เรื่องนี้เกิดขึ้นกับญาติ ซึ่งเค้าเขียนเรื่องนี้ลงไว้ในเฟสบุ๊ค ได้บอกเจ้เค้าไปว่าน่าจะมาลงพันทิพ จะได้เตือนให้ระวังตัวกันมากๆ
แต่เจ้ไม่ได้เป็นสมาชิกpantip แต่ถ้าน้อง บี อยากโพสต์ให้เจ้ก็ยินดี เพื่อช่วยเตือนๆกันให้ระวัง เพราะทางที่ผ่านเป็นสถานที่ราชการทั้งนั้นแต่ก็มืด แถมเลยซอยไปหน่อย คนถูกปล้น ชิงกระเป๋าประจำ
เลยขออนุญาตนำมาโพสต์ในพันทิพให้ได้อ่านกันค่ะ
__________________________________________________________________________________________
เตือนภัยผู้หญิงที่ต้องทำงานและกลับบ้านดึก ที่เขียนมาเล่านี้เกิดขึ้นกับตัวเองจริงๆ
อยากฝากเตือนให้ผู้หญิงหรือแม้นแต่ชาย บ้านเมืองเราตอนนี้ช่างน่ากลัว โจร ขโมย ปล้น ฉก ชิงวิ่งราวเยอะมาก
ขอให้ทุกท่านระวังและมองโดยรอบตัวเราหากตัวเรามีสัญชาตญาณของการไม่เริ่มปลอดภัย
ขอให้จงใช้สติ ในการตัดสินใจและเอาตัวรอดให้ได้มากที่สุด
จะขอเริ่มเล่าเรื่องของตนเอง ระหว่างที่นั่งรถประจำทางกลับบ้าน ในวันนี้ไม่ได้นั่งในส่วนของกลางรถ แต่ได้นั่งในส่วนหัวรถ
วันนี้ตัวเองก็ไม่ได้มีของมีค่าอะไร มีกระเป๋า 1 ใบ กระเป๋าใส่งาน 1 ใบซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นงานออกแบบ
และถุงใส่ของ 1 ถุง ก็นั่งมาโดยที่ตัวเองวันนี้มิได้หยิบโทรศัพท์ออกมาเล่นเกมส์แต่อย่างใด ก็นั่งเรื่อยมาจนถึงป้ายที่จะลง
ก็พลันเห็นเด็กวัยรุ่นผู้ชาย 2 คนรีบลุกลงจากเบาะหลังมาลงพร้อมป้ายเดียวกับเรา
ทันใดนั้นก็ฉุกใจคิดขึ้นนมาว่าต้องระวังตัวเพราะป้ายที่ลงมันเป็นป้ายที่เปลี่ยวแม้จะเป็น สถานที่ราชการทั้ง 2 ฝั่ง
ฝั่งที่ลงก็เป็นป้ายโรงเรียนที่มืด ไฟริบหรี่ ส่วนฝั่งตรงข้ามก็เป็นศาลแต่ก็มืดไม่ได้สว่างนัก ระหว่างที่ลงก็ระวังตัวในระดับหนึ่ง
พอลงเสร็จ ผู้ชาย 2 คนก็ลงมาแล้วมองเราพอดีเราก็มอง แต่ก็มองมันอยู่มันรู้ว่าเราเริ่มระวังตัวมันเลยข้ามถนนไปส่วนเราก็หยุดดูมันข้ามไป เสร็จแล้วถึงข้ามไป
ระหว่างที่เดินเข้าซอยมันก็เดินนำหน้าเราแต่เดินช้า มากซึ่งผิดวัตถุประสงค์ของคนที่ต้องการกลับบ้าน
เราก็เดินตามมัน แล้วก็แอบข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม ซึ่งพฤติกรรมมันก็หยุดและก็ข้ามตามเรามา
ระหว่างทางที่เดินมาผู้ชายคนใส่เสื้อขาวเห็นมันถือวัตถุสีดำอยู่ในมือ ระหว่างนั้นเราเดินอย่างช้าๆเหมือนไม่มีอะไร แต่มันก็เดินประกบเรา
ในใจตอนนั้นคิดว่า ผู้ชาย 2 คนเราจะเอาแรงไหนไปสู้ ถ้าหวังต่อทรัพย์เรา ซึ่งจริงๆแล้ว ณ ทุกวันนี้พกตังติดตัวน้อยมาก
กลัวจะโดนทำร้ายร่างกายแบบไม่คุ้ม เพราะทุกวันนี้คนเราใจร้ายขึ้นมาก เลยตัดสินใจพุ่งตรงไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวที่เราเป็นลูกค้าบ่อยๆ
และก็มองไปเหมือนพวกมันรู้ตัว มันหันมามองแล้วมันก็เลยเดินไป
แต่ในระหว่างที่สั่งก๋วยเตี๋ยวก็ ยังคิดว่ามันยังไม่ไป เลยบอกร้านก๋วยเตี๋ยวว่า เดี๋ยวมา ไป 711 ก่อน
ซึ่งเราเดินเข้าไปก็เห็นมัน 2 คนยืนอยู่ ที่ 711 ระหว่างนั้น ก็เดินเฉียดไปมองหน้ามัน ทั้ง 2 มันเหมือนรู้ตัวว่าเรากำลังจับพฤติกรรมมันอยู่
มันทั้งคู่หลบหน้า แต่เราก็ปลี่ไปตรงมุมหนังสือ เพื่อสังเกตุมัน มันแกล้งซื้อของเสร็จแล้วก็เดินออกไป
ระหว่างนั้นเราก็รีบซื้อของและตามมันออกไป แต่ก็พยายามทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่วินาทีนั้นก็ได้ยินมันพูดว่านั่งรออยู่หน้าปากซอย
ตอนนั้นได้ยินที่มันพูดก็ตั้งสติ จะเอาไงดี ณ วินาทีนั้นก็เดินไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวที่สั่งไว้ และก็เดินกลับมา เห็นมันนั่งรอจริง
แวบแรกคิด กูต้องเอาตัวรอด ( ถึงตัวเองออกจะเป็นผู้หญิงสไตล์ห้าว ขาลุย แต่วินาทีนี้กูไม่สมควรแลก 2 ต่อ 1 แถมไม่รู้มีอาวุธหรือเปล่า )
ในใจตอนนั้นกูต้องเอาตัวรอด เลยไปกระซิบกับแม่ค้าก๋วยเตี๋ยว ว่า ระหว่างทางที่ลงรถมีผี้ชาย 2 คนตามเรามา แถมนั่งรอเราอยู่ )
แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวน้ำใจงามได้ยินดังนั้น พอดีมีน้องที่รู้จักสนิทผ่านมาเขาพูดกันเป็น ภาษาเหนือ หน้าตาซีเรียส ขอเวลา 2 นาทีไปส่งพี่เขาที่บ้านที
น้องเขาบอกแป๊ปนึงไปซื้อของก่อนเราก็ลุ้น จะไปส่งกูไหมวะ เราก็พูดกับแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวที่ชื่อหมวย เขาบอกน้องอยูา่ซอยเดียวกันไว้ใจได้
ระหว่างนั้นก็ลุ้น น้องผู้ชายซื้อของเสร็จก็ขับมอเติร์ไซค์มาบอกพี่ไปผมส่งในใจโล่ง มากกูรอดแล้ว
แล้วบอกน้องผู้ชาย เดี๋ยวโทรศัพท์บอกน้องสาวก่อนบอกมีคนตามมาเปิดประตูรอ มันก็เป็นจังหวะลืมกุญแจพอดีวันนี้
น้องผู้ชายก็ขับรถเข้าส่งในซอยบ้านจริงๆแล้วมันนิดเดียวแต่เวลา 21.48 น. ประตูทุกบ้านต่างปิดหมด ซึ่งยังไงเราก็คิดว่าไม่ปลอดภัย
น้องผู้ชายน่ารักมากส่งเราถึงหน้าบ้านเราลงจากรถยกมือไหว้ขอบคุณ
น้องผู้ชายรอเราเปิดประตูบ้านและก็รอส่งเราจนเข้าบ้านด้วยอะไรหลายๆอย่างลืมถามชื่อน้องซะได้แต่ขอบคุณ (พรุ่งนี้จะต้องไปขอบคุณอย่างจริงจัง)
พอเข้าบ้านได้น้องสาวมาถามเราเล่าด้วยอาการเสียงสั่นว่ารอดมาได้อย่างไร
ณ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้จึงเป็นอุทาหรณ์สอนใจว่าภัยร้ายมีมากขึ้นทุกวันเราต้องระมัดระวังตัวให้มากขึ้น
เราสุจริตชนทำมาหากิน ปากกัดตีนถีบ กลับต้องเจอพวกเลวๆมากมายในสังคม
อยากเล่าและฝากเตือนคนที่ต้องทำงานกลับบ้านดึกให้ระวังนี่เป็นเรื่อง จริงที่เกิดขึ้น
และเหตุการณ์เหล่านี้ที่เกิดขึ้นก็ทำให้มีข้อคิดว่า
1.ต้องมีสติ ว่ายังไงกูต้องรอด
2.หาทางหนีทีไล่อย่าเสี่ยง ต้องสังเกตุพฤติกรรมแปลกๆของคนรอบข้าง
3.เป็นผู้หญิงกลับบ้านดึก ต้องกลับหลายๆทางเพราะเราไม่ทราบว่ามิจฉาชีพจ้องเราอยู่ตอนไหน
4.คนดีและมีน้ำใจในสังคมยังมีอยู่ ที่ยังช่วยเหลือเราด้วยความเต็มใจ
5.ต้องขอขอบคุณแม่ค้าก๋วยเตี๋ยว ที่ชื่อหมวย ขายอยู่ที่ตลาดพิบูลย์วิท กำนันแม้น
6.ต้องขอบคุณน้องผู้ชายที่อยู่กำนันแม้น 6 ที่ขับมอเตอร์ไซค์มาส่ง โดยที่เราไม่ได้ถามชื่อ ขอบคุณจากใจจริง( พรุ่งนี้ต้องไปขอขอบคุณน้องอีกครั้งที่ช่วยเหลือ )
7.เหตุการณ์ครั้งนี้ สอนให้รู้ว่าแม้บ้านจะอยู่ใกล้โรงพักก็ใช่จะปลอดภัยเสมอไป
8.ให้คุณระวังตัวไว้เสมอทุกวันนี้ภัยรอบตัว
9.อย่ากลับบ้านดึกหากรู้ว่าทางนั้นเปลี่ยว แต่มันเป็นความเคยชินของคนที่กลับประจำ แต่ตอนนี้ให้พึงระวังไว้เสมอโจรมีรอบตัว
10.สาธุ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง เพราะฉะนั้นทุกคน จงทำความดีอย่าเบียดเบียนใคร คิดดี ทำดี พูดดี
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ จึงเขียนขึ้นมาเพื่อฝากเตือนเพื่อนทุกคน
เตือนภัยผู้หญิงที่ต้องทำงานและกลับบ้านดึก
แต่เจ้ไม่ได้เป็นสมาชิกpantip แต่ถ้าน้อง บี อยากโพสต์ให้เจ้ก็ยินดี เพื่อช่วยเตือนๆกันให้ระวัง เพราะทางที่ผ่านเป็นสถานที่ราชการทั้งนั้นแต่ก็มืด แถมเลยซอยไปหน่อย คนถูกปล้น ชิงกระเป๋าประจำ
เลยขออนุญาตนำมาโพสต์ในพันทิพให้ได้อ่านกันค่ะ
__________________________________________________________________________________________
เตือนภัยผู้หญิงที่ต้องทำงานและกลับบ้านดึก ที่เขียนมาเล่านี้เกิดขึ้นกับตัวเองจริงๆ
อยากฝากเตือนให้ผู้หญิงหรือแม้นแต่ชาย บ้านเมืองเราตอนนี้ช่างน่ากลัว โจร ขโมย ปล้น ฉก ชิงวิ่งราวเยอะมาก
ขอให้ทุกท่านระวังและมองโดยรอบตัวเราหากตัวเรามีสัญชาตญาณของการไม่เริ่มปลอดภัย
ขอให้จงใช้สติ ในการตัดสินใจและเอาตัวรอดให้ได้มากที่สุด
จะขอเริ่มเล่าเรื่องของตนเอง ระหว่างที่นั่งรถประจำทางกลับบ้าน ในวันนี้ไม่ได้นั่งในส่วนของกลางรถ แต่ได้นั่งในส่วนหัวรถ
วันนี้ตัวเองก็ไม่ได้มีของมีค่าอะไร มีกระเป๋า 1 ใบ กระเป๋าใส่งาน 1 ใบซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นงานออกแบบ
และถุงใส่ของ 1 ถุง ก็นั่งมาโดยที่ตัวเองวันนี้มิได้หยิบโทรศัพท์ออกมาเล่นเกมส์แต่อย่างใด ก็นั่งเรื่อยมาจนถึงป้ายที่จะลง
ก็พลันเห็นเด็กวัยรุ่นผู้ชาย 2 คนรีบลุกลงจากเบาะหลังมาลงพร้อมป้ายเดียวกับเรา
ทันใดนั้นก็ฉุกใจคิดขึ้นนมาว่าต้องระวังตัวเพราะป้ายที่ลงมันเป็นป้ายที่เปลี่ยวแม้จะเป็น สถานที่ราชการทั้ง 2 ฝั่ง
ฝั่งที่ลงก็เป็นป้ายโรงเรียนที่มืด ไฟริบหรี่ ส่วนฝั่งตรงข้ามก็เป็นศาลแต่ก็มืดไม่ได้สว่างนัก ระหว่างที่ลงก็ระวังตัวในระดับหนึ่ง
พอลงเสร็จ ผู้ชาย 2 คนก็ลงมาแล้วมองเราพอดีเราก็มอง แต่ก็มองมันอยู่มันรู้ว่าเราเริ่มระวังตัวมันเลยข้ามถนนไปส่วนเราก็หยุดดูมันข้ามไป เสร็จแล้วถึงข้ามไป
ระหว่างที่เดินเข้าซอยมันก็เดินนำหน้าเราแต่เดินช้า มากซึ่งผิดวัตถุประสงค์ของคนที่ต้องการกลับบ้าน
เราก็เดินตามมัน แล้วก็แอบข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม ซึ่งพฤติกรรมมันก็หยุดและก็ข้ามตามเรามา
ระหว่างทางที่เดินมาผู้ชายคนใส่เสื้อขาวเห็นมันถือวัตถุสีดำอยู่ในมือ ระหว่างนั้นเราเดินอย่างช้าๆเหมือนไม่มีอะไร แต่มันก็เดินประกบเรา
ในใจตอนนั้นคิดว่า ผู้ชาย 2 คนเราจะเอาแรงไหนไปสู้ ถ้าหวังต่อทรัพย์เรา ซึ่งจริงๆแล้ว ณ ทุกวันนี้พกตังติดตัวน้อยมาก
กลัวจะโดนทำร้ายร่างกายแบบไม่คุ้ม เพราะทุกวันนี้คนเราใจร้ายขึ้นมาก เลยตัดสินใจพุ่งตรงไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวที่เราเป็นลูกค้าบ่อยๆ
และก็มองไปเหมือนพวกมันรู้ตัว มันหันมามองแล้วมันก็เลยเดินไป
แต่ในระหว่างที่สั่งก๋วยเตี๋ยวก็ ยังคิดว่ามันยังไม่ไป เลยบอกร้านก๋วยเตี๋ยวว่า เดี๋ยวมา ไป 711 ก่อน
ซึ่งเราเดินเข้าไปก็เห็นมัน 2 คนยืนอยู่ ที่ 711 ระหว่างนั้น ก็เดินเฉียดไปมองหน้ามัน ทั้ง 2 มันเหมือนรู้ตัวว่าเรากำลังจับพฤติกรรมมันอยู่
มันทั้งคู่หลบหน้า แต่เราก็ปลี่ไปตรงมุมหนังสือ เพื่อสังเกตุมัน มันแกล้งซื้อของเสร็จแล้วก็เดินออกไป
ระหว่างนั้นเราก็รีบซื้อของและตามมันออกไป แต่ก็พยายามทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่วินาทีนั้นก็ได้ยินมันพูดว่านั่งรออยู่หน้าปากซอย
ตอนนั้นได้ยินที่มันพูดก็ตั้งสติ จะเอาไงดี ณ วินาทีนั้นก็เดินไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวที่สั่งไว้ และก็เดินกลับมา เห็นมันนั่งรอจริง
แวบแรกคิด กูต้องเอาตัวรอด ( ถึงตัวเองออกจะเป็นผู้หญิงสไตล์ห้าว ขาลุย แต่วินาทีนี้กูไม่สมควรแลก 2 ต่อ 1 แถมไม่รู้มีอาวุธหรือเปล่า )
ในใจตอนนั้นกูต้องเอาตัวรอด เลยไปกระซิบกับแม่ค้าก๋วยเตี๋ยว ว่า ระหว่างทางที่ลงรถมีผี้ชาย 2 คนตามเรามา แถมนั่งรอเราอยู่ )
แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวน้ำใจงามได้ยินดังนั้น พอดีมีน้องที่รู้จักสนิทผ่านมาเขาพูดกันเป็น ภาษาเหนือ หน้าตาซีเรียส ขอเวลา 2 นาทีไปส่งพี่เขาที่บ้านที
น้องเขาบอกแป๊ปนึงไปซื้อของก่อนเราก็ลุ้น จะไปส่งกูไหมวะ เราก็พูดกับแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวที่ชื่อหมวย เขาบอกน้องอยูา่ซอยเดียวกันไว้ใจได้
ระหว่างนั้นก็ลุ้น น้องผู้ชายซื้อของเสร็จก็ขับมอเติร์ไซค์มาบอกพี่ไปผมส่งในใจโล่ง มากกูรอดแล้ว
แล้วบอกน้องผู้ชาย เดี๋ยวโทรศัพท์บอกน้องสาวก่อนบอกมีคนตามมาเปิดประตูรอ มันก็เป็นจังหวะลืมกุญแจพอดีวันนี้
น้องผู้ชายก็ขับรถเข้าส่งในซอยบ้านจริงๆแล้วมันนิดเดียวแต่เวลา 21.48 น. ประตูทุกบ้านต่างปิดหมด ซึ่งยังไงเราก็คิดว่าไม่ปลอดภัย
น้องผู้ชายน่ารักมากส่งเราถึงหน้าบ้านเราลงจากรถยกมือไหว้ขอบคุณ
น้องผู้ชายรอเราเปิดประตูบ้านและก็รอส่งเราจนเข้าบ้านด้วยอะไรหลายๆอย่างลืมถามชื่อน้องซะได้แต่ขอบคุณ (พรุ่งนี้จะต้องไปขอบคุณอย่างจริงจัง)
พอเข้าบ้านได้น้องสาวมาถามเราเล่าด้วยอาการเสียงสั่นว่ารอดมาได้อย่างไร
ณ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้จึงเป็นอุทาหรณ์สอนใจว่าภัยร้ายมีมากขึ้นทุกวันเราต้องระมัดระวังตัวให้มากขึ้น
เราสุจริตชนทำมาหากิน ปากกัดตีนถีบ กลับต้องเจอพวกเลวๆมากมายในสังคม
อยากเล่าและฝากเตือนคนที่ต้องทำงานกลับบ้านดึกให้ระวังนี่เป็นเรื่อง จริงที่เกิดขึ้น
และเหตุการณ์เหล่านี้ที่เกิดขึ้นก็ทำให้มีข้อคิดว่า
1.ต้องมีสติ ว่ายังไงกูต้องรอด
2.หาทางหนีทีไล่อย่าเสี่ยง ต้องสังเกตุพฤติกรรมแปลกๆของคนรอบข้าง
3.เป็นผู้หญิงกลับบ้านดึก ต้องกลับหลายๆทางเพราะเราไม่ทราบว่ามิจฉาชีพจ้องเราอยู่ตอนไหน
4.คนดีและมีน้ำใจในสังคมยังมีอยู่ ที่ยังช่วยเหลือเราด้วยความเต็มใจ
5.ต้องขอขอบคุณแม่ค้าก๋วยเตี๋ยว ที่ชื่อหมวย ขายอยู่ที่ตลาดพิบูลย์วิท กำนันแม้น
6.ต้องขอบคุณน้องผู้ชายที่อยู่กำนันแม้น 6 ที่ขับมอเตอร์ไซค์มาส่ง โดยที่เราไม่ได้ถามชื่อ ขอบคุณจากใจจริง( พรุ่งนี้ต้องไปขอขอบคุณน้องอีกครั้งที่ช่วยเหลือ )
7.เหตุการณ์ครั้งนี้ สอนให้รู้ว่าแม้บ้านจะอยู่ใกล้โรงพักก็ใช่จะปลอดภัยเสมอไป
8.ให้คุณระวังตัวไว้เสมอทุกวันนี้ภัยรอบตัว
9.อย่ากลับบ้านดึกหากรู้ว่าทางนั้นเปลี่ยว แต่มันเป็นความเคยชินของคนที่กลับประจำ แต่ตอนนี้ให้พึงระวังไว้เสมอโจรมีรอบตัว
10.สาธุ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง เพราะฉะนั้นทุกคน จงทำความดีอย่าเบียดเบียนใคร คิดดี ทำดี พูดดี
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ จึงเขียนขึ้นมาเพื่อฝากเตือนเพื่อนทุกคน