เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อ่างเก็บน้ำ 15 แห่งใน จ.ศรีสะเกษ มีปริมาณน้ำเต็มความจุ และล้นสปริงเวย์ไหลเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร รวมถึงพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง  ขณะที่อ่างเก็บน้ำฝายป่าอ้อ ต.กันทรอม อ.ขุนหาญ มีน้ำเต็มจนล้น ส่งผลให้อ่างเก็บน้ำดังกล่าวรับน้ำไม่ไหวพังทลายลงมา น้ำทะลักไหลบ่าเข้าท่วมในหลายพื้นที่ ส่วนถนนสายหลักและสายรองหลายจุด โดยเฉพาะถนนสายโชคชัย-เดชอุดม ทางหลวงหมายเลข 24 บริเวณบ้านแตสะรุน ต.ห้วยใต้ อ.ขุขันธ์ ถูกกระแสน้ำไหลผ่านถนนจมอยู่ใต้น้ำสูงประมาณ 20-30 ซม. บางแห่งสูงถึง 50 ซม. รถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านไป-มาได้

ส่วนในเขตเทศบาลตำบลเมืองขุขันธ์ ชาวบ้านต้องเร่งเก็บข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านขึ้นที่สูง บางครอบครัวได้อพยพมาอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราวที่ทางราชการจัดเตรียมไว้รองรับจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ส่วนสัตว์เลี้ยง เช่น วัว ควาย ชาวบ้านได้นำมาผูกเลี้ยงไว้ที่สูงและริมถนน อย่างไรก็ตามมวลน้ำก้อนนี้จะไหลลงลำห้วยสำราญผ่านพื้นที่ อ.ขุขันธ์ ไป อ.วังหิน และไหลเข้าเขตพื้นที่ อ.เมืองศรีสะเกษ ก่อนลงแม่น้ำมูลต่อไป

ขณะเดียวกันชาวบ้านในเขต อ.เมืองศรีสะเกษ ต่างรู้สึกผวาเกรงว่าน้ำจะท่วมเมืองเหมือนครั้งก่อน โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตเทศบาลเมือง อาทิ ชุมชนห้วยสำราญ ชุมชนศิริทรัพย์ทวีโชค ชุมชนหนองหัวหมู ชุมชนท่าเรือ และชุมชนหนองอุทัย  ต่างเตรียมเก็บข้าวของเสื้อผ้าเครื่องใช้ในครัวเรือนเตรียมพร้อมรับมือตลอดเวลา

นายสุพัฒน์ ฤทธิชู หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำ โครงการชลประทานศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้อ่างเก็บน้ำทั้ง 15 แห่ง มีปริมาณน้ำเต็มอ่างแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์  ยกเว้นอ่างเก็บน้ำห้วยตามาย อ.กันทรลักษ์ ที่มีความจุของน้ำเพียง 65 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น ส่วนน้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยศาลา อ.ภูสิงห์ น้ำได้ล้นสปริงเวย์ เจ้าหน้าที่ต้องคอยควบคุมการระบายน้ำให้เหมาะสม เพื่อระมัดระวังไม่ให้น้ำเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนราษฎรด้านล่างเขื่อน

ที่มา:::http://www.dailynews.co.th/thailand/234557