น.ส.โมรีรัตน์ อดีตนิติกร 8 ว. กรมสรรพากร ฟ้องกลับ ปปช. ต่อศาลปกครองฐานทำเสียชื่อคดีภาษีหุ้นชินฯ ยื่นใบลาออกไม่ขอกลับคลัง

"โมรีรัตน์"ฟ้องกลับ ปปช. ฐานทำเสียชื่อคดีภาษีหุ้นชินฯ ยื่นใบลาออกไม่ขอกลับคลัง

วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 21:24:35 น.


"โมรีรัตน์"ไม่หวนคืนเก้าอี้กรมสรรพากร ยื่นใบลาออกทันทีที่มีคำสั่งให้กลับรับราชการ เล็งฟ้องศาลปกครองเพิกถอนคำสั่ง "ไล่ออกจากราชการ"จ้องเช็กบิล ป.ป.ช.ฐานทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงคดีภาษีหุ้นชินฯ

หลังจากนายอารีพงศ์ ภูชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ได้ลงนามคำสั่งให้ น.ส.โมรีรัตน์ บุญญาศิริ อดีต นิติกร 8 ว. กรมสรรพากร กลับเข้ารับราชการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนัก สังกัดส่วนกลาง กรมสรรพากร (นิติกร 9 บส.) โดยรับเงินเดือนในอันดับ ท.9 ขั้น เป็นเงิน 47,850 บาทต่อเดือน พร้อมเงินประจำตำแหน่ง 10,000 บาทต่อเดือน และเงินค่าตอบแทนรายเดือน 10,000 บาท รวมเป็นเงิน 67,850 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ ให้มีผลย้อนหลังนับตั้งแต่วันที่พ้นตำแหน่งเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2549 รวมระยะเวลาประมาณ 6 ปี หรือคิดเป็นเงินรวมประมาณ 4.8 ล้านบาทแล้วนั้น

แหล่งข่าวจากกรมสรรพากรเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา หลังนายอารีพงศ์ลงนามคำสั่งดังกล่าว ปรากฏว่าน.ส.โมรีรัตน์ได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการแล้ว และทราบว่า น.ส.โมรีรัตน์เตรียมจะฟ้องร้องต่อศาลปกครองให้เพิกถอนคำสั่ง "ไล่ออกจากราชการ" เนื่องจากศาลได้พิพากษาแล้วไม่มีความผิดในคดีภาษีหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ขณะเดียวกันจะฟ้องกลับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ฐานทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงอีกด้วย

แหล่งข่าวกล่าวว่า หลังศาลมีคำพิพากษาให้ยกฟ้องคดีภาษีหุ้นชินฯ กระทรวงการคลังได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล โดยรับ น.ส.โมรีรัตน์กลับเข้ารับราชการต่อในระดับที่สูงขึ้นคืออยู่ในระดับเทียบเท่ารองอธิบดีกรมสรรพากร

"ยอมรับว่าเดิมคาดคิดว่า น.ส.โมรีรัตน์จะกลับเข้ามารับราชการตามคำสั่งดังกล่าวเพื่อเป็นการกอบกู้ศักดิ์ศรีที่สูญเสียไปจากคำสั่งให้ออกจากราชการในอดีต ไม่คิดว่า น.ส.โมรีรัตน์จะตัดสินใจไม่กลับมารับราชการ แต่เรียกร้องความยุติธรรมในกระบวนการศาลแทน" แหล่งข่าวกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.โมรีรัตน์ เป็น 1 ใน 5 ข้าราชการกรมสรรพากรที่ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2547 โดยระบุว่า เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา และมีความผิดวินัยร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 เพราะละเว้นการเก็บภาษีการโอนหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) ระหว่างนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ กับ น.ส.ดวงตา วงศ์ภักดี คนรับใช้ของตระกูลชินวัตร ที่ถือหุ้นแทนคุณหญิงพจมาน ชินวัตร (นามสกุลในขณะนั้น) จำนวน 4.5 ล้านหุ้น มูลค่า 738 ล้านบาท เพราะต้องเสียภาษีประมาณ 273 ล้านบาท แต่การซื้อขายหุ้นดังกล่าวได้อ้างว่าซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จึงเสียแค่ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์เป็นเงินแค่ 7.38 ล้านบาท ส่วนเงินค่าหุ้น คุณหญิงพจมานได้จ่ายเช็คให้ น.ส.ดวงตา แต่สุดท้ายนำเงินกลับเข้าบัญชีตัวเอง จึงเป็นสาเหตุให้ข้าราชการทั้ง 5 รายถูกคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงการคลังไล่ออกจากราชการ แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2552 ศาลอาญาได้พิพากษายกฟ้องคดีที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องข้าราชการทั้ง 5 รายดังกล่าวเป็นจำเลย

(ที่มา:มติชนรายวัน 20 ก.ย.2556)


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1379685740&grpid=&catid=05&subcatid=0501
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่