พระพุทธองค์ปกติไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่ทำไมกรณีเป็งวงศ์ของตนเองถึงเข้าไปเกี่ยวข้อง ?

กล่าวตาม...จริยา

พุทธจริยา 3 (พระจริยา หรือการทรงบำเพ็ญประโยชน์ ของพระพุทธเจ้า)
1.โลกัตถจริยา คือ พระพุทธจริยาเพี่อประโยชน์แก่โลก
2.ญาตัตถจริยา คือ พระพุทธจริยาเพื่อประโยชน์แก่พระญาติตามฐานะ
3.พุทธัตถจริยา คือ พระพุทธจริยาที่ทรงบำเพ็ญประโยชน์ตามหน้าที่ของพระพุทธเจ้า

พระองค์ทรงตั้งในญาตัตถจริยา


ญาตัตถจริยา หมายถึงการที่พระพุทธเจ้าทรงปฏิบัติหน้าที่สงเคราะห์ญาติในฐานะที่เป็นญาติ กล่าวคือทรงสงเคราะห์พระบิดา พระมารดา ตลอดถึงพระประยูรญาติ พระบรมวงศานุวงศ์ให้ได้เข้าถึงพระรัตนตรัย เข้าถึงธรรม จึงถึงให้ได้บวชในพระศาสนาและบรรลุมรรคผลนิพพาน เป็นต้นว่าเสด็จไปโปรดพระบิดาและพระประยูรญาติที่กรุงกบิลพัสดุ์หลังจากตรัสรู้ได้ไม่นาน เสด็จไปโปรดพระมารดาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เสด็จไปห้ามพระญาติสองฝ่ายมิได้รบพุ่งกันเพราะเหตุแย่งน้ำทำนา ประทานอุปสมบทให้แก่พระนันนทะ พระนางรูปนันทา ซึ่งเป็นพระอนุชา และพระภคินีต่างพระมารดา ทรงแนะนำสั่งสอนจนได้เป็นพระอรหันต์ทั้งสององค์
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%96%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2


กอรปกับทรงมี พรหมณ์วิหารธรรม 4
1. พระเมตตา ในวงศ์ประยูรญาติ
2. พระกรุณา ไม่ต้องการให้มีการปาณาติบาตของพระญาติ
3. พระมุทิตา ทรงจะอนุกูลพระญาติให้เห็นธรรม หรือเมื่อจะล่มสลายของพระอาณาจักรพระองค์ก็ไม่ทรงสุขทุกข์
4. พระอุเบกขาธรรม เมื่อทรงญาณแล้วเห็นว่าเป็นกรรมเก่าของพระญาติพระองค์ก็ทรงวางอุเบกขาธรรมเสีย

การเสด็จไปมีนัยยะ 2 ประการ
การเมืองไหม? หรือ การธรรม?

ถ้าพิจารณาว่าเป็นเรื่องการเมือง พระองค์ได้ประโยชน์อะไรๆจากการกระทำแก่พระองค์เอง เพราะการเมืองเป็นเรื่องของอำนาจและผลประโยชน์ พิจารณาเป็นอื่นไม่ได้นอกจากการธรรมะ

มิใช่แต่กรณีของศากยะวงค์ แม้นท้ายกาลปรินิพพานที่พระองค์ทรงประทับอยู่เมืองเวสาลี ก็ทรงมีนัยยะแก่การเมืองเพื่อการธรรม ที่พระองค์ทรงประทับอยู่ที่เวสาลีเพื่อปกป้อง กองทัพพระเจ้าอชาติศัตรู เวสาลีเป็นเมืองเล็กๆที่พระเจ้าอชาติ ต้องการผนวก แต่เกรงในพระราชหฤทัยในพระบรมศาสดา....

พระองค์ทรงกระทำเพื่ออะไร พระองค์ได้อะไร............จากผลของการกระทำแม้นก่อนจะปรินิพพาน