Amagi pass หรือในชื่อไทยคุ้นๆว่าชื่อ "โอชิน ไม่สิ้นสวาท" สมัยเด็กๆป้าเคยดูเป็นหนังกลางแปลง มันประทับใจ จนป้ายังจำได้แทบจะทุกฉากทุกซีน หนังมันเนื้อหาดีมาก สวยมาก สลับซับซ้อน ซ่อนเงื่อนมาก...ดีกรีของหนังเรื่องนี้ ถูกสร้างมาจากนิยายซึ่ง เจ้าของรางวัลโนเบิล สาขาวรรณกรรม ที่เป็นชาวญี่ปุ่นเป็นผู้ประพันธ์และเขียนบทภาพยนตร์ไว้ และผู้สร้างผู้กำกับก็มอบบทโสเภณีสาว Hana ให้กับนักแสดงหญิงชื่อดังแห่งยุค ยูโกะ ทานากะ รับบทนี้ ซึ่งเป็นที่กล่าวขานและทำให้เธอกวาดรางวัลทางการแสดงมากมายจากเวทีต่างๆ โดยเฉพาะรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย (รางวัลจากเวทีเดียวที่พี่หนุ่ย อำพล เคยได้รับรางวัลมาก่อน)
เรื่องย่อ โดยสังเขป เท่าที่อยู่ในความทรงจำของป้าบุญรอด
"เรื่องราวเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางสู่หมู่บ้าน Amagi ของเด็กหนุ่มวัยม.ปลาย ที่บังเอิญพบกับเพื่อนร่วมเดินทางที่เป็นโสเภณีสาวที่ชื่อ Hana เด็กหนุ่มวัย 17 ปี กับโสเภณีสาววัย 22 ปี ที่ต้องร่วมทุกข์ร่วม ร่วมเดินทางไปๆมาๆยังหมู่บ้าน Amagi อยู่บ่อยๆ ตัวละครทั้งสองตัวต่างแลกเปลี่ยนมุมมอง ความคิด และการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน แต่ต้องมาร่วมเดินทางกัน จนเด็กหนุ่มเกิดแอบหลงรักโสเภณีสาวลึกๆอยู่ในใจ แต่ไม่กล้าเอ่ยออกมา เพราะเรื่องของวัย กรอบธรรมเนียม ประเพณี มาเป้นตัวกางกั้น โดยที่หญิงสาวก็พอจะเอาความในใจของเด็กหนุ่มได้ แต่ก็ไม่อยากให้ตัวเองต้องมาเป้นตราบาปให้เด็กหนุ่มที่ตนก็แอบหลงรักเช่นกัน
การเดินทางของคนทั้งสอง และความผูกพันเริ่มมีมากขึ้น จนมาวันหนึ่ง หญิงสาวบอกให้เด็กหนุ่มเดินล่วงหน้ากลับหมู่บ้านไปก่อน ส่วนเธอก็ขอแวะกลางทางเพื่อไปขายบริการให้กับคนตัดฟื้น เด็กหนุ่มเดินมุ่งหน้ากลับหมู่บ้านแต่ในใจนึกเป็นห่วงหญิงสาวจึงหวนกลับมา ภาพที่เจอในขณะนั้นมันทำให้เลือดในวัยหนุ่มของเขามันพุ่งพล่านบวกกับความโกรธแค้นที่มีต่อคนตัดฟืนในตอนนั้น เด็กหนุ่มซู่มเงียบดูเหตุการณ์ทั้งหมด เขาเห็นคนตัดฟืนทั้งโหมกระหน่ำกระทำชำเราและตบตีทำร้ายร่างกายหญิงสาวประมณออกแนวซาดิส
รุ่งเช้าวันต่อมา ตำรวจและเจ้าพนักงานสอบสวนนำกำลังเข้ามาจับกุมโสเภณีสาว ด้วยข้อหาฆ่าคนตัดฟืนตาย หญิงสาวเอะอะโวยวาย ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่เจ้าหน้าที่ก็นำตัวไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ กาต่อปากต่อคำระหว่างเธอและเจ้าหน้าที่ตำรวจดังสนั่นลั่นโรงพักเธอก็ยังคงยืนกรานปฏิเสธในตอนนั้น จนมาถึงวันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพาเธอมาทำสำนวน ณ ที่เกิดเหตุ หญิงสาวถูกรุมประชาทัณจากชาวบ้าน ทั้งโดนข้วางสิ่งของ โดนด่าทอ แต่เธอก็นิ่งเฉยไม่ได้แสดงความรูสึกอะไรออกมา หากที่ ณ ที่นั้นเด็กหนุ่มเฝ้าดูเธออยู่ที่นั่นตลอด เขารู้สึกละลายใจ เผลอร้องไห้น้ำตานองหน้าออกมา เขาตัดสินใจจะเข้าไปบอกเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับตำรวจ ณ ตอนนั้น ทันใดนั้นหญิงสาวก็ได้สบประสานตากับเด็กหนุ่ม การมองกันด้วยแววตาที่เอื้ออาทรต่อกันของ 2 คน มันจึงทำให้เธอเข้าใจในเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด หญิงสาวส่ายหน้ามายังเด็กหนุ่ม เป็นนัยเชิงบอกว่า ไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องเอ่ย ไม่ต้องเฉลยอะไร สิ่งที่เกิดทั้งหมด เธอจะเป็นคนยอมรับมันเอง แล้วเธอก็ยอมรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเองว่าทุกอย่างที่เกิดเป้นน้ำมือของเธอ
จนเวลาผ่านไป 50 ปี เรื่องราวของหญิงสาวและเด็กหนุ่มที่ไม่มีใครล่วงรู้มาก่อน ได้รับการบอกเล่าสู่ อดีตสารวัตรตำรวจ ผู้อยู๋ในวัยหลังเกษียณ หญิงโสเภณีในวัยก่อนสิ้นลมหายใจได้ฝากนำความคิดถึงมายังเด็กหนุ่มผู้นั้น และอดีตสารวัตรได้มาพบกับเด็กหนุ่มผู้นั้นในวัยกลางคน ที่ปัจจุบันมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดี เรื่องราวของเขาและเธอจึงถูกขุดคุ้ยขึ้นมาบอกเล่าให้อดีตสารวัตรได้รับรู้ ถึงแม้คดีนี้จะจบสิ้นหมดอายุความไปแล้วพร้อมกับการจากไปของโสเภณีสาว แต่สิ่งที่เหลืออยู่ความคิดถึงเขาเด็กหนุ่มที่มีต่อเธอ ยิ่งเขารู้ว่าการตัดสินใจของหญิงสาวที่สารภาพไปในครั้งนั้น เธอยอมทำเพื่อคนที่เธอรัก เพื่อให้คนที่เธอรักมีชีวิตและมีโอกาสที่ดี ใน ขณะที่ชีวิตของเธอเปรียบเสมือนคนไร้ค่า ไร้โอกาส ไร้ศํกดิ์ศรีที่จะอยู่ต่อ เธอจึงขอทำเพื่อคนที่เธอรัก"
แหม! พอนึกถึงหนังเรื่องนี้แล้ว มันอาจจะดูแรง แต่มันก้มีความสวยงามด้วยปรัชญา และความรัก ท่ามกลางการเดินทางผ่านธรรมชาติและกาลเวลาของคนทั้งสอง...นี่ถ้าช่อง 7 จะได้ไอเดีย นำเอาไปสร้างเป็นบทโทรทัศน์คงจะแจ่มไม่น้อย...และบทโสเภณีสาว ผู้ยึดมั่นในความรัก ป้าก็อยากจะให้น้องโบ ธัญญสุภางค์ ได้สวมบทบาทนี้ เพื่อเป้นการฝึกฝนเพิ่มพูนทักษะให้หลายๆคนที่ปรามาสน้อง ได้อึ้ง ณ จังงัง ไปเลย...บทร่าเริง เบิกบาน แร่ดๆแต่แอบเศร้า น่าสงสาร น่าจะเป็นงานชิ้นโบแดงให้เธอ...นะคะ
อยากให้ช่อง 7 นำเอาพล๊อตหนังญี่ปุ่นเรื่อง Amagi pass...มาทำเป็นละครและส่งบทให้น้องโบ แจ้งเกิดไปเลย
เรื่องย่อ โดยสังเขป เท่าที่อยู่ในความทรงจำของป้าบุญรอด
"เรื่องราวเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางสู่หมู่บ้าน Amagi ของเด็กหนุ่มวัยม.ปลาย ที่บังเอิญพบกับเพื่อนร่วมเดินทางที่เป็นโสเภณีสาวที่ชื่อ Hana เด็กหนุ่มวัย 17 ปี กับโสเภณีสาววัย 22 ปี ที่ต้องร่วมทุกข์ร่วม ร่วมเดินทางไปๆมาๆยังหมู่บ้าน Amagi อยู่บ่อยๆ ตัวละครทั้งสองตัวต่างแลกเปลี่ยนมุมมอง ความคิด และการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน แต่ต้องมาร่วมเดินทางกัน จนเด็กหนุ่มเกิดแอบหลงรักโสเภณีสาวลึกๆอยู่ในใจ แต่ไม่กล้าเอ่ยออกมา เพราะเรื่องของวัย กรอบธรรมเนียม ประเพณี มาเป้นตัวกางกั้น โดยที่หญิงสาวก็พอจะเอาความในใจของเด็กหนุ่มได้ แต่ก็ไม่อยากให้ตัวเองต้องมาเป้นตราบาปให้เด็กหนุ่มที่ตนก็แอบหลงรักเช่นกัน
การเดินทางของคนทั้งสอง และความผูกพันเริ่มมีมากขึ้น จนมาวันหนึ่ง หญิงสาวบอกให้เด็กหนุ่มเดินล่วงหน้ากลับหมู่บ้านไปก่อน ส่วนเธอก็ขอแวะกลางทางเพื่อไปขายบริการให้กับคนตัดฟื้น เด็กหนุ่มเดินมุ่งหน้ากลับหมู่บ้านแต่ในใจนึกเป็นห่วงหญิงสาวจึงหวนกลับมา ภาพที่เจอในขณะนั้นมันทำให้เลือดในวัยหนุ่มของเขามันพุ่งพล่านบวกกับความโกรธแค้นที่มีต่อคนตัดฟืนในตอนนั้น เด็กหนุ่มซู่มเงียบดูเหตุการณ์ทั้งหมด เขาเห็นคนตัดฟืนทั้งโหมกระหน่ำกระทำชำเราและตบตีทำร้ายร่างกายหญิงสาวประมณออกแนวซาดิส
รุ่งเช้าวันต่อมา ตำรวจและเจ้าพนักงานสอบสวนนำกำลังเข้ามาจับกุมโสเภณีสาว ด้วยข้อหาฆ่าคนตัดฟืนตาย หญิงสาวเอะอะโวยวาย ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่เจ้าหน้าที่ก็นำตัวไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ กาต่อปากต่อคำระหว่างเธอและเจ้าหน้าที่ตำรวจดังสนั่นลั่นโรงพักเธอก็ยังคงยืนกรานปฏิเสธในตอนนั้น จนมาถึงวันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพาเธอมาทำสำนวน ณ ที่เกิดเหตุ หญิงสาวถูกรุมประชาทัณจากชาวบ้าน ทั้งโดนข้วางสิ่งของ โดนด่าทอ แต่เธอก็นิ่งเฉยไม่ได้แสดงความรูสึกอะไรออกมา หากที่ ณ ที่นั้นเด็กหนุ่มเฝ้าดูเธออยู่ที่นั่นตลอด เขารู้สึกละลายใจ เผลอร้องไห้น้ำตานองหน้าออกมา เขาตัดสินใจจะเข้าไปบอกเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับตำรวจ ณ ตอนนั้น ทันใดนั้นหญิงสาวก็ได้สบประสานตากับเด็กหนุ่ม การมองกันด้วยแววตาที่เอื้ออาทรต่อกันของ 2 คน มันจึงทำให้เธอเข้าใจในเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด หญิงสาวส่ายหน้ามายังเด็กหนุ่ม เป็นนัยเชิงบอกว่า ไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องเอ่ย ไม่ต้องเฉลยอะไร สิ่งที่เกิดทั้งหมด เธอจะเป็นคนยอมรับมันเอง แล้วเธอก็ยอมรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเองว่าทุกอย่างที่เกิดเป้นน้ำมือของเธอ
จนเวลาผ่านไป 50 ปี เรื่องราวของหญิงสาวและเด็กหนุ่มที่ไม่มีใครล่วงรู้มาก่อน ได้รับการบอกเล่าสู่ อดีตสารวัตรตำรวจ ผู้อยู๋ในวัยหลังเกษียณ หญิงโสเภณีในวัยก่อนสิ้นลมหายใจได้ฝากนำความคิดถึงมายังเด็กหนุ่มผู้นั้น และอดีตสารวัตรได้มาพบกับเด็กหนุ่มผู้นั้นในวัยกลางคน ที่ปัจจุบันมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดี เรื่องราวของเขาและเธอจึงถูกขุดคุ้ยขึ้นมาบอกเล่าให้อดีตสารวัตรได้รับรู้ ถึงแม้คดีนี้จะจบสิ้นหมดอายุความไปแล้วพร้อมกับการจากไปของโสเภณีสาว แต่สิ่งที่เหลืออยู่ความคิดถึงเขาเด็กหนุ่มที่มีต่อเธอ ยิ่งเขารู้ว่าการตัดสินใจของหญิงสาวที่สารภาพไปในครั้งนั้น เธอยอมทำเพื่อคนที่เธอรัก เพื่อให้คนที่เธอรักมีชีวิตและมีโอกาสที่ดี ใน ขณะที่ชีวิตของเธอเปรียบเสมือนคนไร้ค่า ไร้โอกาส ไร้ศํกดิ์ศรีที่จะอยู่ต่อ เธอจึงขอทำเพื่อคนที่เธอรัก"
แหม! พอนึกถึงหนังเรื่องนี้แล้ว มันอาจจะดูแรง แต่มันก้มีความสวยงามด้วยปรัชญา และความรัก ท่ามกลางการเดินทางผ่านธรรมชาติและกาลเวลาของคนทั้งสอง...นี่ถ้าช่อง 7 จะได้ไอเดีย นำเอาไปสร้างเป็นบทโทรทัศน์คงจะแจ่มไม่น้อย...และบทโสเภณีสาว ผู้ยึดมั่นในความรัก ป้าก็อยากจะให้น้องโบ ธัญญสุภางค์ ได้สวมบทบาทนี้ เพื่อเป้นการฝึกฝนเพิ่มพูนทักษะให้หลายๆคนที่ปรามาสน้อง ได้อึ้ง ณ จังงัง ไปเลย...บทร่าเริง เบิกบาน แร่ดๆแต่แอบเศร้า น่าสงสาร น่าจะเป็นงานชิ้นโบแดงให้เธอ...นะคะ