สังคายนาองค์กรอิสระต้นตอชนวนวิกฤตความขัดแย้ง ....วิเคราะห์การเมือง ไทยรัฐออนไลน์

กระทู้สนทนา
พ้นทุกข์เสียทีวลีที่ดังขึ้นในห้องประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นัดสุดท้าย
บ่งบอกอาการโล่งอกของ กกต.หลังจากจบภารกิจสำคัญ วันที่ 19 ก.ย.ครบวาระดำรง
ตำแหน่ง 7 ปีตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้

นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกประชามติ เป็น
กกต.อีกท่านที่เอ่ยปากว่าพ้นทุกข์เสียทีระหว่างเปิดใจให้สัมภาษณ์ ทีมข่าวการเมือง
โดยบอกว่าไม่เสียดายหลังจากพ้นตำแหน่ง กกต. เหมือนพ้นทุกข์ไปเสียที

ตอนแรกที่เข้ามาทำงานรู้สึกเศร้าใจ บางครั้งมีความรู้สึกอยากจะลาออก
เพราะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ กกต.เชื่อมโยงเหตุการณ์ทางการเมืองตลอด
เจอทั้งเสื้อเหลือง เสื้อแดง มีความรู้สึกว่าทั้ง 2 ฝ่ายเกลียดเรา
แต่มองดูแล้วเมื่อเกิดมาเป็นคนต้องอดทน สู้ต่อไป
ถ้าลาออกก่อนครบวาระจะเหมือนเป็นคนยอมแพ้

ตลอดระยะเวลา 7 ปี กกต.ไม่ได้วางมาตรฐานระบบงานให้องค์กรเท่าที่ควร
ที่สำคัญที่สุดบุคลากรในองค์กรมาจากหลายหน่วยงาน อาทิ กระทรวงมหาดไทย
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เอ็นจีโอ แต่ละหน่วยงานมีวัฒนธรรมการทำงานแตกต่างกัน
เมื่อมารวมอยู่ที่ กกต.เป็นเรื่องยากที่จะเชื่อมความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิด
ขอให้เป็นหน้าที่ของ กกต.ชุดใหม่จะต้องวางโครงสร้าง
กกต.และทำองค์กรนี้ให้เป็นเนื้อเดียวกันให้ได้
<
<
<
แต่การวินิจฉัยแต่ละครั้งย่อมมีคนที่ชนะและคนที่แพ้ ฝ่ายที่ชนะก็พึงพอใจ
ฝ่ายที่แพ้ย่อมไม่พอใจ โดยเฉพาะในภาวะบ้านเมืองแตกแยก คนในชาติแบ่งเป็นหลายกลุ่ม
ความพอใจหรือไม่พอใจที่เกิดขึ้นย่อมตกแก่ผู้ตัดสินไม่ว่าจะเป็น กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ
หรือองค์กรอิสระอื่นๆ เมื่อถูกวิจารณ์ก็ต้องทำใจและอธิบายชี้แจงต่อสังคม

องค์กรอิสระจะต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง
หากตัดสินคำร้องไปแล้วจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อประเทศหรือไม่
คงไม่มีใครอยากให้ประเทศไทยเกิดความวุ่นวายและไม่อยากให้ใช้คำว่ามีมือที่มองไม่เห็นเข้ามา
ขณะนี้ตอบไม่ได้ว่ามือที่มองไม่เห็นคือใคร
ใครที่จะเข้ามามีอิทธิพลสามารถบังคับบัญชาองค์กรอิสระได้
ทั้งหมดคงเป็นเรื่องที่ทุกคนอยากทำให้ประเทศไทยอยู่ในสภาวะสงบและเดินไปได้ด้วยดี

มีนักการเมืองกล่าวหาอีกฝ่ายมีการซื้อเสียงเลือกตั้ง ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
นางสดศรี บอกว่า กกต.ทราบว่ามีการซื้อเสียง แต่ไม่มีใครกล้ามาเป็นพยาน
เพราะกลัวถูกฆ่า การซื้อเสียงมีทั้ง 2 ฝ่าย ไม่มีใครไม่ซื้อ
หลายคนก็ยอมรับว่าการเลือกตั้งมีค่าใช้จ่าย 1.5 ล้านบาท แต่กลับมีการจ่ายจริงถึง 45
ล้านบาท เมื่อเข้ามาด้วยเงิน เข้ามามีอำนาจก็ต้องถอนทุนคืน


ในส่วนของ กกต.ก็ถูกวิจารณ์ใน ลักษณะมีใบสั่งในคำร้องต่างๆ
ข้อวิจารณ์มีแนวโน้มไปในลักษณะเช่นนี้ สิ่งเหล่านี้ต้องยอมรับเช่น
การเกิดความแตกแยกที่เกิดขึ้นมาจากการช่วงชิงอำนาจรัฐ
ก็มีผลมาจากการทำงานจากองค์กรอิสระด้วย
ดังนั้นจะต้องปฏิรูปองค์กรอิสระ

มองอย่างไรมีนักการเมืองบางกลุ่มระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ทำให้เกิดความวุ่นวายทางการเมือง นางสดศรี บอกว่า
ไม่เข้าใจทำไมต้องเอาแค่คนคนหนึ่งมามีอิทธิพลต่อการเมือง
การเมืองที่เป็นเช่นนี้ไม่ได้เกิดจากคนใดคนหนึ่ง ไม่ได้เกิดจากมือที่มองไม่เห็น
น่าจะเกิดจากการช่วงชิงอำนาจรัฐ เพราะอำนาจรัฐเป็นอาหารอันโอชะของนักการเมือง
ใครได้อำนาจก็ได้ทั้งอำนาจ เงินตราและทุกอย่างจะเข้ามา


ในอนาคตจะทำอย่างไรให้อำนาจรัฐเป็นสิ่งที่ไม่ต้องช่วงชิง
เป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดจากคนใดคนหนึ่งหรือเกิดจากมือที่มองไม่เห็น
อยากฝากข้อคิดไปถึงสังคมไทยว่าวันนี้ประเทศไทยทำไมต้องแตกแยกกัน
ขอให้หันไปมองประเทศเพื่อนบ้าน ทุกประเทศกำลังเดินหน้าไปด้วยดี ยกเว้นกัมพูชา
ประเทศมีวิกฤติทางการเมืองไม่เป็นผลดีต่อประเทศ
จะหาทางออกโดยแก้ไขที่การเมืองคงลำบาก การปฏิรูปประเทศหากทุกฝ่ายไม่ร่วมมือกัน
การปฏิรูปก็ไม่สำเร็จ
ทางออกที่ดีควรสังคายนาการเมืองเพื่อให้ประชาชนตื่นตัวและมีส่วนร่วมทางการเมือง
ไม่ทราบจะทำได้ในเจเนอเรชั่นนี้หรือเจเนอเรชั่นของลูกหลาน

มีการวิพากษ์วิจารณ์คำวินิจฉัยยุบพรรคการเมือง
เมื่อกรรมการบริหารพรรคคนใดคนหนึ่งทำผิดต้องถูกยุบพรรค
นางสดศรี บอกว่าส.ส.ร.ยกร่างรัฐธรรมนูญปี 50
วางธงป้องกันและขวางไม่ให้รัฐบาลชุดต่อไปดำเนินการเหมือนรัฐบาลชุดที่โดนปฏิวัติ
หนึ่งในกระบวนการนั้นคือต้องการให้เลือกตั้งโปร่งใส จึงกำหนดมาตรา 237 ขึ้นมา

ในฐานะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญปี 50 เสียงข้างน้อยไม่เห็นด้วย
เพราะกรรมการบริหารพรรคคนใดคนหนึ่งทำผิดกฎหมายเลือกตั้งจะต้องถูกยุบพรรค
กระทบต่อบุคคลที่ไม่รู้เรื่องด้วย ฉะนั้นควรแก้ไขมาตรา 237
ให้เป็นความผิดเฉพาะตัวบุคคล ไม่เช่นนั้นจะทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอ
นักการเมืองตัวจริงไม่เข้ามาเป็นกรรมการบริหารพรรค และทำให้องค์กรอิสระทั้ง กกต.
ศาลรัฐธรรมนูญมีอิทธิพลทางการเมืองมากขึ้น
รัฐธรรมนูญปี 50 เหมือนให้อำนาจองค์กรอิสระมีลักษณะ
อำนาจที่สี่นอกเหนือจากอำนาจทั้งสามฝ่าย
เอื้อประโยชน์ให้ตุลาการหรือองค์กรอิสระมากไป
หากใช้อำนาจมากเกินไปยิ่งจะทำให้บ้านเมืองเกิดความแตกแยกยิ่งขึ้น
ถึงเวลาสังคายนาปฏิรูปองค์กรอิสระไม่ว่าจะเป็น กกต.
ศาลรัฐธรรมนูญก่อนจะปฏิรูปการเมือง


ต้องวางมาตรฐานขององค์กรเหล่านี้มีกรอบอำนาจแค่ไหน เพียงใด
เป็นเรื่องที่สำคัญของทุกองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการเมือง
จะต้องมาพูดคุยกันว่ามีทิศทางไหนบ้างที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าไปด้วยดี
การจะวินิจฉัยในลักษณะที่เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง อย่าคิดว่าประชาชนนั้นโง่
ประชาชนไม่ใช่คนโง่ รู้ดีว่าสิ่งเหล่านี้เป็นอย่างไร

และสมควรหรือไม่ที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 เราคงไม่ปล่อยให้
ความแตกแยกของคนไทยมาเป็นประเด็นสำคัญทำให้ประเทศชาติล่มสลาย
คิดว่าคนไทยน่าจะพูดคุยกันได้ รวมถึงต้องแก้ไขที่มาของคณะกรรมการสรรหา
องค์กรอิสระให้มีที่มาตามรัฐธรรมนูญ 2540 ไม่ใช่มีบุคคลเพียง 5-6 ท่าน
เข้าไปสรรหากรรมการองค์กรอิสระ ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีการตั้งธงไว้ล่วงหน้า


ขณะที่มาตรา 309 เจตนารมณ์ของมาตรานี้เป็นเพียงการให้คำสัตยาบันการทำงานของ
คมช.(คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ) เป็นมาตราที่พิเศษ
ถ้าจะเอามาตรานี้ออกจะต้องมาตกลงกันว่าการกระทำที่ผ่านมาจะลบไปด้วยหรือไม่
สิ่งที่หลายคนกลัวคือหากตัดมาตรานี้ออกไปจะส่งผลให้การกระทำที่ผ่านมา

เช่น คตส. (คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ)
ที่เคยวินิจฉัยคดีต่างๆจะลบไปด้วยหรือไม่ และทำให้คดีของ พ.ต.ท.ทักษิณที่ คตส.
ป.ป.ช. (คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ)
วินิจฉัยไปแล้วถูกลบล้างไปด้วยหรือไม่

ทีมข่าวการเมือง ถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญขณะนี้จะกลับไปสู่วิกฤติการเมืองอย่างไร
นางสดศรี บอกว่า ฝ่ายค้านก็แรง
รัฐบาลก็ต้องการเดินไปสู่ในสิ่งที่ได้หาเสียงไว้คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

คิดว่ายังคงมีการช่วงชิงอำนาจรัฐกันอยู่ น่าจะกลับไปสู่การเกิดวิกฤติเหมือนเดิม
ที่เห็นตัวอย่างในต่างประเทศมาแล้ว อาทิ ซีเรีย อียิปต์ ดังนั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นมา

ทหารจะต้องออกมารักษาความสงบให้ประเทศ.


http://www.thairath.co.th/column/pol/wikroh/371334


ตามไปอ่านกันเต็ม จาก link  นะคะน่าอ่านมาก  อ้อ  ไม่แสดงคคห.ค่ะ เพราะ
ยังไงๆ ...  ก็ "ด่ามาร์ค อวยปู บูชาแม้ว" ค่ะ  ในทุกระทู้ โลโก้  คุณข้างบูรพา  ให้นิยามไว้หัวเราะ

สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  การเมือง
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่