สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ตามความคิดผมนะ
คุณแม่แค่เป็นผู้ค้ำประกัน ไม่มีหน้าที่จ่ายค่างวด (นอกจากคนซื้อไม่ยอมจ่าย)
ทาง บ. ก มีหน้าที่แจ้งให้ผู้เช่าซื้อไม่ให้จ่ายให้ พนักนั้น ที่สำคัญ ต้องแน่ใจว่า ผู้เช่าซื้อรับรู้แล้ว ไม่ใช้แค่ส่งจ.ม.มาที่คนค้ำ
แล้วคิดว่าส่งจ.ม.แล้ว ก็หมดหน้าที่ไป
สิ่งที่พนักงานนั้น สร้างความเสียหาย คือเสียหายที่บริษัทนั้นๆ เพราะคนจ่ายได้รับใบเสร็จแท้ของบริษัทมา
ส่วนจ.ม.จะถึงก่อนคนค้ำ หรือหลัง ไม่เกี่ยว นอกจากว่า ทางบริษัทมีหลักฐานว่า ผู้เช่าซื้อได้รับข่าวสารก่อนจ่ายค่างวดนั้น
เช่นนั้น ผู้ที่เสียหายเป็นบริษัท ไม่ใช่ผู้เช่าซื้อ
ผมว่าบริษัทจะพยายามโยนความเสียหายให้ผู้เช่าซื้อรับไปด้วย
มันไม่ถูกเลย
ผมว่า ทาง จขกท ก็จ่ายค่างวดตามปกติแหล่ะ (อาจไปแจ้งความเรื่องนี้ไว้เป็นหลักฐาน)
บางที่ทางบริษัท อาจลงค่างวดเป็นของงวดที่เขาพอใจจะเขียน (เขียนเป็นงวดที่เกิดความเสียหาย ทั้งๆที่เราจ่ายแล้ว)
ก็ช่างมันไป ของอย่างเดียว ให้ลงวันที่ๆเราจ่ายให้ตรงกัน เท่านั้นพอ ครบค่างวดเมื่อไร ถ้าไม่โอรถให้ คุยกันทางกฏหมาย เราไม่มีทางแพ้หรอก
แต่ถ้าวันที่ไม่ตรง ไม่จ่าย และไปแจ้งความอีก เป็นหลักฐาน อยากดำเนินการตามกฎหมาย ก็ดีแล้ว เราไม่ต้องไปปวดหัว
เวลาไปจ่ายค่างวด แรกๆ ช่วนเพื่อนๆไปหลายคน (ไม่เป็นญาตยิ่งดี) จะได้เป็นพยานให้ ถ้าเกิดวันหลังเขาจะดำเนินการตามกฎหมาย
และ จะไปส่งค่างวดแบบนี้ สักสามเดือน(งวด) ตรงเวลา หรือถ้าไปก่อนวันสองวันยิ่งดี
ถ้าไปแล้วสามงวด/เดือน เป็นแบบนี้อีก แปลว่าเขาไม่รับเอง
เป็นผม ผมไม่ไปอีกแล้ว (ทางเราพยายามแล้ว)
ครบสามเดือน ไปรวมแๆแจ้งความ รอบสุดท้าย หรือไม่ก็ง่ายๆ เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร ลงชื่อเพื่อนๆที่เป็นพยาน
แล้ว ไปที่บริษัท ให้สำเนาทางบริษัทหนึ่งชุดไว้ และโน้ทไว้ว่า ผู้รับเป็นใคร
แล้ว เอาเงินเข้า บ/ช ของเราไปตามงวดๆไป
ไม่ต้องไปปวดหัวต่อไปอีกแล้ว
อยากฟ้องศาล เชิญตามสบายเลย
สรุปที่แนะนำให้คือ
1. ทางบริษัท ก ไม่ได้แจ้งข่าวให้ผู้เช่าซื้อซึ่งมีหน้าที่จ่ายค่างวดทันเวลา ความเสียหายที่เกิดขึ้น ทางบริษัทต้องรับผลเสียที่เกิดขึ้นเอง
2. ผู้ค้ำประกันช่วยบอกข่าวได้ แต่ไม่มีหน้าที่ส่งข่าว ผู้ที่มีหน้าที่ส่งข่าว เพื่อไม่ให้ความเสียหายเกิดขึ้น คือ บริษัท ก
3. ทางผู่เช่าซื้อได้จ่ายค่างวดจริง ตามเวลานัด และมีใบเสร็จรับเงิน ออกโดยบริษัท ก.(ส่วนที่เหลือ เป็นปัญหาเขา)
4.ก. ถ้าบริษัทรับจ่ายค่างวด (จะเขียนเป็นงวดไหนก็ตามใจ) แต่เราจ่ายในวันที่ๆนัดไว้ ทำตามสัญญา
ดูได้จาก ลงวันที่ในใบเสร็จ
เมื่อรวม(งวดที่พนักงานฯโก้งไปด้วย)แล้ว ครบทำตามสัญญา แจ้งให้เขาดำเนินการ โอนรถให้เขาทันที่
ไม่งั้น เอาคำว่า จะดำเนินการตามกฎหมาย คืนเขาไป
4.ข. ถ้าบริษัทจะลงวันที่ไม่ต้องกับวันจ่ายค่างวดจริง(เข้าทางเราอีก) เรามีสิทธิ์ไม่จ่าย
เพราะใบเสร็จที่ได้มา ไม่ต้องกับความเป็นจริง
(ก็เหมือนเราจ่ายสามพัน แต่ออกในใบเสร็จสองพันห้านั้นแหล่ะ)
5. เหตุการที่เกิด เราพยายามจ่ายค่างวด ทำตามสัญญาแล้ว
แต่ ทางบริษัทไม่ทำตามสัญญา (ออกใบเสร็จรับเงินไม่ตรงกับความเป็นจริง)
6. เหตุการที่เกิด เราพยายามอย่างยิ่ง ไปแล้วสามงวด บริษัทก็ทำซ้ำ เราถึงไม่สามารถจ่ายได้ แต่ก็ไม่ได้เอาเงินไปไหน
ฝากเข้า บ/ช (ของเรา) ทำตามเวลานัด ทำตามสัญญาระบุ ทางเราไม่สามารถชำระหนี้ได้
ทำได้แค่ รอวันที่บริษัททำถูกต้อง ตามความเป็นจริง
ทางเราพร้อมที่จะชำระทุกเมื่อที่ออกใบเสร็จที่ถูกต้อง (จำนวนเงินและวันที่ถูกต้อง)
7. ทุกครั้งที่เกิดเหตุ (ไปชำระค่างวด) มีพยานหลายคนเห็นเหตุการด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ก็ ใครอยากปวดหัว ให้เขาไปปวดหัวเองละครับ ถ้าเขาไม่ม่หาเราอีก สบายไป ได้รถขี่ฟรี ค่างวดก็ไว้กินดอก

คุณแม่แค่เป็นผู้ค้ำประกัน ไม่มีหน้าที่จ่ายค่างวด (นอกจากคนซื้อไม่ยอมจ่าย)
ทาง บ. ก มีหน้าที่แจ้งให้ผู้เช่าซื้อไม่ให้จ่ายให้ พนักนั้น ที่สำคัญ ต้องแน่ใจว่า ผู้เช่าซื้อรับรู้แล้ว ไม่ใช้แค่ส่งจ.ม.มาที่คนค้ำ
แล้วคิดว่าส่งจ.ม.แล้ว ก็หมดหน้าที่ไป
สิ่งที่พนักงานนั้น สร้างความเสียหาย คือเสียหายที่บริษัทนั้นๆ เพราะคนจ่ายได้รับใบเสร็จแท้ของบริษัทมา
ส่วนจ.ม.จะถึงก่อนคนค้ำ หรือหลัง ไม่เกี่ยว นอกจากว่า ทางบริษัทมีหลักฐานว่า ผู้เช่าซื้อได้รับข่าวสารก่อนจ่ายค่างวดนั้น
เช่นนั้น ผู้ที่เสียหายเป็นบริษัท ไม่ใช่ผู้เช่าซื้อ
ผมว่าบริษัทจะพยายามโยนความเสียหายให้ผู้เช่าซื้อรับไปด้วย
มันไม่ถูกเลย
ผมว่า ทาง จขกท ก็จ่ายค่างวดตามปกติแหล่ะ (อาจไปแจ้งความเรื่องนี้ไว้เป็นหลักฐาน)
บางที่ทางบริษัท อาจลงค่างวดเป็นของงวดที่เขาพอใจจะเขียน (เขียนเป็นงวดที่เกิดความเสียหาย ทั้งๆที่เราจ่ายแล้ว)
ก็ช่างมันไป ของอย่างเดียว ให้ลงวันที่ๆเราจ่ายให้ตรงกัน เท่านั้นพอ ครบค่างวดเมื่อไร ถ้าไม่โอรถให้ คุยกันทางกฏหมาย เราไม่มีทางแพ้หรอก
แต่ถ้าวันที่ไม่ตรง ไม่จ่าย และไปแจ้งความอีก เป็นหลักฐาน อยากดำเนินการตามกฎหมาย ก็ดีแล้ว เราไม่ต้องไปปวดหัว
เวลาไปจ่ายค่างวด แรกๆ ช่วนเพื่อนๆไปหลายคน (ไม่เป็นญาตยิ่งดี) จะได้เป็นพยานให้ ถ้าเกิดวันหลังเขาจะดำเนินการตามกฎหมาย
และ จะไปส่งค่างวดแบบนี้ สักสามเดือน(งวด) ตรงเวลา หรือถ้าไปก่อนวันสองวันยิ่งดี
ถ้าไปแล้วสามงวด/เดือน เป็นแบบนี้อีก แปลว่าเขาไม่รับเอง
เป็นผม ผมไม่ไปอีกแล้ว (ทางเราพยายามแล้ว)
ครบสามเดือน ไปรวมแๆแจ้งความ รอบสุดท้าย หรือไม่ก็ง่ายๆ เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร ลงชื่อเพื่อนๆที่เป็นพยาน
แล้ว ไปที่บริษัท ให้สำเนาทางบริษัทหนึ่งชุดไว้ และโน้ทไว้ว่า ผู้รับเป็นใคร
แล้ว เอาเงินเข้า บ/ช ของเราไปตามงวดๆไป
ไม่ต้องไปปวดหัวต่อไปอีกแล้ว
อยากฟ้องศาล เชิญตามสบายเลย
สรุปที่แนะนำให้คือ
1. ทางบริษัท ก ไม่ได้แจ้งข่าวให้ผู้เช่าซื้อซึ่งมีหน้าที่จ่ายค่างวดทันเวลา ความเสียหายที่เกิดขึ้น ทางบริษัทต้องรับผลเสียที่เกิดขึ้นเอง
2. ผู้ค้ำประกันช่วยบอกข่าวได้ แต่ไม่มีหน้าที่ส่งข่าว ผู้ที่มีหน้าที่ส่งข่าว เพื่อไม่ให้ความเสียหายเกิดขึ้น คือ บริษัท ก
3. ทางผู่เช่าซื้อได้จ่ายค่างวดจริง ตามเวลานัด และมีใบเสร็จรับเงิน ออกโดยบริษัท ก.(ส่วนที่เหลือ เป็นปัญหาเขา)
4.ก. ถ้าบริษัทรับจ่ายค่างวด (จะเขียนเป็นงวดไหนก็ตามใจ) แต่เราจ่ายในวันที่ๆนัดไว้ ทำตามสัญญา
ดูได้จาก ลงวันที่ในใบเสร็จ
เมื่อรวม(งวดที่พนักงานฯโก้งไปด้วย)แล้ว ครบทำตามสัญญา แจ้งให้เขาดำเนินการ โอนรถให้เขาทันที่
ไม่งั้น เอาคำว่า จะดำเนินการตามกฎหมาย คืนเขาไป
4.ข. ถ้าบริษัทจะลงวันที่ไม่ต้องกับวันจ่ายค่างวดจริง(เข้าทางเราอีก) เรามีสิทธิ์ไม่จ่าย
เพราะใบเสร็จที่ได้มา ไม่ต้องกับความเป็นจริง
(ก็เหมือนเราจ่ายสามพัน แต่ออกในใบเสร็จสองพันห้านั้นแหล่ะ)
5. เหตุการที่เกิด เราพยายามจ่ายค่างวด ทำตามสัญญาแล้ว
แต่ ทางบริษัทไม่ทำตามสัญญา (ออกใบเสร็จรับเงินไม่ตรงกับความเป็นจริง)
6. เหตุการที่เกิด เราพยายามอย่างยิ่ง ไปแล้วสามงวด บริษัทก็ทำซ้ำ เราถึงไม่สามารถจ่ายได้ แต่ก็ไม่ได้เอาเงินไปไหน
ฝากเข้า บ/ช (ของเรา) ทำตามเวลานัด ทำตามสัญญาระบุ ทางเราไม่สามารถชำระหนี้ได้
ทำได้แค่ รอวันที่บริษัททำถูกต้อง ตามความเป็นจริง
ทางเราพร้อมที่จะชำระทุกเมื่อที่ออกใบเสร็จที่ถูกต้อง (จำนวนเงินและวันที่ถูกต้อง)
7. ทุกครั้งที่เกิดเหตุ (ไปชำระค่างวด) มีพยานหลายคนเห็นเหตุการด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ก็ ใครอยากปวดหัว ให้เขาไปปวดหัวเองละครับ ถ้าเขาไม่ม่หาเราอีก สบายไป ได้รถขี่ฟรี ค่างวดก็ไว้กินดอก
แสดงความคิดเห็น
โดนหลอกจ่ายค่างวดรถ
ค่ะ ตามจดหมายที่ส่งมาก็มีใจความคร่าวๆ ประมารนี้ แล้วนีนี้ แม่เราก็ไม่ได้เอาให้หลานชายที่เป็นผู้เช่าซื้อรถอ่านสรุปคือหลานชายไม่ทราบเรื่องค่ะเพราะทางบริทไม่ได้ส่งจดหมายมาที่หลานชาย ปรากฏว่าพอมารู้อีกทีก็คือโดนหลอกให้จ่ายค่างวดรถไปแล้วค่า โดยมิจฉาชีพสองคนนั้นที่เคยเป็นพนักงานของบริษัทค่ะ ทีนี้ เวลาเค้ามาหาเค้ามีเอกสารทุกอย่างมาพร้อมเลยนะคะ เหมือนกับเวลาที่เราไปจ่ายที่สำนักงานเลย พอจ่ายเสร็จก็มีใบเสร็จให้เหมือนกันเป๊ะ ค่ะ จะไม่ให้หลงเชื่อได้ยังไง แล้วบริทก็บอกว่าจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้นค่ะ โดยบอกว่าให้แม่เราเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด หากไม่รับผิดชอบจะดำเนินการตามกฎหมายค่ะ เราจึงอยากทราบว่า ในกรณีนี้ แม่เราจะต้องรับผิดชอบทั้งหมดจริงๆหรอคะ (ทั้งหมดก้เป็นหมื่นน่ะค่ะ) มีวิธีที่จะช่วยได้หรือไม่ค่ะ เพราะเราคิดว่าทางบริษัทน่าจะตามจับพนักงานสองคนนั้นให้ได้ไม่ใช่ปล่อยให้ลอยนวลอยู่อย่างนี้แล้วก็มาเรียกร้องเอาจากผู้เสียหายอย่างนี้ ผู้เสียหายก็หนักเลยสิคะ ไหนจะโดนหลอกแล้วบริษัทยังจะมาทำอย่างนี้อีก ยังไงถ้าใครมีประสบการณ์หรือมีความรู้ทางด้านกฎหมายก็ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ ว่าเราควรทำอย่างไรดี