เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยนับตั้งแต่การปฏิวัติเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2549 เป็นต้นมา ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความเชื่อของพวกท่านที่คิดว่า "กำจัดเพียงคนเดียว ที่เหลือจัดการง่าย" นั้น ไม่เป็นไปตามที่พวกท่านคาดหมาย
ไม่ว่าจะเป็นอานุภาพของกองทัพที่เคยเป็นมือไม้และกลไกยึดอำนาจ, รัฐธรรมนูญที่พวกท่านบรรจงสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นเครื่องสำหรับมัดมือและเท้าของปรปักษ์ทางอำนาจ, สื่อมวลชนใต้เครือข่ายที่คอยป่าวร้องสนับสนุน ตลอดจนพรรคการเมืองที่ท่านทั้งลากและดันให้ขึ้นมาเพื่อใช้เป็นตัวแทนการใช้อำนาจ ล้วนแล้วแต่ไม่สามารถจะ "ควบคุมประเทศ" ตามที่คณะของพวกท่านตั้งวัตถุประสงค์เอาไว้ได้เลย
ตรงกันข้าม....การณ์กลับกลายเป็นว่าท่านไปช่วยสร้างให้ศัตรูของท่าน "ตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ" โดยไม่คาดคิด เพราะประชาชนที่ไม่ยอมรับการปล้นอำนาจซึ่งๆหน้ามีมากกว่าพวกที่ยอมจำนนกับอำนาจเถื่อนมากมายนัก ทั้งที่แต่เดิมก่อนการยึดอำนาจครั้งนั้น ประชาชนส่วนใหญ่ล้วนแต่มองทักษิณเป็นแค่ "นักการเมืองที่มีผลงานยอมรับได้" ไม่ได้ยึดถือเป็นสัญญลักษร์ของประชาธิปไตยแต่อย่างใดเลย มิหนำซ้ำการแฝงเร้นอยู่หลังฉากของพวกท่านกลับถูกกระชากออกมาประจานจนแทบจะล่อนจ้อน แรงกระเพื่อมจากแรงต้านของประชาชนที่ไม่ยอมถูกมัดมือชกส่งผลย้อนไปหาพวกท่านขนาดไหนคงจะซึ้งใจกันถ้วนทั่วแล้วในวันนี้
มาถึงวันนี้....พรรคการเมืองที่เคยหวังตัวแทนทางการเมืองของกลุ่มท่านกำลังทำลายตัวเองอยู่ทุกวัน หัวหน้าพรรคที่เคยมีภาพลักษณ์เป็นสุภาพบุรุษจากตระกูลเก่าแก่ มีภูมิหลังและการศึกษาที่สูงส่ง วันนี้กำลังทำตัวไม่ต่างจากอันธพาลชั้นต่ำที่ใช้ถ้อยคำหยาบคายกับคู่แข่งทางการเมืองที่เป็นผู้หญิง
คำถามคือ....ต่อให้ไม้ตายสุดท้ายในมือของพวกท่าน เช่นบรรดาองค์กรอิสระทั้งหลายที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นอำนาจที่ 3 คอยสกัดกั้นและเคยสร้างผลงานยุบพรรคมาแล้ว 2 ครั้ง สามารถหาเหตุยุบพรรครัฐบาลชุดนี้ได้อีกครั้งหนึ่ง แล้วท่านคิดว่าผู้นำพรรคฝ่ายค้านคนปัจจุบันที่ท่านใช้เป็น proxy warrior จะยังมีราคาอยู่สักกี่มากน้อย?
ภาพพจน์ของอภิสิทธิ์ในวันนี้ไม่มีราคาเหลือพอที่จะเป็นผู้นำประเทศได้เลย ไม่ว่าจะด้านความสามารถในการบริหารหรือวุฒิภาวะ หากพวกท่านไม่ใช่ไดโนเสาร์หลงยุคที่หลอกตัวเอง ท่านจะเห็นได้ว่าคนที่กำลังแสดงพฤติกรรมอย่างที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้มีแต่จะทำให้เกียรติภูมิของประเทศไทยตกต่ำลงบนเวทีโลก
ลองให้เวลาประเทศไทยสักช่วงหนึ่งจะได้หรือไม่?.....ปล่อยให้คนไทยตัดสินใจกันเองโดยท่านอย่าได้แทรกแซง หรือไม่ท่านก็ให้เวลาหรือไม่ก็ส่งสัญญาณไปยังตัวแทนของท่านได้มีโอกาสปรับตัวเพื่อสร้างผู้นำใหม่คนใหม่ที่มีราคากว่านี้ให้สำเร็จเสียก่อน แล้วค่อยส่งเข้ามาเป็นตัวเลือกใหม่ที่ดีกว่าเดิม ผมเข้าใจดีว่าการเมืองไทยไม่ได้ใสสะอาดอย่างที่ฝันในอุดมคติ ทุกๆขั้วอำนาจทางการเมืองล้วนแล้วแต่เป็นสีเทา ไม่เว้นแม้แต่พรรคไทยรักไทยในวันนี้ ทุกพรรคล้วนแต่มีด้านมืดปนอยู่ในระดับหนึ่ง หากพรรคการเมืองพรรคไหนอ้างว่าตนเองขาวสะอาดหมดจด มีแต่จะถูกมองว่าเป็นพวกดัดจริตเสียมากกว่า ยิ่งพยายามสาดโคลนฝ่ายตรงข้ามเกินขอบเขตยิ่งเปื้อนตัวเองหนักขึ้นทุกที
คนที่ตัดสินใจเลือกพรรครัฐบาลพรรคนี้มีไม่ใช่น้อยที่ไม่ได้ไว้วางใจทักษิณอย่างสนิทใจ แต่พวกเขากลัว "อำนาจที่ตรวจสอบไม่ได้" มากกว่าทักษิณครับ ถ้ามีตัวเลือกใหม่ซึ่งความสามารถใกล้เคียงกับรัฐบาลชุดนี้ ไม่แสดงพฤติกรรมห้อยโหนอำนาจนอกระบบจนน่าเกลียด บางที "ทักษิณ" อาจจะถูกล้มง่ายกว่าที่พวกท่านคิดก็ได้
อย่าซ้ำรอยเดิมด้วยการใช้วิธี "เผาบ้านเพื่อไล่หนู" อีกเลยครับ ความแตกแยกร้าวลึกของประเทศไทยในวันนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่คุ้มค่าเลยสำหรับทุกฝ่าย
ขอเตือนสติไปยัง "พลังหนุนเบื้องหลัง" ของประชาธิปัตย์
ไม่ว่าจะเป็นอานุภาพของกองทัพที่เคยเป็นมือไม้และกลไกยึดอำนาจ, รัฐธรรมนูญที่พวกท่านบรรจงสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นเครื่องสำหรับมัดมือและเท้าของปรปักษ์ทางอำนาจ, สื่อมวลชนใต้เครือข่ายที่คอยป่าวร้องสนับสนุน ตลอดจนพรรคการเมืองที่ท่านทั้งลากและดันให้ขึ้นมาเพื่อใช้เป็นตัวแทนการใช้อำนาจ ล้วนแล้วแต่ไม่สามารถจะ "ควบคุมประเทศ" ตามที่คณะของพวกท่านตั้งวัตถุประสงค์เอาไว้ได้เลย
ตรงกันข้าม....การณ์กลับกลายเป็นว่าท่านไปช่วยสร้างให้ศัตรูของท่าน "ตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ" โดยไม่คาดคิด เพราะประชาชนที่ไม่ยอมรับการปล้นอำนาจซึ่งๆหน้ามีมากกว่าพวกที่ยอมจำนนกับอำนาจเถื่อนมากมายนัก ทั้งที่แต่เดิมก่อนการยึดอำนาจครั้งนั้น ประชาชนส่วนใหญ่ล้วนแต่มองทักษิณเป็นแค่ "นักการเมืองที่มีผลงานยอมรับได้" ไม่ได้ยึดถือเป็นสัญญลักษร์ของประชาธิปไตยแต่อย่างใดเลย มิหนำซ้ำการแฝงเร้นอยู่หลังฉากของพวกท่านกลับถูกกระชากออกมาประจานจนแทบจะล่อนจ้อน แรงกระเพื่อมจากแรงต้านของประชาชนที่ไม่ยอมถูกมัดมือชกส่งผลย้อนไปหาพวกท่านขนาดไหนคงจะซึ้งใจกันถ้วนทั่วแล้วในวันนี้
มาถึงวันนี้....พรรคการเมืองที่เคยหวังตัวแทนทางการเมืองของกลุ่มท่านกำลังทำลายตัวเองอยู่ทุกวัน หัวหน้าพรรคที่เคยมีภาพลักษณ์เป็นสุภาพบุรุษจากตระกูลเก่าแก่ มีภูมิหลังและการศึกษาที่สูงส่ง วันนี้กำลังทำตัวไม่ต่างจากอันธพาลชั้นต่ำที่ใช้ถ้อยคำหยาบคายกับคู่แข่งทางการเมืองที่เป็นผู้หญิง
คำถามคือ....ต่อให้ไม้ตายสุดท้ายในมือของพวกท่าน เช่นบรรดาองค์กรอิสระทั้งหลายที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นอำนาจที่ 3 คอยสกัดกั้นและเคยสร้างผลงานยุบพรรคมาแล้ว 2 ครั้ง สามารถหาเหตุยุบพรรครัฐบาลชุดนี้ได้อีกครั้งหนึ่ง แล้วท่านคิดว่าผู้นำพรรคฝ่ายค้านคนปัจจุบันที่ท่านใช้เป็น proxy warrior จะยังมีราคาอยู่สักกี่มากน้อย?
ภาพพจน์ของอภิสิทธิ์ในวันนี้ไม่มีราคาเหลือพอที่จะเป็นผู้นำประเทศได้เลย ไม่ว่าจะด้านความสามารถในการบริหารหรือวุฒิภาวะ หากพวกท่านไม่ใช่ไดโนเสาร์หลงยุคที่หลอกตัวเอง ท่านจะเห็นได้ว่าคนที่กำลังแสดงพฤติกรรมอย่างที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้มีแต่จะทำให้เกียรติภูมิของประเทศไทยตกต่ำลงบนเวทีโลก
ลองให้เวลาประเทศไทยสักช่วงหนึ่งจะได้หรือไม่?.....ปล่อยให้คนไทยตัดสินใจกันเองโดยท่านอย่าได้แทรกแซง หรือไม่ท่านก็ให้เวลาหรือไม่ก็ส่งสัญญาณไปยังตัวแทนของท่านได้มีโอกาสปรับตัวเพื่อสร้างผู้นำใหม่คนใหม่ที่มีราคากว่านี้ให้สำเร็จเสียก่อน แล้วค่อยส่งเข้ามาเป็นตัวเลือกใหม่ที่ดีกว่าเดิม ผมเข้าใจดีว่าการเมืองไทยไม่ได้ใสสะอาดอย่างที่ฝันในอุดมคติ ทุกๆขั้วอำนาจทางการเมืองล้วนแล้วแต่เป็นสีเทา ไม่เว้นแม้แต่พรรคไทยรักไทยในวันนี้ ทุกพรรคล้วนแต่มีด้านมืดปนอยู่ในระดับหนึ่ง หากพรรคการเมืองพรรคไหนอ้างว่าตนเองขาวสะอาดหมดจด มีแต่จะถูกมองว่าเป็นพวกดัดจริตเสียมากกว่า ยิ่งพยายามสาดโคลนฝ่ายตรงข้ามเกินขอบเขตยิ่งเปื้อนตัวเองหนักขึ้นทุกที
คนที่ตัดสินใจเลือกพรรครัฐบาลพรรคนี้มีไม่ใช่น้อยที่ไม่ได้ไว้วางใจทักษิณอย่างสนิทใจ แต่พวกเขากลัว "อำนาจที่ตรวจสอบไม่ได้" มากกว่าทักษิณครับ ถ้ามีตัวเลือกใหม่ซึ่งความสามารถใกล้เคียงกับรัฐบาลชุดนี้ ไม่แสดงพฤติกรรมห้อยโหนอำนาจนอกระบบจนน่าเกลียด บางที "ทักษิณ" อาจจะถูกล้มง่ายกว่าที่พวกท่านคิดก็ได้
อย่าซ้ำรอยเดิมด้วยการใช้วิธี "เผาบ้านเพื่อไล่หนู" อีกเลยครับ ความแตกแยกร้าวลึกของประเทศไทยในวันนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่คุ้มค่าเลยสำหรับทุกฝ่าย