอ นึกว่าอะไร เราก็ไม่ชอบเหมือนกันนั่นแหละ”
ผมก้มหน้าทานต่อโดยไม่มองหน้าอาร์ม
(Y) เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ
“นัท....นัท.... ไอ้นัท ตื่นเว้ย สายแล้ว”
เสียงผู้คุมประจำบ้านตะโกนปลุกผมในยามเช้าตรู่
“ตื่นแล้วๆ”
ผมงัวเงียลุกออกจากเตียง เข้าห้องน้ำ
เช้านี้เป็นเช้าวันจันทร์แรกของชีวิตนักเรียน ม 4 ของผม
เพื่อนใหม่ และโรงเรียนใหม่
บรรยากาศวันแรกของการเปิดภาคเรียน เหมือนนกกระจอกที่แตกรังสำหรับนักเรียนเก่า
แต่สำหรับนักเรียนใหม่อย่างผม มีแต่ความเงียบงัน ไหนจะวุ่นวายกับการเข้าแถวตาม
คณะสีของตนเอง ตารางเรียนที่เพิ่งได้รับแจกวันแรก การเดินหาตึกเรียนอีก
ผมอยู่ห้อง 4/1 สายวิทย์คณิต ห้องแรก ที่หลายคนบอกว่าห้องเทพ
หน้าตาเพื่อนในห้องผมจึงเหมือนกับเหล่าทวยเทพในตำนาน
ร้อยละห้าสิบของคนในห้องใส่แว่น และกระเป๋าตุงเต็มไปด้วยชีท แต่ผมละ
กระเป๋าแบนๆ สมุดเล่มเดียวจดได้ทุกวิชา นี่ผมไม่เหมาะกับห้องนี้เลยนะ
ผมถูกบังคับให้เรียนวิทย์คณิต ตามลูกพี่ลูกน้อง โดยที่ใจผมอยากเรียนศิลป์ภาษา
แต่ในเมื่อไม่สามารถย้อนเวลาได้แล้วนินา ก็ต้องก้มหน้ารับสภาพมันต่อไป
ในห้องเรียนคาบแรก ที่นั่งด้านหน้าถูกจับจองแน่น เหลือหลังห้องที่ว่างอยู่
“นายๆ นั่งกับเราซิ เราไม่มีเพื่อน”
“ขอบใจนะ”
หญิงสาวหน้าตาสวย เรียกให้ผมนั่งลงโต๊ะข้างๆของเธอ
“เราชื่อปุ้ยนะ นายชื่อไร”
“เราชื่อนัท”
ปุ้ยที่ใบหน้าสวย ยิ้มหวานให้ผม
เพื่อนคนแรกในรั้ว ม ปลายในโรงเรียนนี้ของผมได้เกิดแล้ว
เวลาว่างหลังพักกลางวัน ผมกับปุ้ยก็สนิทกันมากขึ้น
“เรามีแฟนแล้วนะนัท ไม่ต้องคิดมาจีบเรานะ ฮ่าๆๆ”
ปุ้ยหัวเราะเสียงดัง
“เปล่าสักหน่อย เราก็มีแฟนแล้ว” ผมตอบเสียงอ่อยๆ
“สวยป่ะ” ปุ้ยหันมามอง
“ก็ธรรมดานะ” ผมพยายามตอบแบบเสียไม่ได้
“เรียนที่นี่ป่าว” ปุ้ยยังไม่ลดละ
“ป่าวๆ เรียนที่อื่น”
ใจจริงๆอยากจะบอกว่าเกิดมาเรายังไม่เคยมีแฟนเลยนะปุ้ย
ความรักเป็นยังไงเรายังไม่รู้เลย
“แล้วแฟนปุ้ยละ” ผมถามกลับไปบ้าง
“เรียนที่นี่ละ อยู่ห้อง สาม เหมือนจะมาจากโรงเรียนเดิมของนัทนะ”
“อ่อๆ”
“ไปขึ้นเรียนคาบบ่ายกันดีกว่า”
ปุ้ยเดินนำหน้าผมไปลิ่ว อะไรที่ทำให้เธอมาสนิทและคุยกับผมนะ
.......
“นัท เลิกเรียนแล้วไปไหนป่าว”
“เปล่า พ่อมารับ”
“งั้นยื่นเป็นเพื่อนเราหน่อยจิ”
“อืมได้”
ปุ้ยยืนรอใครสักคนตรงประตูทางออกของโรงเรียน
ไม่นานนักมีผู้ชายหุ่นนักกีฬาผิวสีแทนเดินตรงเข้ามาที่เราสองคนยื่น
“อาร์ม นี่เพื่อนเรา ชื่อนัท เรียนห้องเดียวกัน นัท นี่อาร์มแฟนเราเอง”
ผมยิ้มเล็กๆตอบรับอาร์มไป
ที่แท้ยืนรอแฟนนี่เอง ผมเหลือบไปที่ประตู เห็นรถพ่อมาแล้ว
จึงขอตัวออกมาจากบทสนทนาที่เริ่มจะหวานขึ้นจนเลี่ยน
...ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์
เพื่อนเก่าสมัย ม ต้น ก็นัดรวมพลกันที่ห้าง
ผมเองก็ปฏิเสธไม่ได้ เพราะถ้าขาดไปคนนึง งานก็ต้องล่ม
ผมเองก็ไม่อยากจะถูกเพื่อนประนามอย่างนั้น
ผมมาถึงที่นัดหมายเกือบคนสุดท้าย ยังเหลือแอนอีกคน
ผ่านไปสักครึ่งชั่วโมง แอนก็มาถึงพร้อมกับแฟนคนใหม่ที่ตั้งใจ
จะเอามาอวดเพื่อนๆในวันนี้
“ทุกคนๆ นี่แฟนเราเองนะ ชื่ออาร์ม”
ผมมองไปที่หน้าอาร์ม และอาร์มเองดูตกใจที่มองเห็นผม
..................
วันจันทร์ถัดมา พ่อผมก็ขับรถมาส่งผมที่โรงเรยนเช่นเคย
ผมมองเห็นปุ้ยตัวปลิวเดินมากับอาร์มที่ถือกระเป๋าให้
ผมยิ้มให้ทั้งคู่ อาร์มเองก็ยิ้มแห้งๆให้ผม
“วันหยุดไปไหนมานัท” ปุ้ยทักขึ้น
“ไปเดินห้างกะดูหนังมา แล้วปุ้ยละ”
“เราอยู่บ้าน ก็คนนี่สิ ดันไม่ว่างไปทำธุระกับที่บ้าน”
ผมมองไปที่อาร์ม ซึ่งตอนนี้ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ มองไปทางอื่น
“เดี๋ยวเราไปใต้ตึกนะ แล้วเจอกัน”
ผมขอตัวออกมาจากทั้งสองคน มุ่งหน้าไปห้องสมุด
ผมชอบห้องสมุดช่วงเช้าเพราะเงียบ ไม่ค่อยมีคนเข้ามาใช้บริการเท่าไหร่นัก
“ไงนัท แอบซุ่มมาอ่านหนังสือคนเดียวนี่หว่า” โจรอ้วนผอมสำหรับผมมาแระ
บีกับไกร เพื่อนต่างไซส์อยู่ห้องเดียวกันกับผม นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่แล้ว
“ไง ชอบอ่านหนังสือเหมือนกันเหรอ” ผมทัก
“ก็เป็นนักเรียนก็ต้องอ่านหนังสือสิวะ” ไกรพูดขึ้น
มันก็ถูกนะ ถ้าไม่อ่านหนังสือ แล้วจะอ่านอะไรละ
ช่วงสองอาทิตย์นี้ผมเองก็จำชื่อเพื่อนทั้งสามสิบสองคนในห้องได้ครบแล้ว
ต่างพากันพัฒนาความสัมพันธ์ไปเรื่อยๆ ตอนเย็นหลังเลิกเรียน
แต่ละคนก็มุ่งหน้าเพื่อไปเรียนพิเศษ เรียนติว แต่สำหรับผมส่วนใหญ่จะกลับบ้าน
“นัทๆ เย็นนี้เลิกเรียนแล้วไปไหนป่าว” ปุ้ยถามผมขณะกำลังเก็บหนังสือลงกระเป๋า
“ป่าว กลับบ้านปกติ”
“พ่อมารับป่าว”
“ป่าว วันนี้กลับเอง”
“อยู่เป็นเพื่อนเราหน่อยจิ”
“มีอะไรเหรอ”
“วันนี้อาร์มเขามีคัดนักบอลทีมโรงเรียนอ่ะ อยู่เป็นเพื่อนเรานะ”
อาร์มอีกแล้ว ผมไม่ค่อยชอบหน้าผู้ชายคนนี้เลย ผมเกลียดคนเจ้าชู้
“เย็นมากป่าว ไม่งั้นเราจะได้บอกโทรบอกที่บ้าน”
“โทรเลยๆ” ปุ้ยคะยั้นคะยอให้ผมโทร
ผมเดินลงไปที่ชั้น 1 เพื่อกดโทรศัพท์ไปบอกที่บ้าน
โดยมีปุ้ยยืนประกบแอบฟังอยู่ข้างหลัง
“ห้ามเกินทุ่มนึงนะปุ้ย” ผมหันไปบอกคนข้างๆที่ทำหน้าแป้นแล้นใส่
ปุ้ยซื้อน้ำดื่ม ขนม สำหรับอาร์ม ไปนั่งที่แสตนเชียร์ข้างสนาม
ส่วนผมหยิบสมุดการบ้านมานั่งทำที่ขั้นแสตนรอ
“โหย จะขยันอะไรตอนนี้อ่ะนัท ไม่ดูบอลเหรอ”
“ไม่อ่ะ เราไม่ชอบเล่นกีฬา”
“อะไรว่ะ ไม่แมนเลย” ใช่สิ ก็เราไม่แมนนิหว่า
ผมหันหลังไปมองที่สนามที่ตอนนี้เต็มไปด้วยนักกีฬา
ที่ตั้งใจเข้ามาคัดเลือกทีมโรงเรียน และแน่นอนว่า
รอบข้างสนามจึงเต็มไปด้วยสาวๆ ที่มาให้กำลังใจแฟนของตนเอง
“นัทๆ นัทดูสิ อาร์มเล่นเก่งมากเลยอ่ะ”
ปุ้ยที่พยายามบังคับให้ผมละจากการบ้านหันไปมองเกมส์
“อืม เก่ง ชาบูๆ”
“อะไรคือชาบู” ปุ้ยถามงงๆ
“ไม่รู้ว่ะ จำเขามา”
ผ่านไปสามสิบนาที
ก็เปลี่ยนผู้เล่น อาร์มก็เดินมาหาปุ้ยที่แสตน
แน่นอนว่า ทั้งคู่ลืมไปว่ามีผมอยู่ข้างๆ
กลายเป็นสิ่งมีชีวิตรอบกายที่ไร้ตัวตนไปซะงั้น
หลังจากเสร็จการคัดเลือก เราสามคนก็เดินไปหาอะไรทานกันหน้าโรงเรียน
สั่งอาหารเสร็จ ปุ้ยก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ก่อนที่อาร์มจะทำลายความเงียบ
“ไม่ลงมาคัดบอลด้วยกัน”
“เราเล่นกีฬาไม่เป็น”
“อืม ก็ว่าอยู่”
“เป็นแฟนกับปุ้ยนานยัง” ผมถามกลับไปบ้าง
“นานแล้ว”
“แล้วกับแอนละ”
“เดือนนึงมั้ง”
การสนทนาสิ้นสุดลงเมื่อปุ้ยเดินกลับมา
พร้อมกับอาหารที่สั่งที่ถูกนำมาวางที่โต๊ะ
โดยที่ไม่ต้องให้เสียเวลาเราสามคนก็ตั้งหน้าตั้งตาทาน
เพราะหิวมากกันทั้งสามคน
“เออ นัท ที่นัทจะบอกเราเมื่อตอนบ่าย เรื่องอะไรนะ”
ปุ้ยพูดขึ้น อาร์มวางช้อนแล้วหันมามองหน้าผม
“อ่อ แล้วแค่จะบอกว่าเราไม่ชอบคนเจ้าชู้”
“อ้าวเหรอ นึกว่าอะไร เราก็ไม่ชอบเหมือนกันนั่นแหละ”
ผมก้มหน้าทานต่อโดยไม่มองหน้าอาร์ม