เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผมขับรถไปทำธุระ ขณะขับขี่อยู่ในเลนขวาสุด แต่จะเปลี่ยนเลนมายังเลนกลาง ก็ได้เปิดไฟเลี้ยวปกติ แล้วก็หักออกมา ในขณะที่เลนกลางมีรถสองแถวใหญ่อยู่ และสองแถวคันนั้นก็ได้เบี่ยงออกไปยังเลนซ้ายสุด แต่แล้วก็มีรถจักรยานยนต์พุ่งขึ้นมาจากทางด้านหลังรถสองแถว แล้วเฉี่ยวเข้ากับมุมหลังด้านซ้ายรถผม ทำให้ไฟท้ายแตก และมุมด้านซ้ายสีถลอก แต่รถจักรยานยนต์คู่กรณีล้มลง และไถลไปหน่อยหนึ่ง ผมก็รีบจอดรถลงไปทำการช่วยเหลือ พอผมพบหน้าคู่กรณี ผมยกมือไหว้ก่อนเลยครับ แล้วถามไถ่คนขับขี่รถจักรยานยนต์ว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ยืนไหวมั้ย เพราะว่าไม่ได้สนใจว่าผมจะผิดหรือจะถูก แต่ถ้ามีการบาดเจ็บเกิดขึ้น ผมก็ต้องรับผิดชอบ แต่พอผมไหว้เสร็จ คู่กรณีก็เริ่มต่อว่าผมว่าขับรถยังไง ทำไมถึงหักออกมาแบบนั้น (ซึ่งในขณะที่หักผมก็ไม่ได้ขับเร็วเลยครับ เพราะรถค่อนข้างติด ถ้าใครผ่านถนนเส้นพระรามสี่ หน้าศูนย์ฮอนด้า ช่วง 5 โมงเย็น จะรู้ว่ารถเยอะขนาดไหน) ผมก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ คู่กรณีผมก็เริ่มโวยวายเลย บอกว่าเนี่ย รถเค้าพังขนาดนี้ (ล้อรถจักรยานยนต์บิดเสียรูปไป ผมมองแล้วคงไม่สามารถขับต่อไปได้ เพราะมันไม่ได้กลมเหมือนเดิมแล้ว และกระจังหน้ารถจักรยานยนต์มีการถลอกและแตกหักบางส่วน) ผมก็บอกว่างั้นเดี๋ยวผมเรียกประกันมาจัดการให้นะครับ เค้าก็บอกว่า เค้าไม่อยากยืดเยื้อ ไม่อยากให้เรื่องถึงตำรวจด้วย เพราะเค้าจะรีบไปทำงานต่อ (เค้าเป็นพนักงานส่งเอกสารครับ) แล้วเค้าก็บอกว่า เนี่ยรถเค้าเป็นขนาดนี้ 3,000 จะอยู่รึป่าวก็ไม่รู้ ผมก็ได้แต่หยิบโทรศัพท์มาโทรหาประกัน ในขณะเดียวกัน คู่กรณีผมก็เริ่มถอดเสื้อคลุม ถอดเสื้อ ถอดกางเกงออก จนเหลือแต่กางเกงบ๊อกเซอร์ แล้วเช็คร่องรอยบาดเจ็บที่ร่างกาย ซึ่งผมเห็นมีรอยถลอก 3 ที่ คือ ข้อศอกทั้งสองข้าง และบริเวณหลังอีกที่หนึ่ง ผมก็ถามเค้าว่าไหวมั้ย ไปหาหมอก่อนมั้ย ทางนี้ผมจะจัดการเอง เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไร เราก็ยืนคุยกันไประหว่างรอประกัน จึงได้รู้ว่า พรบ. เค้าขาดพอดี และก็ไม่ได้มีประกันอะไรคุ้มครอง มีแต่ประกันสังคมอย่างเดียว จนประกันมาถึง เค้าก็ถามว่าเกิดเหตุอย่างไร ผมก็อธิบายไปตามที่บอกด้านบน และผมก็บอกไปว่าผมประมาทเอง ไม่ทันเห็นเค้าที่ออกมาจากหลังรถสองแถวคันนั้น ผมจึงเซ็นต์รับผิดไปกับทางประกันของผม และผมได้ให้นามบัตรกับทางคู่กรณีเอาไว้ และบอกว่าถ้าติดปัญหาเรื่องการเคลมประกันยังไง ให้ติดต่อหาผม ผมจะจัดการให้ ทางฝ่ายประกันผมก็ได้ให้ผมกลับได้ทันที เค้าจะเคลียร์กับทางคู่กรณีต่อให้ผมเอง ผมจึงออกจากจุดเกิดเหตุมาครับ
พอวันอาทิตย์ช่วงเย็น ผมเห็นมีเบอร์แปลก ๆ โทรเข้าเบอร์มือถือผมหลายครั้งมาก ผมจึงติดต่อกลับไป จึงได้รู้ว่าเป็นน้องเมสเซนเจอร์คนนั้น ผมก็ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง เค้าบอกผมว่า เค้าไม่มีตังค์ติดตัวเลย ไม่มีตังค์ทานข้าว และประกันก็ไม่สามารถเคลมได้ในวันหยุด ต้องรอวันจันทร์ เค้าบอกว่าเค้าต้องการเงิน 2,000 บาท ให้ผมโอนไปให้เค้า ผมก็แจ้งว่าแล้วเค้าตกลงกับประกันผมว่าอย่างไรบ้าง เค้าก็บอกผมแค่ว่าวันนี้เค้าเคลมอะไรไม่ได้ เค้าไม่มีตังค์กินข้าว รอพรุ่งนี้ไม่ได้ ผมก็ได้แต่งง ๆ แล้วก็บอกเค้าว่าเดี๋ยวผมขอปรึกษาประกันก่อน จึงได้วางสายไป หลังจากนั้นเค้าก็โทรมาอีกบ่อยมาก ซึ่งผมได้ปรึกษากับทางเพื่อนผมที่ทำงานด้านนี้ เค้าบอกว่าให้รอประกันก่อน เพราะถ้าเราจ่ายตังค์ไปตามที่เค้าเรียกร้องแต่แรก เราก็ไม่ต้องให้ประกันเคลมอะไร แต่นี่ประกันเคลมให้แล้ว เค้าไม่เห็นด้วยที่ผมจะต้องไปเสียเงินซ้ำซ้อน ในกรณีที่ไม่จำเป็น
ผมจึงอยากปรึกษาเรื่องนี้กับทางผู้รู้นะครับ ว่าที่ผมนี้ถูกต้องหรือเปล่า หรือผมควรจะจ่ายเงินชดใช้ให้กับน้องคนนั้นไป เรื่องจะได้จบ หรือควรจะทำอย่างไรดีครับ เพราะไม่เคยเกิดอุบัติเหตุแบบนี้มาก่อนเลยครับ
ผมขอขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้านะครับ
รบกวนตอบหน่อยครับ คู่กรณีโทรเรียกร้องค่าเสียหายหลังจากเคลียร์กันจบไปแล้ว
พอวันอาทิตย์ช่วงเย็น ผมเห็นมีเบอร์แปลก ๆ โทรเข้าเบอร์มือถือผมหลายครั้งมาก ผมจึงติดต่อกลับไป จึงได้รู้ว่าเป็นน้องเมสเซนเจอร์คนนั้น ผมก็ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง เค้าบอกผมว่า เค้าไม่มีตังค์ติดตัวเลย ไม่มีตังค์ทานข้าว และประกันก็ไม่สามารถเคลมได้ในวันหยุด ต้องรอวันจันทร์ เค้าบอกว่าเค้าต้องการเงิน 2,000 บาท ให้ผมโอนไปให้เค้า ผมก็แจ้งว่าแล้วเค้าตกลงกับประกันผมว่าอย่างไรบ้าง เค้าก็บอกผมแค่ว่าวันนี้เค้าเคลมอะไรไม่ได้ เค้าไม่มีตังค์กินข้าว รอพรุ่งนี้ไม่ได้ ผมก็ได้แต่งง ๆ แล้วก็บอกเค้าว่าเดี๋ยวผมขอปรึกษาประกันก่อน จึงได้วางสายไป หลังจากนั้นเค้าก็โทรมาอีกบ่อยมาก ซึ่งผมได้ปรึกษากับทางเพื่อนผมที่ทำงานด้านนี้ เค้าบอกว่าให้รอประกันก่อน เพราะถ้าเราจ่ายตังค์ไปตามที่เค้าเรียกร้องแต่แรก เราก็ไม่ต้องให้ประกันเคลมอะไร แต่นี่ประกันเคลมให้แล้ว เค้าไม่เห็นด้วยที่ผมจะต้องไปเสียเงินซ้ำซ้อน ในกรณีที่ไม่จำเป็น
ผมจึงอยากปรึกษาเรื่องนี้กับทางผู้รู้นะครับ ว่าที่ผมนี้ถูกต้องหรือเปล่า หรือผมควรจะจ่ายเงินชดใช้ให้กับน้องคนนั้นไป เรื่องจะได้จบ หรือควรจะทำอย่างไรดีครับ เพราะไม่เคยเกิดอุบัติเหตุแบบนี้มาก่อนเลยครับ
ผมขอขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้านะครับ