ผมเลือกปชปตั้งแต่มีสิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรกและเลือกตลอดมาจนกระทั้ง
การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ทรท.1 ท่านชวนอภิปราย จบ ผมคิดในใจว่า ตรูเลือกพรรคผิดมาตลอดชีวิตรึเปล่าวะ เพราะท่านพูดในลักษณะที่ว่า
รัฐบาลเลว 100% ซึ่งผมว่าเป็นไปไม่ได้ มันน่าจะดีบ้างเลวบ้าง อันเป็นเรื่องปกติหรือธรรมชาติของสรรพสิ่ง
ต่อจากนั้นผมก็ไม่ได้เลือก ปชป.อีกเลย
ฟังการอภิปรายในสภาสมัยนี้แล้วดูเหมือนว่า ปชป. โดยเฉพาะผู้นำพรรค ยังมีแนวทางการอภิปรายไม่แตกต่างจากในอดีตเท่าใดนัก
พอเลือกตั้งครั้งต่อมาผมเลือก ทรท. ที่เลือกเพราะนโยบายพรรคไม่เกี่ยวกับ หัวหน้าพรรค เพราะผมก็ไม่ชอบพฤติกรรมบางอย่างของหัวหน้าพรรค
หลังรัฐประหาร ผมไปเลือกตั้งแต่ไม่เลือกพรรคใด
ตอนเลือก สว. ผมก็คิดว่าผมคิดผิดอีกครับ เพราะดันไปเลือก คุณที่ชอบพูดถึง ปตท. ก่อนเลือกผมดูว่า เป็นคนกล้าพูดจึงเลือก แต่พอฟังการอภิปราย
ของท่านนี้แล้วโดยเฉพาะเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงของปตท. ก็คิดเหมือนดิมว่า ตรูเลือกคนผิดอีกแล้ว
ผมคิดว่าสรรพสิ่งไม่มีถูกหรือผิดทั้งหมด ถ้าพูดถึงด้านไม่ดีของผู้ใดหรือสิ่งใดแล้ว ต้องพูดในด้านดีด้วย
ยังจำได้ว่าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทรท1 ครั้งนั้น สมาชิก ปชป. ท่านหนึ่ง อภิปรายตอนหนึ่งว่า เห็นด้วยกับการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล
ในคณะนั้น คนอภิปรายเคยเป็น รมว. ใน ครม. ของ ปชป. ด้วย เสียดายที่ ท่านหายไปจากวงการการเมืองเลย
เหรียญมีสองด้าน การกระทำของคนก็เหมือนกัน มีทั้งด้านดีด้านไม่ดี การกระทำที่ทำแล้วบางคนถูกใจ บางคนไม่ชอบ
ครั้งแรกที่มีสิทธิเลือกตั้ง เลือก ปชป. ก็เพราะพรรคนี้ อภิปรายเก่ง สมาชิกพรรคพูดเก่ง บางทีตลกโปกฮา ก็เลยชอบ ต่อมาก็ค่อยรู้เรื่องการเมืองมากขึ้น
ก็มความคิดเป็นของตนเอง รู้ผิดรู้ชอบ แต่มีเรื่องหนึ่งที่สงสัย เกี่ยวกับพรรค ปชป. ก็คือ มีสมาชิกพรรคหลายท่านที่ออกมาจากพรรค แล้วเติบโตในทาง
การเมืองเป็นถึง นรม. ถึง สองท่าน คือ ท่านคึกฤทธิ์และท่านสมัคร ทำไมท่านถึงออกจากพรรค
การเลือกตั้งที่ ทรท ได้เสียงข้างมากถล่มทะลายครั้งนั้นผมเลือก ทรท. (ผิดหวังอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาล ทรท.1) ที่เลือกก็เพราะนโยบาย เพราะส่วนตัวไม่ค่อย
ชอบคุณทักษิณ หลายเรื่อง เช่น ใช้เงินส่วนตัวแก้ปัญหารถติด ตั้งพรรคโดยการดูดสมาชิกพรรคอื่นมา ไม่เข้าประชุมสภา พูดไม่คิดเช่นจะจักงบฯให้พื้นที่ที่เลือก ทรท.ก่อน ฯลฯ แต่ผมก็ชอบการบริหารงานของรัฐบาลที่มี ทรท. เป็นแกนนำนะครับ
เหรียญย่อมมีสองด้านครับ สรรพสิ่งไม่มีดีหรือเลวไปทั้งหมด
เรื่องเล่าเมื่อฟังการอภิปราย
การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ทรท.1 ท่านชวนอภิปราย จบ ผมคิดในใจว่า ตรูเลือกพรรคผิดมาตลอดชีวิตรึเปล่าวะ เพราะท่านพูดในลักษณะที่ว่า
รัฐบาลเลว 100% ซึ่งผมว่าเป็นไปไม่ได้ มันน่าจะดีบ้างเลวบ้าง อันเป็นเรื่องปกติหรือธรรมชาติของสรรพสิ่ง
ต่อจากนั้นผมก็ไม่ได้เลือก ปชป.อีกเลย
ฟังการอภิปรายในสภาสมัยนี้แล้วดูเหมือนว่า ปชป. โดยเฉพาะผู้นำพรรค ยังมีแนวทางการอภิปรายไม่แตกต่างจากในอดีตเท่าใดนัก
พอเลือกตั้งครั้งต่อมาผมเลือก ทรท. ที่เลือกเพราะนโยบายพรรคไม่เกี่ยวกับ หัวหน้าพรรค เพราะผมก็ไม่ชอบพฤติกรรมบางอย่างของหัวหน้าพรรค
หลังรัฐประหาร ผมไปเลือกตั้งแต่ไม่เลือกพรรคใด
ตอนเลือก สว. ผมก็คิดว่าผมคิดผิดอีกครับ เพราะดันไปเลือก คุณที่ชอบพูดถึง ปตท. ก่อนเลือกผมดูว่า เป็นคนกล้าพูดจึงเลือก แต่พอฟังการอภิปราย
ของท่านนี้แล้วโดยเฉพาะเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงของปตท. ก็คิดเหมือนดิมว่า ตรูเลือกคนผิดอีกแล้ว
ผมคิดว่าสรรพสิ่งไม่มีถูกหรือผิดทั้งหมด ถ้าพูดถึงด้านไม่ดีของผู้ใดหรือสิ่งใดแล้ว ต้องพูดในด้านดีด้วย
ยังจำได้ว่าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทรท1 ครั้งนั้น สมาชิก ปชป. ท่านหนึ่ง อภิปรายตอนหนึ่งว่า เห็นด้วยกับการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล
ในคณะนั้น คนอภิปรายเคยเป็น รมว. ใน ครม. ของ ปชป. ด้วย เสียดายที่ ท่านหายไปจากวงการการเมืองเลย
เหรียญมีสองด้าน การกระทำของคนก็เหมือนกัน มีทั้งด้านดีด้านไม่ดี การกระทำที่ทำแล้วบางคนถูกใจ บางคนไม่ชอบ
ครั้งแรกที่มีสิทธิเลือกตั้ง เลือก ปชป. ก็เพราะพรรคนี้ อภิปรายเก่ง สมาชิกพรรคพูดเก่ง บางทีตลกโปกฮา ก็เลยชอบ ต่อมาก็ค่อยรู้เรื่องการเมืองมากขึ้น
ก็มความคิดเป็นของตนเอง รู้ผิดรู้ชอบ แต่มีเรื่องหนึ่งที่สงสัย เกี่ยวกับพรรค ปชป. ก็คือ มีสมาชิกพรรคหลายท่านที่ออกมาจากพรรค แล้วเติบโตในทาง
การเมืองเป็นถึง นรม. ถึง สองท่าน คือ ท่านคึกฤทธิ์และท่านสมัคร ทำไมท่านถึงออกจากพรรค
การเลือกตั้งที่ ทรท ได้เสียงข้างมากถล่มทะลายครั้งนั้นผมเลือก ทรท. (ผิดหวังอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาล ทรท.1) ที่เลือกก็เพราะนโยบาย เพราะส่วนตัวไม่ค่อย
ชอบคุณทักษิณ หลายเรื่อง เช่น ใช้เงินส่วนตัวแก้ปัญหารถติด ตั้งพรรคโดยการดูดสมาชิกพรรคอื่นมา ไม่เข้าประชุมสภา พูดไม่คิดเช่นจะจักงบฯให้พื้นที่ที่เลือก ทรท.ก่อน ฯลฯ แต่ผมก็ชอบการบริหารงานของรัฐบาลที่มี ทรท. เป็นแกนนำนะครับ
เหรียญย่อมมีสองด้านครับ สรรพสิ่งไม่มีดีหรือเลวไปทั้งหมด