ท่านทีเคารพครับ ศิลปศาสตร์ทั้งสี่ของจีนในสมัยโบราณที่ผู้มีภูมิปัญญาพึงศึกษาคือ
ฉิน ฉี ซู ฮว่า
๑. ฉิน คือพิณโบราณเจ็ดสาย
๒. ฉี คือหมากล้อม หรือ โก๊ะ ญี่ปุ่นจะเรียกว่า "อิโกะ" ส่วนจีนจะเรียก " เหวยฉี "
๓. ซู คือศิลปะการเขียนอักษรจีน ซูฝ่า ปัจจุบันแบบที่นิยมเขียนกันมีห้าแบบคือ จ้วน ลี่ ไข่ สิง เฉ่า
๔. ฮว่า คือศิลปะการวาดภาพจีน ภาพวาดจีนนั้นนิยมวาดเป็นทิวทัศน์และธรรมชาติต่างๆ และมีวิธีการวาดต้นไม้หรือภูเขาเป็นหลายร้อยแบบ ต้นไม้ที่นิยมวาดเดี่ยวๆ ก็คงไม่พ้นสี่อย่างนี้คือ ไผ่ บ๊วย เก็ก และ ลั้ง ( เก็กคือเบญจมาศและลั้งคือกล้วยไม้ )
สำหรับคนใน " ยุทธจักร " แล้ว นอกจาก ฉิน ฉี ซู ฮว่า ถึงกับยังเพิ่ม อีกสามอย่าง ที่จำเป็นต้องศึกษาเรียนรู้
เป็นการเรียนรู้ เพื่อเติมเต็มชีวิต ไม่ให้เปล่าดาย บางคนถึงกับว่า ตายไปก็ไม่เสียชาติเกิด นั่นคือ
สุรา พนัน และการเมือง
สุภาพสตรีบางท่าน อาจจะเคยเห็นที่อยู่ๆ สามีผู้สมถะเงียบขรึม ที่สัตย์ซื่อ ถือมั่น
อยู่ๆค้นห่อผ้าที่ซุกซ่อนใต้เตียง ดึงอาวุธ คู่กาย ไอ้เพื่อนยากเก่าเก็บออกมา กระดูกทั่วร่างคล้ายลั่นเกรียวกราว
เอวยืดตรงประดุจทวน ดวงตาเปล่งประกายเจิดจ้า หลังจากงำประกายมิดชิดมานาน
การเปลี่ยนแปลงของสามีนี้ เพียงเพราะมีศัตรูมารุกราน หรือเพียงเพราะได้ยินข่าวว่า
มิตรสหายบางคน กำลังมีภัยอันตรายมาเยือน จำเป็นต้องการคนช่วยเหลือ
สุภาพสตรีบางท่าน อาจจะเคยเห็นที่อยู่ๆ เดินไปไหน มาไหนกับสามี ผู้คนที่พบเจอสามี
ต่างยกมือไหว้ ด้วยความยำเกรง ด้วยความเคารพ นับถือ
นี่คือ " อำนาจ " ของบุรุษ
ไม่ต้องดูไกลถึง เซียวกัวกิมฮ้ง ตงฟานปุป้าย เพียงดูเสี่ยจิว เสี่ยฮวด แคล้ว เต็งโก้ โหงว เสี่ยบุญเลี้ยง
เหลิม เป๊าะ วัฒนา เสธ.แอ้ว เสธ.ไอซ์ เสธ. หิ ( พนักงานตรวจปรู๊ฟ กรุณาละเอียด สระอิ นะครับ ห้ามพลาดนะครับ )
เสธ.บิลลี่ ชูวิทย์ ผู้พันแดง ฯลฯ หรือแม้แต่ เนวิน สนธิ
ก็จะทราบว่า " อำนาจ " คืออาภรณ์ของบุรุษที่จำป็นต้องมี บางคนทำทุกวิถึทาง เพียงเพื่อให้ได้อำนาจมา
ข้อนี้ ถามเนวินได้
ถามกันมาว่า สุรา พนัน และการเมือง เป็นศิลปะหรือไม่ ?
ตอบได้ทันทีเลยครับว่า เป็น
ในสามก๊ก มีตอน โจโฉไปชวนเล่าปี่ ดื่มสุรา ถกกันถึงคุณสมบัติ วีรบุรุษ ซึ่งความจริงโจโฉอาศัยความข้อนี้ เพื่อที่จะหยั่งเชิงเล่าปี่
หากเล่าปี่ยึกยัก ก็จะกำจัดเล่าปี่ทิ้งเสีย ไม่ให้เป็นเสี้ยหนามในวันข้างหน้า
เล่าปี่กินสุราก็จริง แต่ไม่ให้สุรากิน
วันนั้นเล่าปี่เอาตัวรอดมาได้ ก็ด้วยการแสร้งเป็นคน อ่อนแอ แสร้งเป็นคนไม่คิดการใหญ่ เพื่อลวงโจโฉให้ตายใจ
นี่คือตัวอย่างบุรุษที่เอาตัวรอดได้ท่ามกลางระหว่างสุราและการเมือง
ในยุคสมัยนั้น สุราบรรจุอยู่ในป้านซึ่งทำจากดีบุก ป้านหนึ่งบรรจุสุราได้สิบหกตำลึง สุราสี่กั๊กเท่ากับสี่ชั่ง
ยุคสมัยนั้น ยังไม่มี กั๊ก แบน กลม ( ฮา )
ชาวยุทธจักรส่วนมากดื่มสุรา " เป็น "
การดื่มสุรา ปรกติใช้ชามดื่ม ชามหนึ่งบรรจุสุราสี่ตำลึง ปรกติมักดื่มได้ หกเจ็ดชาม
..ผู้ที่มีความสามารถในเชิงสุรา ย่อมบังเกิดความกระตือรือล้นสนใจต่อผู้ที่มีความสามารถในเชิงสุราเช่นกัน...
การพนัน และ สุรา ใช่ว่าต้องใช้ความสามารถหรือไม่ ?
ตอบได้ทันทีครับว่า การพนัน และสุรา ต้องใช้ความสามารถ
การพนัน ก็พนันอย่างชาญฉลาด ไม่ใช่พนันอย่างผีพนันคลุ้มคลั่ง
การดื่มสุรา ก็ดื่มอย่างมีรสนิยม ดื่มอย่างมีเชิง รู้จักการทานอาหารรองท้องพอสมควร ก่อนที่จะดื่ม
การดื่มควรดื่มแบบจิบ ค่อยๆละเลียดกลิ่นและรสชาดสุรา ไม่ใช่กรอกอั๊กๆ ราววัวดื่มน้ำจากราง
การดื่มราวปีศาจสุรา ไม่เพียงแต่ทำร้ายตัวเอง ยังทำร้ายคนข้างเคียงอีกด้วย ที่สำคัญยังทำร้าย คนที่ักเราอีกด้วย
พนัน และ สุรา การเมือง คล้ายเข้าถึงสภาวะวิสัยของจิตใจมนุษย์ด้านที่ " ลึก " ที่สุดถึงก้นบึ้ง
และแสดงออกถึงกมลสันดานของมนุษย์ที่แท้จริงที่สุด
ยกตัวอย่างง่ายๆ พนันจะบอกได้ว่าคุณเป็นคนที่มี " จิตใจ " อย่างไร หยุมหยิม เห็นแก่ตัว ขี้โกง ใจแคบหรือใจกว้าง
ยกตัวอย่างง่ายๆ การดื่มสุราจะทำให้คุณ พล่าม ความจริงออกมา หรือเป็นคนละคนกับยามที่ไม่ได้ดื่ม
นี่ใยมิใช่การปลดหน้ากากจอมปลอมของมนุษย์ออกมา
แต่การเมืองสุดยอดกว่านั้น การเมือง สุดยอดกว่านั้น
มันทำให้มนุษย์เปิดเผยตัวตนจริงๆอย่างล่อนจ้อน อย่างปอกเปลือก บอกให้รู้ว่ามนุษย์ผู้นั้น โสมม โสโครก เพียงใด
ตอหลด
เพียงใด
ด้านมืดในใจ มืดมนอนธการ เพียงใด
มันเหมือนภาพรอชาร์คทบสอบสภาพจิตใจให้รู้ ว่ามีอะไรในมโนสำนึก มีอะไรที่ปกปิดไว้ด้วยมายาคติ
ย้ำอีกครั้งว่าการเมืองจะแสดงให้มนุษย์เปิดเผยตัวตนจริงๆอย่างล่อนจ้อน อย่างปอกเปลือก บอกให้รู้ว่ามนุษย์ผู้นั้น โสมม โสโครก เพียงใด
ตอหลด
เพียงใด
การเมืองปอกเปลือกให้เห็นถึง กมลสันดาน และความชั่วร้าย ใฝ่ต่ำ
ออกมาจนหมดว่ามีมากเพียงใด
ไม่เลือกว่าจะเป็นผู้รากมากดีมาจากไหน
และไม่เลือกว่าจะจบมาจากเมืองนอก เมืองนา
หรือจบมาจากอังกฤษ แต่อย่างใดครับอภิสิทธิ์ ( ฮา )
ยิ่งลักษณ์ ยิ้มเย้ยยุทธจักร พนัน สุรา และ การเมือง
ฉิน ฉี ซู ฮว่า
๑. ฉิน คือพิณโบราณเจ็ดสาย
๒. ฉี คือหมากล้อม หรือ โก๊ะ ญี่ปุ่นจะเรียกว่า "อิโกะ" ส่วนจีนจะเรียก " เหวยฉี "
๓. ซู คือศิลปะการเขียนอักษรจีน ซูฝ่า ปัจจุบันแบบที่นิยมเขียนกันมีห้าแบบคือ จ้วน ลี่ ไข่ สิง เฉ่า
๔. ฮว่า คือศิลปะการวาดภาพจีน ภาพวาดจีนนั้นนิยมวาดเป็นทิวทัศน์และธรรมชาติต่างๆ และมีวิธีการวาดต้นไม้หรือภูเขาเป็นหลายร้อยแบบ ต้นไม้ที่นิยมวาดเดี่ยวๆ ก็คงไม่พ้นสี่อย่างนี้คือ ไผ่ บ๊วย เก็ก และ ลั้ง ( เก็กคือเบญจมาศและลั้งคือกล้วยไม้ )
สำหรับคนใน " ยุทธจักร " แล้ว นอกจาก ฉิน ฉี ซู ฮว่า ถึงกับยังเพิ่ม อีกสามอย่าง ที่จำเป็นต้องศึกษาเรียนรู้
เป็นการเรียนรู้ เพื่อเติมเต็มชีวิต ไม่ให้เปล่าดาย บางคนถึงกับว่า ตายไปก็ไม่เสียชาติเกิด นั่นคือ
สุรา พนัน และการเมือง
สุภาพสตรีบางท่าน อาจจะเคยเห็นที่อยู่ๆ สามีผู้สมถะเงียบขรึม ที่สัตย์ซื่อ ถือมั่น
อยู่ๆค้นห่อผ้าที่ซุกซ่อนใต้เตียง ดึงอาวุธ คู่กาย ไอ้เพื่อนยากเก่าเก็บออกมา กระดูกทั่วร่างคล้ายลั่นเกรียวกราว
เอวยืดตรงประดุจทวน ดวงตาเปล่งประกายเจิดจ้า หลังจากงำประกายมิดชิดมานาน
การเปลี่ยนแปลงของสามีนี้ เพียงเพราะมีศัตรูมารุกราน หรือเพียงเพราะได้ยินข่าวว่า
มิตรสหายบางคน กำลังมีภัยอันตรายมาเยือน จำเป็นต้องการคนช่วยเหลือ
สุภาพสตรีบางท่าน อาจจะเคยเห็นที่อยู่ๆ เดินไปไหน มาไหนกับสามี ผู้คนที่พบเจอสามี
ต่างยกมือไหว้ ด้วยความยำเกรง ด้วยความเคารพ นับถือ
นี่คือ " อำนาจ " ของบุรุษ
ไม่ต้องดูไกลถึง เซียวกัวกิมฮ้ง ตงฟานปุป้าย เพียงดูเสี่ยจิว เสี่ยฮวด แคล้ว เต็งโก้ โหงว เสี่ยบุญเลี้ยง
เหลิม เป๊าะ วัฒนา เสธ.แอ้ว เสธ.ไอซ์ เสธ. หิ ( พนักงานตรวจปรู๊ฟ กรุณาละเอียด สระอิ นะครับ ห้ามพลาดนะครับ )
เสธ.บิลลี่ ชูวิทย์ ผู้พันแดง ฯลฯ หรือแม้แต่ เนวิน สนธิ
ก็จะทราบว่า " อำนาจ " คืออาภรณ์ของบุรุษที่จำป็นต้องมี บางคนทำทุกวิถึทาง เพียงเพื่อให้ได้อำนาจมา
ข้อนี้ ถามเนวินได้
ถามกันมาว่า สุรา พนัน และการเมือง เป็นศิลปะหรือไม่ ?
ตอบได้ทันทีเลยครับว่า เป็น
ในสามก๊ก มีตอน โจโฉไปชวนเล่าปี่ ดื่มสุรา ถกกันถึงคุณสมบัติ วีรบุรุษ ซึ่งความจริงโจโฉอาศัยความข้อนี้ เพื่อที่จะหยั่งเชิงเล่าปี่
หากเล่าปี่ยึกยัก ก็จะกำจัดเล่าปี่ทิ้งเสีย ไม่ให้เป็นเสี้ยหนามในวันข้างหน้า
เล่าปี่กินสุราก็จริง แต่ไม่ให้สุรากิน
วันนั้นเล่าปี่เอาตัวรอดมาได้ ก็ด้วยการแสร้งเป็นคน อ่อนแอ แสร้งเป็นคนไม่คิดการใหญ่ เพื่อลวงโจโฉให้ตายใจ
นี่คือตัวอย่างบุรุษที่เอาตัวรอดได้ท่ามกลางระหว่างสุราและการเมือง
ในยุคสมัยนั้น สุราบรรจุอยู่ในป้านซึ่งทำจากดีบุก ป้านหนึ่งบรรจุสุราได้สิบหกตำลึง สุราสี่กั๊กเท่ากับสี่ชั่ง
ยุคสมัยนั้น ยังไม่มี กั๊ก แบน กลม ( ฮา )
ชาวยุทธจักรส่วนมากดื่มสุรา " เป็น "
การดื่มสุรา ปรกติใช้ชามดื่ม ชามหนึ่งบรรจุสุราสี่ตำลึง ปรกติมักดื่มได้ หกเจ็ดชาม
..ผู้ที่มีความสามารถในเชิงสุรา ย่อมบังเกิดความกระตือรือล้นสนใจต่อผู้ที่มีความสามารถในเชิงสุราเช่นกัน...
การพนัน และ สุรา ใช่ว่าต้องใช้ความสามารถหรือไม่ ?
ตอบได้ทันทีครับว่า การพนัน และสุรา ต้องใช้ความสามารถ
การพนัน ก็พนันอย่างชาญฉลาด ไม่ใช่พนันอย่างผีพนันคลุ้มคลั่ง
การดื่มสุรา ก็ดื่มอย่างมีรสนิยม ดื่มอย่างมีเชิง รู้จักการทานอาหารรองท้องพอสมควร ก่อนที่จะดื่ม
การดื่มควรดื่มแบบจิบ ค่อยๆละเลียดกลิ่นและรสชาดสุรา ไม่ใช่กรอกอั๊กๆ ราววัวดื่มน้ำจากราง
การดื่มราวปีศาจสุรา ไม่เพียงแต่ทำร้ายตัวเอง ยังทำร้ายคนข้างเคียงอีกด้วย ที่สำคัญยังทำร้าย คนที่ักเราอีกด้วย
พนัน และ สุรา การเมือง คล้ายเข้าถึงสภาวะวิสัยของจิตใจมนุษย์ด้านที่ " ลึก " ที่สุดถึงก้นบึ้ง
และแสดงออกถึงกมลสันดานของมนุษย์ที่แท้จริงที่สุด
ยกตัวอย่างง่ายๆ พนันจะบอกได้ว่าคุณเป็นคนที่มี " จิตใจ " อย่างไร หยุมหยิม เห็นแก่ตัว ขี้โกง ใจแคบหรือใจกว้าง
ยกตัวอย่างง่ายๆ การดื่มสุราจะทำให้คุณ พล่าม ความจริงออกมา หรือเป็นคนละคนกับยามที่ไม่ได้ดื่ม
นี่ใยมิใช่การปลดหน้ากากจอมปลอมของมนุษย์ออกมา
แต่การเมืองสุดยอดกว่านั้น การเมือง สุดยอดกว่านั้น
มันทำให้มนุษย์เปิดเผยตัวตนจริงๆอย่างล่อนจ้อน อย่างปอกเปลือก บอกให้รู้ว่ามนุษย์ผู้นั้น โสมม โสโครก เพียงใด
ตอหลด
ด้านมืดในใจ มืดมนอนธการ เพียงใด
มันเหมือนภาพรอชาร์คทบสอบสภาพจิตใจให้รู้ ว่ามีอะไรในมโนสำนึก มีอะไรที่ปกปิดไว้ด้วยมายาคติ
ย้ำอีกครั้งว่าการเมืองจะแสดงให้มนุษย์เปิดเผยตัวตนจริงๆอย่างล่อนจ้อน อย่างปอกเปลือก บอกให้รู้ว่ามนุษย์ผู้นั้น โสมม โสโครก เพียงใด
ตอหลด
การเมืองปอกเปลือกให้เห็นถึง กมลสันดาน และความชั่วร้าย ใฝ่ต่ำ
ไม่เลือกว่าจะเป็นผู้รากมากดีมาจากไหน
และไม่เลือกว่าจะจบมาจากเมืองนอก เมืองนา
หรือจบมาจากอังกฤษ แต่อย่างใดครับอภิสิทธิ์ ( ฮา )