มีเรื่องจะเล่านิดนึง ขอเล่าด้วยอารมณ์อันโมโหนิดนึงนะ
เมื่อวันพุธ เรานั่งแท็กซี่คันนึง ไปหาข้าวเย็นทาน ระยะทางก็ไม่ไกลมาก น่าจะซักกิโลกว่าๆ(มั้ง)
ตอนนั้นฝนตก หมดอารมณ์รอรถคันอื่น ก็เลยขึ้น
ก็บอกที่หมาย แล้วก็นั่งรถตามปกติ
พอไปถึงที่หมายเราบอกให้คนขับจอด ก็มองมิเตอร์ เขียนราคาว่า 37 บาท ก็คุ้ยกระเป๋าหาตังจ่ายค่ารถให้พอดี เพราะรู้ว่าให้แบงค์ใหญ่ไปเค้าคงปัดขึ้น (ยอมรับ เรางก บาทเดียวก็จะไม่เสีย ถ้ามันไม่ควรต้องเสีย) อีกอย่าง มีแค่แบงค์ห้าร้อย ทอนยากกว่าอีก สู้หาเหรียญมาจ่ายให้พอดีไม่ได้
คนขับ: 40 บาทๆ
ระหว่างนั้นคนขับก็กลับรถเพื่อจะออกจากปากทางที่เข้ามา(เข้ามาไม่ลึก ประมาณ 5 เมตร จากปากทาง) //สังเกตนะ คนขับไม่กดหยุดมิเตอร์
เรา: มิเตอร์มันแค่ 37 เองลุง
กลับรถเสร็จ เราเงยหน้าขึ้นมามอง บร๊ะ ค่ารถจาก 37 กลายเป็น 39 บาทได้ไง !!!!
คนขับ: เนี่ย 39 บาทแล้ว จ่ายมา 40 บาท
เรา: ลุง มันขึ้นได้ไง แปปเดียวเอง โกงมิเตอร์ป่ะเนี่ย พ่อหนูเป็นตำรวจนะ
คนขับ: ลุงก็เป็นตำรวจเหมือนกัน (หรอว๊ะ บอกตามตรงหนูไม่เชื่อ ถ้าลุงเป็นจริง ลุงต้องเป็นคนทำให้สถาบันตำรวจเสื่อมเสียแน่นอน)
ระหว่างที่เราถกเถียงกัน คนที่มากับเราก็พยายามค้นหาเศษเหรียญอย่าบ้าคลั่ง เพื่อให้เจอเศษเหรียญครบตามจำนวนค่ารถที่เพิ่มขึ้น
เราเงยหน้ามองมิเตอร์อีกที คุณพระ!!!!! 41 บาท แล้ว
Mr.A(นามสมุตติ): มีแค่ 39 บาทได้ไหม //ใจเย็นมากค่ะ ที่รัก สมกะที่เดี๊ยนเลือกมากะมือ
เรา

อารมณ์เสียสุดขีด เปิดประตูรถ) มีเท่าไหร่ให้เขาไปเท่านั้น!!! แบบนี้มันโกงกันแล้วนี่หว่า อะไร นั่งแป๊ปเดียว ค่ารถขึ้นเอาๆ ทางก็นิดเดียว รู้ไหม ทำแบบนี้มันผิดกฏหมาย!!!!!!
ว่าแล้วก็ลากคนมาด้วยลงจากรถ พร้อมปิดประตูดังปัง ควักมือถือมาถ่ายรูป แต่ มือถือกาก ถ่ายอะไรก็ไม่ทัน แถมทั้งมืด ทั้งฝนตก เปียกปอน แท็กซี่รีบเร่งเครื่องจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งเราที่โกรธจัด อารมณ์เสียกู่ไม่กลับอยู่หน้าร้านอาหาร
คือเรารู้ ว่ามันแค่ตังบาทสองบาท แต่มันไม่ถูกต้อง แล้วกับผู้โดยสารคนอื่น เค้าได้เงินเกินไปถึงไหนแล้ว นั่งแช่เฉยๆ ตังค่าโดยสารขึ้นพรวดๆ โกงกันหน้าด้านๆเลยนี่หว่า
ปล. สรุปแล้ววันนั้นจ่ายไป 39 บาท แต่อารมณ์เสียหามูลค่าไม่ได้!!!
อารมณ์ขึ้น!!! ค่าแท็กซี่มันขึ้นพรวดๆได้ เพียงแค่นั่งหาตังจ่ายค่ารถ
เมื่อวันพุธ เรานั่งแท็กซี่คันนึง ไปหาข้าวเย็นทาน ระยะทางก็ไม่ไกลมาก น่าจะซักกิโลกว่าๆ(มั้ง)
ตอนนั้นฝนตก หมดอารมณ์รอรถคันอื่น ก็เลยขึ้น
ก็บอกที่หมาย แล้วก็นั่งรถตามปกติ
พอไปถึงที่หมายเราบอกให้คนขับจอด ก็มองมิเตอร์ เขียนราคาว่า 37 บาท ก็คุ้ยกระเป๋าหาตังจ่ายค่ารถให้พอดี เพราะรู้ว่าให้แบงค์ใหญ่ไปเค้าคงปัดขึ้น (ยอมรับ เรางก บาทเดียวก็จะไม่เสีย ถ้ามันไม่ควรต้องเสีย) อีกอย่าง มีแค่แบงค์ห้าร้อย ทอนยากกว่าอีก สู้หาเหรียญมาจ่ายให้พอดีไม่ได้
คนขับ: 40 บาทๆ
ระหว่างนั้นคนขับก็กลับรถเพื่อจะออกจากปากทางที่เข้ามา(เข้ามาไม่ลึก ประมาณ 5 เมตร จากปากทาง) //สังเกตนะ คนขับไม่กดหยุดมิเตอร์
เรา: มิเตอร์มันแค่ 37 เองลุง
กลับรถเสร็จ เราเงยหน้าขึ้นมามอง บร๊ะ ค่ารถจาก 37 กลายเป็น 39 บาทได้ไง !!!!
คนขับ: เนี่ย 39 บาทแล้ว จ่ายมา 40 บาท
เรา: ลุง มันขึ้นได้ไง แปปเดียวเอง โกงมิเตอร์ป่ะเนี่ย พ่อหนูเป็นตำรวจนะ
คนขับ: ลุงก็เป็นตำรวจเหมือนกัน (หรอว๊ะ บอกตามตรงหนูไม่เชื่อ ถ้าลุงเป็นจริง ลุงต้องเป็นคนทำให้สถาบันตำรวจเสื่อมเสียแน่นอน)
ระหว่างที่เราถกเถียงกัน คนที่มากับเราก็พยายามค้นหาเศษเหรียญอย่าบ้าคลั่ง เพื่อให้เจอเศษเหรียญครบตามจำนวนค่ารถที่เพิ่มขึ้น
เราเงยหน้ามองมิเตอร์อีกที คุณพระ!!!!! 41 บาท แล้ว
Mr.A(นามสมุตติ): มีแค่ 39 บาทได้ไหม //ใจเย็นมากค่ะ ที่รัก สมกะที่เดี๊ยนเลือกมากะมือ
เรา
ว่าแล้วก็ลากคนมาด้วยลงจากรถ พร้อมปิดประตูดังปัง ควักมือถือมาถ่ายรูป แต่ มือถือกาก ถ่ายอะไรก็ไม่ทัน แถมทั้งมืด ทั้งฝนตก เปียกปอน แท็กซี่รีบเร่งเครื่องจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งเราที่โกรธจัด อารมณ์เสียกู่ไม่กลับอยู่หน้าร้านอาหาร
คือเรารู้ ว่ามันแค่ตังบาทสองบาท แต่มันไม่ถูกต้อง แล้วกับผู้โดยสารคนอื่น เค้าได้เงินเกินไปถึงไหนแล้ว นั่งแช่เฉยๆ ตังค่าโดยสารขึ้นพรวดๆ โกงกันหน้าด้านๆเลยนี่หว่า
ปล. สรุปแล้ววันนั้นจ่ายไป 39 บาท แต่อารมณ์เสียหามูลค่าไม่ได้!!!