ช่วงวันแม่ที่ผ่านมา ที่บ้านเราได้มีโอกาสไปเที่ยวกันทั้งครอบครัวค่ะ
ปรกติครอบครัวเราไปเที่ยวทะเลกัน ก็จะไปเช่าบ้านพักริมทะเล ทำอะไรกินกันเองง่ายๆ แต่เมื่อเรากับน้องชายโตขึ้น ได้มีโอกาสไปพักรีสอร์ทหรูๆ สบายๆ โดยเฉพาะน้องชายที่ชอบพาภรรยาและลูกพักผ่อนชายทะเลตาม pool villa ต่างๆ เค้าจึงมาชวนว่า เค้าอยากจะพาพ่อแม่ไปเที่ยวแบบนั้นบ้าง โดยอาสาออกค่าที่พักให้
ตอนนั้นโจทย์ในการหาที่พักคือ pool villa ที่นอนได้ 8 คน
ซึ่งน้องชายบอกว่าโจทย์นี้ยาก เพราะปรกติที่เค้าหาได้ จะนอนได้ 6 คน และช่วงนั้นคือวันหยุดวันแม่ด้วย แต่สุดท้ายก็หาได้ที่ Papa Monkey ที่ปราณบุรี นี่แหละค่ะ น้องชายเปิดให้ดูในเว็บแล้วก็สวยน่ารัก (ดูวัยรุ่นๆ)
พวกเรายังคุยกันว่าแปลกดีที่ว่าง...
พวกเราออกเดินทางกันวันเสาร์ค่ะ กว่าจะแวะทานข้าว ไปถึงที่รีสอร์ทก็บ่ายๆ ก่อนถึงรีสอร์ทที่เป็นทางลงหาด มีร้านค้ามาตั้ง มีม้าหมุนอย่างกับงานวัด ดูคึกคัก พอถึงรีสอร์ท เจ้าหน้าที่ก็โบกให้จอดตามที่เค้ากั้นไว้ให้พร้อมติดเบอร์ทะเบียนรถเรียบร้อย
พอเราเข้าห้องพัก ก็ถึงบางอ้อเลยค่ะว่าทำไมห้องว่าง คือรีสอร์ทนี้เป็นรีสอร์ทสุดท้ายก่อนถึงเขาช่องกระจก ซึ่งกำลังมีงาน "ปราณบุรีปลาหมึกแดดเดียว music festival" หรืออะไรประมาณนี้แหละค่ะ ไปถึงกำลังเช็คเสียงกันเลย ดังขนาดปิดประตูหน้าต่างก็กั้นไม่ได้ -_-"
มาเข้ารีวิวกันดีกว่าค่ะ
ห้องที่เราพักคือ pool villa นะคะ แต่จริงๆมันทำเป็นเหมือนตึกโล่งๆสองหลัง คั่นกลางด้วยทางเดินไปโรงครัว ทั้งสองตึกทำเป็นกระจกเลื่อนทั้งหลัง แล้วปิดด้วยผ้าม่าน (ไม่รู้ว่าเป็นผ้าม่านยูวีหรือเปล่า) ตึกนึงเป็นห้องนอน ห้องนึงก็กินเนื้อที่ทั้งชั้น มีบันไดไม้อยู่ด้านนอก อีกตึกเป็นห้องนั่งเล่นหลังคาสูง ถัดจากห้องนั่งเล่นก็เป็นสระน้ำขนาดกำลังเหมาะ ถัดจากสระน้ำไปก็เป็นรั้วกั้นกับบันไดลงหาด
รูปนี้ถ่ายจากหัวบันไดหน้าห้องนอนชั้นสองค่ะ เห็นหาดเลย เต้นท์นั่นคือเต้นท์ขายของในงานคอนเสิร์ตค่ะ (ใกล้เวทีมวาก!)
ข้อดี
1. เตียงนิ่มมาก ตอนเช้านี่แทบไม่อยากตื่นเช้าเพราะเสียดายเตียง
2. อาหารเช้า เยอะ และอร่อย แต่ตั้งสายไปหน่อย คุณยายเราตื่นเช้ามายังไม่มีอะไรทาน (ของตั้งไม่ครบ) ก็เลยทานนิดหน่อยแล้วก็ไปนั่งเล่นจนเกือบสิบโมงท่านหิวอีกรอบ เราเลยพามากินก่อนที่ทางรีสอร์ทจะเก็บอาหารเช้าไป
3. สถานที่กว้างมาก จริงๆมาซัก 10-20 คนก็ยังอยู่กันแบบสบายๆ (แต่ไม่รู้เค้าคิดค่าอาหารเช้าเท่าไหร่นะคะ)
4. รีสอร์ทจัดดี มีที่ให้ถ่ายรูปเต็มไปหมด โดยเฉพาะมีรูปปั้นลิงหลากหลายท่ามากๆ
5. ทำอาหารอร่อย น้องชายสั่งบาร์บีคิวอาหารทะเลไว้ อาหารสดมาก ปูนึ่ง กุ้งย่าง ปลาหมึกย่าง อร่อยมาก ราคาไม่แพงเลย (ขอโทษจริงๆที่จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่)
6. สระน้ำเป็นสระน้ำเกลือ ขนาดกำลังดี มีด้านตื้นที่ทำเป็นที่นั่ง ไว้ให้เด็กเล็กๆเดินเล่นน้ำได้
7. ทีวีเครื่องใหญ่ มีดีวีดีพร้อม
6. ห้องน้ำใช้การได้ดี ใหญ่ดีด้วย
(นี่เป็นห้องน้ำชั้นสองนะคะ เป็นห้องน้ำกลางกึ่งกลางแจ้งด้วย)
(สาบานว่ามองผ่านๆครั้งแรกนึกว่าถุงยาง!)
ข้อเสีย
1. เป็น pool villa ที่ไม่ควรเรียกว่า pool villa เพราะไม่มีความเป็นส่วนตัว
- ห้องพักธรรมดาเป็นส่วนตัวกว่าเยอะ เหมือนว่าตรงนี้เค้าตั้งใจทำให้รับกับคนมาจัดปาร์ตี้ได้ (เหมือนทำเป็นห้อง function ได้) แล้วตั้งอยู่ข้างห้องอาหาร (จริงๆเป็นส่วนโล่งๆ มุงหลังคาเฉยๆ ไม่ได้เป็นห้อง) แบบที่เอากระถางต้นไม้มาตั้งกั้นไว้ คนที่นั่งกินข้าวอยู่ในห้องอาหารคุยอะไร เรานั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นได้ยินหมด
- เวลาเล่นน้ำในสระ"ส่วนตัว" จะมีแขกคนอื่นเดินมาถ่ายรูปกับเจ้าลิงตัวหนึ่งซึ่งเค้าตั้งไว้กั้นส่วนที่เป็นส่วนรวม กับส่วนวิลล่า แต่ทุกคนถ่ายมา ก็เรียกว่าติดเราเต็มๆ
- ห้องทุกส่วน คนสามารถเดินไปเดินมาได้หมด เราเล่นๆน้ำอยู่ก็มีพนักงานเดินผ่านไปลงหาดหน้าตาเฉย
- ตรงกลางระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอน เป็นทางเดินไปโรงครัวและห้องน้ำสำหรับแขกที่ไม่อยากกลับไปทำธุระข้างห้องพัก
- ข้าวของต้องระวังกันเวลาวางของไว้ห้องนั่งเล่น เพราะประตูเลื่อนนั่นไม่มีล็อค! และห้องอาหารที่มีคนเดินเข้าออกตลอดเวลาก็อยู่ตรงนั้นเลย (เดินก้าวเดียวถึงห้องอาหารเลยค่ะ)
2. ไม่ safety
- บันไดขึ้นลงห้องนอนทำไว้โล่งๆ ถ้ามีเด็กนี่หล่นตามช่องว่างได้เลย หรือถ้าเมาก็มีสิทธิก้าวพลาดได้
- สระน้ำด้านลึกนี่ลึกเลย น่าจะสองเมตรได้ สำหรับสระน้ำที่กว้างยาวแค่ประมาณ 6x6 เมตรนี่ เราว่าไม่จำเป็นต้องทำลึกขนาดนั้นก็ได้นะ
- เพราะขอบประตูทุกบานเป็นร่องบานเลื่อน ถ้าเผลอเหยียบไปก็เจ็บเลย เวลาเดินเข้าออกจะติดม่านด้วย ทำให้เป๋ไปมา เราเอาต้นแขนไปชนขอบประตู (ที่เป็นรางเลื่อนเหล็ก ก็จะคมหน่อย) ก็ถลอกแล้วก็ช้ำไปสองที ไม่นับไม้ที่เค้าเอาไว้จับเปิดปิดม่าน ที่มันกระแทกหัวเราทุกครั้งที่จะแหวกม่านไปเปิดประตู
- เพราะเป็นบานเลื่อน จะไม่ค่อยปลอดภัยถ้ามีเด็กเล็ก เด็กเล็กก็ชอบเกาะกระจก ถ้าเปิดประตูไม่ระวัง มือเด็กก็จะโดนบานเลื่อนหนีบเอาได้
3. การสื่อสารกับลูกค้าไม่ค่อยมี
อันนี้ต้องบอกก่อนว่า ทุกคนในรีสอร์ทยิ้มแย้มแจ่มใจ เอื้อเฟื้อช่วยเหลือแขกอย่างเต็มที่ น่ารักมากนะคะ แต่ที่จะคอมเม้นท์ก็คือการสื่อสารกับลูกค้า
- ควรบอกลูกค้าแต่แรกว่าจะมีงานริมหาด อาจจะเสียงดัง ซึ่งเราว่ามันเป็นเรื่องปกติของโรงแรม ที่เวลามีงานริมสระ หรือมีอีเว้นท์อะไร ก็ต้องบอกและขออภัยแขกล่วงหน้า ไม่ใช่ให้มารู้เองตอนมาถึง เพราะแขกที่มาก็คงต้องการมาพักผ่อน ไม่ใช่มาปาร์ตี้ ครอบครัวเราวันนั้น คนแก่สามเด็กหนึ่ง สงสารคุณยาย นอนฟังเสียงคอนเสิร์ตอยู่จนเช้า ตอนเช้ามาเม้าท์ได้อีกว่า "สงสารนักร้องเนอะ ตะโกนแต่ให้คนร้องตาม ไม่เห็นมีใครร้องตามเลย" 55555 จริงๆคือเค้าร้องตามแต่คุณยายไม่ได้ยินต่างหาก ^-^
- น้องชายสั่งบาร์บีคิวอาหารทะเลตอนหกโมง แต่หิวเลยขอให้เค้าเอามาตอนห้าโมง พอห้าครึ่ง น้องสะใภ้โมโหหิว บอกให้ตาม ไม่เห็นมีใครมาตั้งเตาซักที สรุปว่า เค้าทำให้เสร็จ แล้วเอามาตั้งให้ในห้องอาหาร สิ่งที่เซอร์ไพรซ์สองอย่างคือ 1.โอเค อันนี้คงเข้าใจกันผิด เพราะเราสั่งบาร์บีคิวอาหารทะเล ก็เข้าใจว่าเค้าจะตั้งเตาให้ (ก็เวลาไปเขาใหญ่มันเป็นแบบนั้นนี่นา) 2. ทำเสร็จนานแล้ว ไม่มีใครเดินมาบอกแขก แสดงว่าแม้แต่การสื่อสารภายในเองก็ไม่ดี ต่างคนต่างทำแต่หน้าที่ของตัวเอง ยังไม่ได้คิดเอาใจของลูกค้ามาไว้ในใจตนเอง ซึ่งนี่คือข้อแตกต่างของนักการโรงแรมอาชีพ กับไม่ใช่มืออาชีพ
สรุป
- ห้อง pool villa นี่ไม่เหมาะกับคนที่เคยชินกับ pool villa ปกติ น่าจะเหมาะกับกลุ่มที่มาเฮฮากัน ออกไปเล่นน้ำทะเล กลับมาโดดสระต่อ ไม่เหมาะสำหรับคนที่อยากพักผ่อนชิวๆ และอย่าคิดว่ามันเป็น pool villa ให้นึกว่ามันเป็นห้องประชุมที่เค้าเอามาจัดใหม่เป็นห้องนั่งเล่นจะดีกว่า
- ส่วนที่เป็นห้องพักอื่น ซึ่งอยู่อีกด้านของห้องอาหารนั้น จัดดี ดูเป็นส่วนตัว ดูเก็บเสียงด้วย (แอบเห็นเหมือนเป็นกระจกสองชั้นกั้นเสียง อันนี้ไม่แน่ใจ) มีสระว่ายน้ำใหญ่อีกหนึ่งสระ เท่าที่ดูก็น่าจะโอเค แต่ไม่ได้ถามราคามา
(นี่คือไปถ่ายมาก่อนกลับ)
- โดยรวมรีสอร์ทเหมือนมีไอเดียดีๆอะไรหลายอย่าง แต่มันไม่ลงตัวเสียทีเดียว บางอย่างก็เวิร์ค บางอย่างก็ไม่เวิร์ค แต่รวมๆแล้วอยู่สบาย ซึ่งอันนี้เราว่าขึ้นกับราคาที่จ่ายล่ะ ถ้าแพงก็ถือว่าไม่คุ้มเท่าไหร่
(ยกตัวอย่างนะคะ นี่คือห้องน้ำชั้นสองค่ะ ที่เป็นกึ่งกลางแจ้ง ตัวไม้ระแนงจะมีม่านที่ดึงมาปิดอีกชั้น แต่ถ้าเปิดมา ก็จะมองเห็นถนนด้านหน้ารีสอร์ทเลย คือไอเดียดี แต่คงไม่มีใครกล้าเปิดม่านอาบน้ำ หรือแม้แต่ทำธุระจริงๆใช่ไหมคะ หรืออาจจะมีคนกล้าแบบพวก voyeurism !?!)
- ตอนแรกจะให้ สองดาวครึ่ง เพราะคิดว่าไม่ดีไม่เสีย ด้วยราคานี้ สามารถหา pool villa ที่ดีกว่านี้ได้อีกมาก แต่ด้วยความที่เตียงมันนอนสบายจริงๆ และห้องน้ำกว้างขวางถูกใจใช้ดี เลยให้ไปสามดาว!
ก่อนกลับ อิชั้นถึงกับขอเปิดผ้าปูเตียงดูว่าที่นอนยี่ห้ออะไร แล้วก็ค้นพบความลับ อิอิ
ส่วนที่อิชั้นคิดว่าเป็นกำไรในทริปนี้ก็คือได้ฟังคอนเสิร์ต Room39 อย่างใกล้ชิดโดยที่ไม่ต้องเสียค่าบัตร และไม่ต้องออกไปตากยุงอยู่ริมหาด แต่อิชั้นสามารถนอนตากแอร์อยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น จิบสปายเร้ดแบบชิวๆ อ่านนิยายไป ฟังเพลงไป อิชั้นว่ามันเริ่ดสุดแล้ว แต่ความสุขของอิชั้นมันยังมีความทุกข์ของคนอีกหกคน คือพ่อแม่และยาย คนแก่ที่ไม่ชอบเสียงดัง และน้องชายน้องสะใภ้ที่อดหลับอดนอนเพราะเจ้าหลานตัวเล็กนอนไม่หลับ แต่คนเรา ชีวิตมันสั้นนะอิชั้นว่า อะไรที่มันกลับไปแก้ไขไม่ได้ก็ไม่ควรเอามันมาคิด ควรจะคิดอะไรสร้างสรรและทำให้มันดีกว่าเดิม เหมือนกับที่อิชั้นมารีวิวรีสอร์ทในครั้งนี้ ก็เพื่อแชร์กันกับเพื่อนๆพันทิพ (ที่อิชั้นก็เข้ามาใช้บริการอ่านรีวิวเป็นประจำ) ให้ได้รับข้อมูลจากลูกค้าที่ไปใช้งานจริงบ้างอีกช่องทางหนึ่ง
หากรีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับใครบ้าง ก็ขอให้ท่านๆ ทำประโยชน์ให้กับชุมชนพันทิพของเราต่อไป ด้วยการไปเที่ยวไปกินไปพักที่ไหน ก็มารีวิวเล่าสู่กันฟังบ้างเน้อค่ะ
เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้
ราตรีสวัสดิ์
[CR] Papa Monkey Resort : Pool Villa ... ไม๊นะ?
ช่วงวันแม่ที่ผ่านมา ที่บ้านเราได้มีโอกาสไปเที่ยวกันทั้งครอบครัวค่ะ
ปรกติครอบครัวเราไปเที่ยวทะเลกัน ก็จะไปเช่าบ้านพักริมทะเล ทำอะไรกินกันเองง่ายๆ แต่เมื่อเรากับน้องชายโตขึ้น ได้มีโอกาสไปพักรีสอร์ทหรูๆ สบายๆ โดยเฉพาะน้องชายที่ชอบพาภรรยาและลูกพักผ่อนชายทะเลตาม pool villa ต่างๆ เค้าจึงมาชวนว่า เค้าอยากจะพาพ่อแม่ไปเที่ยวแบบนั้นบ้าง โดยอาสาออกค่าที่พักให้
ตอนนั้นโจทย์ในการหาที่พักคือ pool villa ที่นอนได้ 8 คน
ซึ่งน้องชายบอกว่าโจทย์นี้ยาก เพราะปรกติที่เค้าหาได้ จะนอนได้ 6 คน และช่วงนั้นคือวันหยุดวันแม่ด้วย แต่สุดท้ายก็หาได้ที่ Papa Monkey ที่ปราณบุรี นี่แหละค่ะ น้องชายเปิดให้ดูในเว็บแล้วก็สวยน่ารัก (ดูวัยรุ่นๆ)
พวกเรายังคุยกันว่าแปลกดีที่ว่าง...
พวกเราออกเดินทางกันวันเสาร์ค่ะ กว่าจะแวะทานข้าว ไปถึงที่รีสอร์ทก็บ่ายๆ ก่อนถึงรีสอร์ทที่เป็นทางลงหาด มีร้านค้ามาตั้ง มีม้าหมุนอย่างกับงานวัด ดูคึกคัก พอถึงรีสอร์ท เจ้าหน้าที่ก็โบกให้จอดตามที่เค้ากั้นไว้ให้พร้อมติดเบอร์ทะเบียนรถเรียบร้อย
พอเราเข้าห้องพัก ก็ถึงบางอ้อเลยค่ะว่าทำไมห้องว่าง คือรีสอร์ทนี้เป็นรีสอร์ทสุดท้ายก่อนถึงเขาช่องกระจก ซึ่งกำลังมีงาน "ปราณบุรีปลาหมึกแดดเดียว music festival" หรืออะไรประมาณนี้แหละค่ะ ไปถึงกำลังเช็คเสียงกันเลย ดังขนาดปิดประตูหน้าต่างก็กั้นไม่ได้ -_-"
มาเข้ารีวิวกันดีกว่าค่ะ
ห้องที่เราพักคือ pool villa นะคะ แต่จริงๆมันทำเป็นเหมือนตึกโล่งๆสองหลัง คั่นกลางด้วยทางเดินไปโรงครัว ทั้งสองตึกทำเป็นกระจกเลื่อนทั้งหลัง แล้วปิดด้วยผ้าม่าน (ไม่รู้ว่าเป็นผ้าม่านยูวีหรือเปล่า) ตึกนึงเป็นห้องนอน ห้องนึงก็กินเนื้อที่ทั้งชั้น มีบันไดไม้อยู่ด้านนอก อีกตึกเป็นห้องนั่งเล่นหลังคาสูง ถัดจากห้องนั่งเล่นก็เป็นสระน้ำขนาดกำลังเหมาะ ถัดจากสระน้ำไปก็เป็นรั้วกั้นกับบันไดลงหาด
รูปนี้ถ่ายจากหัวบันไดหน้าห้องนอนชั้นสองค่ะ เห็นหาดเลย เต้นท์นั่นคือเต้นท์ขายของในงานคอนเสิร์ตค่ะ (ใกล้เวทีมวาก!)
ข้อดี
1. เตียงนิ่มมาก ตอนเช้านี่แทบไม่อยากตื่นเช้าเพราะเสียดายเตียง
2. อาหารเช้า เยอะ และอร่อย แต่ตั้งสายไปหน่อย คุณยายเราตื่นเช้ามายังไม่มีอะไรทาน (ของตั้งไม่ครบ) ก็เลยทานนิดหน่อยแล้วก็ไปนั่งเล่นจนเกือบสิบโมงท่านหิวอีกรอบ เราเลยพามากินก่อนที่ทางรีสอร์ทจะเก็บอาหารเช้าไป
3. สถานที่กว้างมาก จริงๆมาซัก 10-20 คนก็ยังอยู่กันแบบสบายๆ (แต่ไม่รู้เค้าคิดค่าอาหารเช้าเท่าไหร่นะคะ)
4. รีสอร์ทจัดดี มีที่ให้ถ่ายรูปเต็มไปหมด โดยเฉพาะมีรูปปั้นลิงหลากหลายท่ามากๆ
5. ทำอาหารอร่อย น้องชายสั่งบาร์บีคิวอาหารทะเลไว้ อาหารสดมาก ปูนึ่ง กุ้งย่าง ปลาหมึกย่าง อร่อยมาก ราคาไม่แพงเลย (ขอโทษจริงๆที่จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่)
6. สระน้ำเป็นสระน้ำเกลือ ขนาดกำลังดี มีด้านตื้นที่ทำเป็นที่นั่ง ไว้ให้เด็กเล็กๆเดินเล่นน้ำได้
7. ทีวีเครื่องใหญ่ มีดีวีดีพร้อม
6. ห้องน้ำใช้การได้ดี ใหญ่ดีด้วย
(นี่เป็นห้องน้ำชั้นสองนะคะ เป็นห้องน้ำกลางกึ่งกลางแจ้งด้วย)
(สาบานว่ามองผ่านๆครั้งแรกนึกว่าถุงยาง!)
ข้อเสีย
1. เป็น pool villa ที่ไม่ควรเรียกว่า pool villa เพราะไม่มีความเป็นส่วนตัว
- ห้องพักธรรมดาเป็นส่วนตัวกว่าเยอะ เหมือนว่าตรงนี้เค้าตั้งใจทำให้รับกับคนมาจัดปาร์ตี้ได้ (เหมือนทำเป็นห้อง function ได้) แล้วตั้งอยู่ข้างห้องอาหาร (จริงๆเป็นส่วนโล่งๆ มุงหลังคาเฉยๆ ไม่ได้เป็นห้อง) แบบที่เอากระถางต้นไม้มาตั้งกั้นไว้ คนที่นั่งกินข้าวอยู่ในห้องอาหารคุยอะไร เรานั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นได้ยินหมด
- เวลาเล่นน้ำในสระ"ส่วนตัว" จะมีแขกคนอื่นเดินมาถ่ายรูปกับเจ้าลิงตัวหนึ่งซึ่งเค้าตั้งไว้กั้นส่วนที่เป็นส่วนรวม กับส่วนวิลล่า แต่ทุกคนถ่ายมา ก็เรียกว่าติดเราเต็มๆ
- ห้องทุกส่วน คนสามารถเดินไปเดินมาได้หมด เราเล่นๆน้ำอยู่ก็มีพนักงานเดินผ่านไปลงหาดหน้าตาเฉย
- ตรงกลางระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอน เป็นทางเดินไปโรงครัวและห้องน้ำสำหรับแขกที่ไม่อยากกลับไปทำธุระข้างห้องพัก
- ข้าวของต้องระวังกันเวลาวางของไว้ห้องนั่งเล่น เพราะประตูเลื่อนนั่นไม่มีล็อค! และห้องอาหารที่มีคนเดินเข้าออกตลอดเวลาก็อยู่ตรงนั้นเลย (เดินก้าวเดียวถึงห้องอาหารเลยค่ะ)
2. ไม่ safety
- บันไดขึ้นลงห้องนอนทำไว้โล่งๆ ถ้ามีเด็กนี่หล่นตามช่องว่างได้เลย หรือถ้าเมาก็มีสิทธิก้าวพลาดได้
- สระน้ำด้านลึกนี่ลึกเลย น่าจะสองเมตรได้ สำหรับสระน้ำที่กว้างยาวแค่ประมาณ 6x6 เมตรนี่ เราว่าไม่จำเป็นต้องทำลึกขนาดนั้นก็ได้นะ
- เพราะขอบประตูทุกบานเป็นร่องบานเลื่อน ถ้าเผลอเหยียบไปก็เจ็บเลย เวลาเดินเข้าออกจะติดม่านด้วย ทำให้เป๋ไปมา เราเอาต้นแขนไปชนขอบประตู (ที่เป็นรางเลื่อนเหล็ก ก็จะคมหน่อย) ก็ถลอกแล้วก็ช้ำไปสองที ไม่นับไม้ที่เค้าเอาไว้จับเปิดปิดม่าน ที่มันกระแทกหัวเราทุกครั้งที่จะแหวกม่านไปเปิดประตู
- เพราะเป็นบานเลื่อน จะไม่ค่อยปลอดภัยถ้ามีเด็กเล็ก เด็กเล็กก็ชอบเกาะกระจก ถ้าเปิดประตูไม่ระวัง มือเด็กก็จะโดนบานเลื่อนหนีบเอาได้
3. การสื่อสารกับลูกค้าไม่ค่อยมี
อันนี้ต้องบอกก่อนว่า ทุกคนในรีสอร์ทยิ้มแย้มแจ่มใจ เอื้อเฟื้อช่วยเหลือแขกอย่างเต็มที่ น่ารักมากนะคะ แต่ที่จะคอมเม้นท์ก็คือการสื่อสารกับลูกค้า
- ควรบอกลูกค้าแต่แรกว่าจะมีงานริมหาด อาจจะเสียงดัง ซึ่งเราว่ามันเป็นเรื่องปกติของโรงแรม ที่เวลามีงานริมสระ หรือมีอีเว้นท์อะไร ก็ต้องบอกและขออภัยแขกล่วงหน้า ไม่ใช่ให้มารู้เองตอนมาถึง เพราะแขกที่มาก็คงต้องการมาพักผ่อน ไม่ใช่มาปาร์ตี้ ครอบครัวเราวันนั้น คนแก่สามเด็กหนึ่ง สงสารคุณยาย นอนฟังเสียงคอนเสิร์ตอยู่จนเช้า ตอนเช้ามาเม้าท์ได้อีกว่า "สงสารนักร้องเนอะ ตะโกนแต่ให้คนร้องตาม ไม่เห็นมีใครร้องตามเลย" 55555 จริงๆคือเค้าร้องตามแต่คุณยายไม่ได้ยินต่างหาก ^-^
- น้องชายสั่งบาร์บีคิวอาหารทะเลตอนหกโมง แต่หิวเลยขอให้เค้าเอามาตอนห้าโมง พอห้าครึ่ง น้องสะใภ้โมโหหิว บอกให้ตาม ไม่เห็นมีใครมาตั้งเตาซักที สรุปว่า เค้าทำให้เสร็จ แล้วเอามาตั้งให้ในห้องอาหาร สิ่งที่เซอร์ไพรซ์สองอย่างคือ 1.โอเค อันนี้คงเข้าใจกันผิด เพราะเราสั่งบาร์บีคิวอาหารทะเล ก็เข้าใจว่าเค้าจะตั้งเตาให้ (ก็เวลาไปเขาใหญ่มันเป็นแบบนั้นนี่นา) 2. ทำเสร็จนานแล้ว ไม่มีใครเดินมาบอกแขก แสดงว่าแม้แต่การสื่อสารภายในเองก็ไม่ดี ต่างคนต่างทำแต่หน้าที่ของตัวเอง ยังไม่ได้คิดเอาใจของลูกค้ามาไว้ในใจตนเอง ซึ่งนี่คือข้อแตกต่างของนักการโรงแรมอาชีพ กับไม่ใช่มืออาชีพ
สรุป
- ห้อง pool villa นี่ไม่เหมาะกับคนที่เคยชินกับ pool villa ปกติ น่าจะเหมาะกับกลุ่มที่มาเฮฮากัน ออกไปเล่นน้ำทะเล กลับมาโดดสระต่อ ไม่เหมาะสำหรับคนที่อยากพักผ่อนชิวๆ และอย่าคิดว่ามันเป็น pool villa ให้นึกว่ามันเป็นห้องประชุมที่เค้าเอามาจัดใหม่เป็นห้องนั่งเล่นจะดีกว่า
- ส่วนที่เป็นห้องพักอื่น ซึ่งอยู่อีกด้านของห้องอาหารนั้น จัดดี ดูเป็นส่วนตัว ดูเก็บเสียงด้วย (แอบเห็นเหมือนเป็นกระจกสองชั้นกั้นเสียง อันนี้ไม่แน่ใจ) มีสระว่ายน้ำใหญ่อีกหนึ่งสระ เท่าที่ดูก็น่าจะโอเค แต่ไม่ได้ถามราคามา
(นี่คือไปถ่ายมาก่อนกลับ)
- โดยรวมรีสอร์ทเหมือนมีไอเดียดีๆอะไรหลายอย่าง แต่มันไม่ลงตัวเสียทีเดียว บางอย่างก็เวิร์ค บางอย่างก็ไม่เวิร์ค แต่รวมๆแล้วอยู่สบาย ซึ่งอันนี้เราว่าขึ้นกับราคาที่จ่ายล่ะ ถ้าแพงก็ถือว่าไม่คุ้มเท่าไหร่
(ยกตัวอย่างนะคะ นี่คือห้องน้ำชั้นสองค่ะ ที่เป็นกึ่งกลางแจ้ง ตัวไม้ระแนงจะมีม่านที่ดึงมาปิดอีกชั้น แต่ถ้าเปิดมา ก็จะมองเห็นถนนด้านหน้ารีสอร์ทเลย คือไอเดียดี แต่คงไม่มีใครกล้าเปิดม่านอาบน้ำ หรือแม้แต่ทำธุระจริงๆใช่ไหมคะ หรืออาจจะมีคนกล้าแบบพวก voyeurism !?!)
- ตอนแรกจะให้ สองดาวครึ่ง เพราะคิดว่าไม่ดีไม่เสีย ด้วยราคานี้ สามารถหา pool villa ที่ดีกว่านี้ได้อีกมาก แต่ด้วยความที่เตียงมันนอนสบายจริงๆ และห้องน้ำกว้างขวางถูกใจใช้ดี เลยให้ไปสามดาว!
ก่อนกลับ อิชั้นถึงกับขอเปิดผ้าปูเตียงดูว่าที่นอนยี่ห้ออะไร แล้วก็ค้นพบความลับ อิอิ
ส่วนที่อิชั้นคิดว่าเป็นกำไรในทริปนี้ก็คือได้ฟังคอนเสิร์ต Room39 อย่างใกล้ชิดโดยที่ไม่ต้องเสียค่าบัตร และไม่ต้องออกไปตากยุงอยู่ริมหาด แต่อิชั้นสามารถนอนตากแอร์อยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น จิบสปายเร้ดแบบชิวๆ อ่านนิยายไป ฟังเพลงไป อิชั้นว่ามันเริ่ดสุดแล้ว แต่ความสุขของอิชั้นมันยังมีความทุกข์ของคนอีกหกคน คือพ่อแม่และยาย คนแก่ที่ไม่ชอบเสียงดัง และน้องชายน้องสะใภ้ที่อดหลับอดนอนเพราะเจ้าหลานตัวเล็กนอนไม่หลับ แต่คนเรา ชีวิตมันสั้นนะอิชั้นว่า อะไรที่มันกลับไปแก้ไขไม่ได้ก็ไม่ควรเอามันมาคิด ควรจะคิดอะไรสร้างสรรและทำให้มันดีกว่าเดิม เหมือนกับที่อิชั้นมารีวิวรีสอร์ทในครั้งนี้ ก็เพื่อแชร์กันกับเพื่อนๆพันทิพ (ที่อิชั้นก็เข้ามาใช้บริการอ่านรีวิวเป็นประจำ) ให้ได้รับข้อมูลจากลูกค้าที่ไปใช้งานจริงบ้างอีกช่องทางหนึ่ง
หากรีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับใครบ้าง ก็ขอให้ท่านๆ ทำประโยชน์ให้กับชุมชนพันทิพของเราต่อไป ด้วยการไปเที่ยวไปกินไปพักที่ไหน ก็มารีวิวเล่าสู่กันฟังบ้างเน้อค่ะ
เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้
ราตรีสวัสดิ์
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น