เกร็ดสามก๊ก ๑๘ ก.ย.๕๖

กระทู้สนทนา
เกร็ดสามก๊ก

ขุนพลเมืองใต้

ตอนที่ ๔ แผนลวงทหารเสือ

เล่าเซี่ยงชุน

หลังจากที่ซุนกวนหย่าศึกกับโจโฉแล้ว ซุนกวนก็ส่งบรรณาการไปยังเมืองฮูโต๋เป็นปกติ ต่อมาโจโฉก็มีหนังสือบอกมาว่า กวนอูเจ้าเมืองเกงจิ๋วยกทัพไปตีเมืองอ้วนเซียของโจโฉ ให้ซุนกวนยกทัพไปตีเมืองเกงจิ๋ว เพื่อให้กวนอูเป็นห่วงทั้งหน้าและหลัง

เมืองเกงจิ๋วนี้เมื่อเสร็จศึกใหญ่ครั้งก่อน ที่โจโฉแตกพ่ายยับเยินไปนั้นสมควรจะเป็นของซุนกวนซึ่งเป็นฝ่ายชนะ แต่ฝ่ายเล่าปี่ได้ยึดไว้ได้โดยอ้างว่าเป็นเมืองของเล่าเปียวซึ่งเป็นญาติ ซึ่งได้เคยยกให้เล่าปี่ปกครองมาแล้ว ซุนกวนให้คนไปทวงหลายครั้งเล่าปี่ก็บ่ายเบี่ยงว่าจะคืนให้แต่ขอให้ได้เมืองเสฉวนก่อน จนครั้งสุดท้าย ซุนกวนได้ส่งเถ้าแก่ไปขอลูกสาวของกวนอูให้แต่งงานกับลูกชาย ก็ถูกปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย แล้วยังดูถูกดูหมิ่นมาถึงซุนกวนอีกด้วย

พอดีโจโฉมีหนังสือมาชวนซุนกวน ให้ยกทัพไปตีเมืองเกงจิ๋วที่กวนอูรักษาอยู่ โดยโจโฉจะยกไปทางบก ซุนกวนก็ตกลงจะยกทัพเรือไปตีทางน้ำ จึงเรียกที่ปรึกษามาหารือว่า ที่โจโฉจะให้เราไปตีเมืองเกงจิ๋วนั้น จะทำประการใด

เตียวเจียวจึงว่า

“ ข้าพเจ้ารู้ว่าโจโฉใช้อิกิ๋มแลบังเต๊กยกทหารมาช่วยเมืองอ้วนเซีย ก็พ่ายแพ้แก่กวนอู บัดนี้ข้าพเจ้าเห็นว่า โจโฉคิดย่อท้อกวนอูอยู่ แลซึ่งจะให้เราตีเอาเมืองเกงจิ๋วให้ได้ ว่าจะยกตำบลกังหลำให้แก่เรานั้น ข้าพเจ้าเห็นหาจริงไม่ “

พอดีลิบองซึ่งไปตั้งรักษาอยู่ที่ด่านลกเค้า รีบมาเรือเร็วขอเข้าพบ ซุนกวน แล้วแจ้งว่า

“ กวนอูละเมืองเกงจิ๋วไว้ ยกกองทัพไปตั้งล้อมเมืองอ้วนเซียอยู่ทางไกล ควรเราจะเร่งยกทหารไปตีเอาเมืองเกงจิ๋ว เห็นจะได้โดยง่าย “

ซุนกวนก็ว่าตนใคร่จะยกกองทัพไปตีเมืองชีจิ๋ว ซึ่งบัดนี้ขึ้นอยู่กับโจโฉ ลิบองก็แย้งว่า

“ ซึ่งท่านจะไปตีเอาเมืองชีจิ๋วทิศเหนืออันเป็นเมืองขึ้นของโจโฉนั้น ผู้คนก็น้อยเห็นจะพอได้อยู่ แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ซึ่งจะยกกองทัพไปนั้นเป็นทางกันดาร เดินบกก็จะลำบากแก่ทหารทั้งปวง ถึงได้แล้วก็จะตั้งอยู่ไม่ได้ ถ้ายกไปตีเมืองเกงจิ๋วเห็นจะดีกว่า ถ้าได้แล้วเราจึงค่อยคิดการต่อไป “

ซุนกวนก็เห็นชอบด้วย จึงให้ลิบองไปคิดแผนการที่จะตีเมืองเกงจิ๋ว แล้วตนจะยกกองทัพใหญ่ไป ลิบองก็กลับไปด่านลกเค้า และให้ม้าใช้ไปสืบข่าวทางเมืองเกงจิ๋ว ก็ได้ความว่าเมืองเกงจิ๋วได้ทำร้านไฟเรียงรายตามริมแม่น้ำ ห่างกันสองร้อยสามร้อยเส้น มีคนประจำรักษาอยู่ตลอดเวลา และในเมืองก็เตรียมทหารไว้อย่างกวดขันไม่หละหลวม ลิบองเห็นว่ายังไม่มีทางที่จะตีเมืองเกงจิ๋วได้ จึงบอกไปทางเมืองกังตั๋งว่าตนเองป่วย

ซุนกวนจึงให้ลกซุนมาเยี่ยมดูอาการของลิบอง ลกซุนรู้ว่าลิบองไม่ได้ป่วยจริง แต่เป็นเพราะจนปัญญาที่จะคิดการศึก จึงแนะนำว่า

“ ข้าพเจ้ามียาขนานหนึ่งจะรักษาไข้ของท่านให้หายได้ ท่านจะให้รักษาหรือประการใด “

ลิบองรู้ว่าลกซุนรู้ทันตน จึงขับทหารออกไปเสียแล้วจึงถามว่าท่านจะรักษาด้วยยาชนิดใด ลกซุนตอบว่าลิบองป่วยครั้งนี้เพราะเห็นว่าเมืองเกงจิ๋วป้องกันแข็งแรงไม่มีอุบายที่จะตีได้จึงวิตกนัก แต่ตนมีอุบายที่จะแก้ไขเรื่องนั้นได้ไม่ยากเลย

ลิบองก็ถามว่าอุบายนั้นเป็นประการใด ลกซุนก็บอกว่า ซึ่งเมืองเกงจิ๋วตระเตรียมทหารแลจัดแจงเมืองไว้ทั้งนี้ เพราะกวนอูคิดวิตกอยู่ด้วยท่านตั้งอยู่ที่นี่จึงไม่ไว้ใจ ถ้าท่านรู้อุบายทำเป็นป่วยไปเสียจากที่นี่ แลจัดแจงให้ผู้อื่นมาอยู่แทนแล้ว กวนอูก็จะทะนงใจเลิกระแวงหลัง คงต้องหน้ารบเอาเมืองอ้วนเซียให้ได้ แล้วเราจึงค่อยไปตีเอาเมืองเกงจิ๋วให้ได้

ลิบองก็ทำตามแผนที่ลกซุนบอก โดยขอลาออกจากนายด่านนกเค้า และกลับไปรักษาตัวที่เมืองกังตั๋ง เมื่อซุนกวนถามว่าจะให้ผู้ใดไปแทน ลิบองก็บอกว่า

“ ซึ่งท่านจะให้คนดีออกไปอยู่นั้นฝ่ายกวนอูก็มิไว้ใจ จะให้รักษาเมืองมั่นคงไว้ อันลกซุนนี้ยังหาปรากฏชื่อลือนามไม่ ท่านจงให้ออกไปอยู่เถิด เห็นว่ากวนอูจะไว้ใจไม่ระวังหลัง ก็เห็นจะได้เมืองเกงจิ๋วดังความปรารถนา “

ซุนกวนจึงตั้งลกซุนเป็นทหารแม่ทัพซ้าย ไปรักษาค่ายลกเค้าแทน ลิบอง แม้ลกซุนจะแย้งว่าตนเป็นเด็กหนุ่ม ยังหามีความรู้วิชาสิ่งใดไม่ ซุนกวนก็บอกว่าลิบองเชื่อว่าลกซุนมีความคิดลึกซึ้งน่าจะได้ราชการอยู่ ลกซุนจึงจำใจต้องรับตำแหน่งนั้นไว้

เมื่อลกซุนมาอยู่ที่ด่านลกเค้าแล้ว ก็ส่งหนังสือและบรรณาการไปให้กวนอู แจ้งเรื่องที่ตนถูกตั้งให้มาอยู่แทนลิบองโดยไม่เต็มใจ และขอคำนับเป็นไมตรีด้วย ผู้ถือหนังสือก็กลับมาบอกว่า กวนอูมีความยินดีที่จะรับไมตรี และคงจะไม่ห่วงหลังแล้ว

ลกซุนก็เอาเนื้อความแจ้งแก่ซุนกวนให้ทราบ ซุนกวนก็ปรึกษากับ ลิบองว่าจะยกกองทัพใหญ่ไปตีเมืองเกงจิ๋ว โดยให้ซุนเกียวบุตรของอา กับลิบองเป็นแม่ทัพ ลิบองก็บอกว่า

“ ซึ่งท่านจะให้ซุนเกียวกับข้าพเจ้าไปทำการด้วยกันนั้น ข้าพเจ้าเห็นขัดสนอยู่ แม้ท่านจะให้ซุนเกียวไปก็ให้ไปแต่ผู้เดียวเถิด ท่านจำไม่ได้หรือ เมื่อครั้งท่านตั้งจิวยี่กับทียเภาซึ่งเป็นคนเก่าของท่าน เป็นแม่ทัพซ้ายขวาทำการด้วยกัน แลฝ่ายจิวยี่มีสติปัญญาจะว่าสิ่งใด เทียเภาซึ่งเป็นแม่ทัพซ้ายก็ประนอมด้วยปัญญาของจิวยี่ จึงทำการด้วยกันได้ แลบัดนี้ท่านจะให้ข้าพเจ้าไปกับซุนเกียวนั้น ปัญญาข้าพเจ้าหาเหมือนหนึ่งจิวยี่ไม่ สิ่งใดซึ่งจะว่ากล่าวกันนั้นเห็นจะขัดสน แลซุนเกียวนั้นเล่าก็เป็นพี่น้องของท่าน มีปัญญากล้าแข็งอยู่ ขอท่านจงใช้ให้ซุนเกียวไปแต่ผู้เดียวเถิด ก็จะทำได้ไม่ขัดสน “

แต่ซุนกวนกลับตั้งให้ลิบองเป็นแม่ทัพใหญ่ บังคับบัญชาทหารทั้งหมดในแว่นแคว้นเมืองกังตั๋ง เช่นเดียวกับจิวยี่ในครั้งกระโน้น แล้วให้ซุนเกียวเป็นนายทหารกองเสบียง อยู่ในบังคับของลิบองอีกทีหนึ่ง ลิบองก็จัดทหารสามหมื่นลงซุ่มไว้ในเรือแปดสิบลำ แล้วให้ทหารที่เป็นลูกเรือใส่เสื้อขาวแบบเดียวกับพวกพ่อค้าทั้งหลาย แล้วให้ทหารเอกของกังตั๋งเจ็ดคนคือ ฮันต๋ง จิวท่าย เจียวขิม จูเหียน พัวเจี้ยง ชีเซ่ง และ เตงฮอง เป็นนายทหารควบคุม

ส่วนทหารที่เหลือไม่ได้ลงเรือนั้น ให้ยกไปเป็นทัพบก ตัวซุนกวนเป็นแม่ทัพ แล้วมีหนังสือไปถึงโจโฉ ให้เร่งยกทัพเข้าตีกวนอูที่เมืองอ้วนเซียให้แตก กับให้ทหารไปบอกลกซุนว่า ให้จัดแจงทหารให้พร้อมรบ แล้วลิบองก็ยกขบวนเรือไปตามแม่น้ำซินเอี๋ยง ถึงตำบลแฮเค้า ซึ่งทหารเมืองเกงจิ๋วตั้งร้านไฟอยู่

ทหารชาวด่านก็ถามว่ามาแต่ไหน ทหารของลิบองที่แต่งตัวเป็นพ่อค้า ก็บอกว่าเป็นสำเภาค้าขายถูกพายุพัดมา จะขออาศัยพักแล้วก็จัดสิ่งของขึ้นไปให้ทหารที่รักษาการณ์อยู่นั้น ก็ได้รับอนุญาตให้พักจอดเรืออาศัยอยู่ชั่วคราว พอค่ำลงประมาณทุ่มเศษ ลิบองก็ให้ทหารที่แอบอยู่ในเรือ ขึ้นไปล้อมจับทหารรักษาด่านและร้านไฟนั้นไปที่ละแห่งตลอดคืนนั้น จนถึงเมืองเกงจิ๋ว และเกลี้ยกล่อมให้ทหารที่จับมาได้ เรียกให้ทหารรักษาเมืองเปิดประตูรับ พอเข้าเมืองได้ทหารในเรือทั้งหมดก็ขึ้นบกโห่ร้องและจุดเพลิงขึ้น แต่มิได้มีผู้ใดจะเข้าสู้รบ ลิบองจึงยึดเมืองเกงจิ๋วได้โดยง่าย

แล้วลิบองก็ให้ป่าวร้องแก่ทหารทั้งปวงในกองทัพว่า ถ้าผู้ใดบังอาจฆ่าฟัน และริบทรัพย์สินสิ่งของชาวเมืองให้ได้ความเดือดร้อน จะเอาโทษแก่ผู้นั้นถึงตาย และบรรดาขุนนางทั้งปวงในเมืองเกงจิ๋วก็ให้คงอยู่ตามตำแหน่งเดิม ส่วนบุตรภรรยาและครอบครัวกวนอูนั้น ก็ให้พิทักษ์รักษาไว้ไม่ให้ผู้ใดทำร้ายได้

ฝ่ายซุนกวนเมื่อรู้ว่าลิบองยึดเมืองเกงจิ๋วได้แล้ว ก็ยกกองทัพบกมาถึงเมืองนี้ แล้วก็ตั้งผู้รักษาเมืองใหม่ กับให้ปล่อยอิกิ๋มที่ถูกกวนอูจับเป็นเชลย ออกจากคุกส่งคืนไปเมืองฮูโต๋ และเกลี้ยกล่อมอาณาประชาราษฎรให้อยู่เย็นเป็นสุข เลี้ยงดูปูนบำเหน็จแก่ทหารทั้งปวงตามความชอบ แล้วก็ส่งคนไปเกลี้ยกล่อมได้เมืองกังอั๋นกับเมืองลำกุ๋น มาอ่อนน้อมอีกด้วย.

###########


วางเมื่อ ๑๘ ก.ย.๕๖ เวลา ๐๙.๑๕
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่