
แม้คดีทุจริตธนาคารมหานคร ที่มีมูลค่าความเสียหายกว่า 4 พันล้านบาท จะไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีในชั้นศาล เนื่องจาก 1 ในผู้ต้องหาหลบหนี กระทั่งคดีขาดอายุความ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมปีที่แล้ว แต่ยังมีมาตรการยึดทรัพย์สินตามกฎหมายการฟองเงิน ซึ่งเลขาธิการ ป.ป.ง.ได้ส่งเรื่องให้อัยการ เพื่อส่งคำร้องต่อศาลให้มีคำสั่งยึดทรัพย์สินนั้นตกเป็นของแผ่นดิน
เป็นการคำชี้แจ้งถึงขั้นตอนการยึดทรัพย์สิน จากความผิดเกี่ยวกับการยักยอกหรือฉ้อโกงทรัพย์สิน ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ หรือกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ของพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ที่ระบุให้ เลขาธิการ ป.ป.ง.ส่งเรื่องนั้นให้พนักงานอัยการพิจารณาเพื่อยื่นคำ ร้องขอให้ศาลมีคำ สั่งให้ทรัพย์สินนั้นตกเป็นของแผ่นดินโดยเร็ว
กรณีคดีทุจริตธนาคารมหานคร
มูลค่าความเสียหายกว่า 4,100 ล้านบาท หมดอายุความก่อนเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคมปีที่แล้ว เนื่องจาก
นางภคินี สุวรรณภักดี ภรรยาของนางสมพงศ์ อดีตอัยการ และเป็นมารดาของนายอรรถวิชช์ สวรรณภักดี ส.ส.กรุงเทพ เขต 9 พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ต้องหาที่ 3 อดีต รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อธนาคารมหานคร หลบหนีระหว่างขั้นตอนอัยการนำสำนวนส่งฟ้องต่อศาล
แม้ที่ผ่านมา ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. ในฐานะพนักงานสอบสวนในคดี ได้ใช้ความพยายามในการจับกุม
คดีนี้ มีตอบโต้กันอย่างดุเดือดระหว่าง ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งขณะนั้น ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับนายอรรถวิชชย์ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ช่วงกระทู้ถามสด เรื่องการดำเนินการกับอาชญากรทางเศรษฐกิจการเงินวันที่ 11 ตุลาคมปีที่แล้ว
http://news.voicetv.co.th/thailand/82599.html
คนดี นี้มันดีเจงๆ
ปปง.ส่งเรื่องยึดทรัพย์อดีตผู้บริหารธนาคารมหานครให้อัยการแล้ว
แม้คดีทุจริตธนาคารมหานคร ที่มีมูลค่าความเสียหายกว่า 4 พันล้านบาท จะไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีในชั้นศาล เนื่องจาก 1 ในผู้ต้องหาหลบหนี กระทั่งคดีขาดอายุความ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมปีที่แล้ว แต่ยังมีมาตรการยึดทรัพย์สินตามกฎหมายการฟองเงิน ซึ่งเลขาธิการ ป.ป.ง.ได้ส่งเรื่องให้อัยการ เพื่อส่งคำร้องต่อศาลให้มีคำสั่งยึดทรัพย์สินนั้นตกเป็นของแผ่นดิน
เป็นการคำชี้แจ้งถึงขั้นตอนการยึดทรัพย์สิน จากความผิดเกี่ยวกับการยักยอกหรือฉ้อโกงทรัพย์สิน ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ หรือกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ของพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ที่ระบุให้ เลขาธิการ ป.ป.ง.ส่งเรื่องนั้นให้พนักงานอัยการพิจารณาเพื่อยื่นคำ ร้องขอให้ศาลมีคำ สั่งให้ทรัพย์สินนั้นตกเป็นของแผ่นดินโดยเร็ว
กรณีคดีทุจริตธนาคารมหานคร มูลค่าความเสียหายกว่า 4,100 ล้านบาท หมดอายุความก่อนเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคมปีที่แล้ว เนื่องจากนางภคินี สุวรรณภักดี ภรรยาของนางสมพงศ์ อดีตอัยการ และเป็นมารดาของนายอรรถวิชช์ สวรรณภักดี ส.ส.กรุงเทพ เขต 9 พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ต้องหาที่ 3 อดีต รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อธนาคารมหานคร หลบหนีระหว่างขั้นตอนอัยการนำสำนวนส่งฟ้องต่อศาล
แม้ที่ผ่านมา ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. ในฐานะพนักงานสอบสวนในคดี ได้ใช้ความพยายามในการจับกุม
คดีนี้ มีตอบโต้กันอย่างดุเดือดระหว่าง ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งขณะนั้น ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับนายอรรถวิชชย์ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ช่วงกระทู้ถามสด เรื่องการดำเนินการกับอาชญากรทางเศรษฐกิจการเงินวันที่ 11 ตุลาคมปีที่แล้ว
http://news.voicetv.co.th/thailand/82599.html
คนดี นี้มันดีเจงๆ