เว็บที่ขายเครื่องสำอาง หรือน้ำหอม ออนไลน์ เขาซื้อล็อตใหญ่จากเคาน์เตอร์ในห้างได้ถูกกว่าปกติถึง 30-40% จริงหรือครับ

ผมเห็นเว็บหนึ่งขายเครื่องสำอางและน้ำหอมออนไลน์
เลยลอง Search google ดูชื่อเสียงของร้าน และดูเว็บบอร์ดของทางร้านก็โอเค
Review ค่อนไปในทางที่ดี และ ไม่มี Review เชิงลบแต่อย่างใด
อีกทั้ง บาง Review ระบุว่า มีป้ายราคาเต็ม ของห้างติดมาด้วย

ซึ่งทางร้านแจ้งในหน้าเว็บว่า ของที่ได้มา มาจากการซื้อล็อตใหญ่จากเคาน์เตอร์ในห้าง

ผมลองคำนวณราคาน้ำหอม ในห้าง กับ ราคาน้ำหอมที่เขาตั้งขายไว้ในเว็บ
ซึ่งราคาที่เขาตั้งขายไว้ในเว็บถูกกว่าราคาในห้าง ถึง 35%

แสดงว่า ถ้าเขาซื้อมาจากเคาน์เตอร์ในห้างจริง เขาต้องได้ราคาถูกกว่าป้ายถึง 35% ขึ้นไป
สิ่งที่ทำให้ผมยิ่งสงสัยก็คือ เว็บนี้ ขายน้ำหอม และเครื่องสำอางหลายแบรนด์ และหลายรุ่นมาก (มีรุ่นที่ผมเชื่อว่า ขายไม่ค่อยออกด้วย)
ถ้าเขาซื้อล็อตใหญ่มาจริง ๆ อะไรทำให้เขามั่นใจว่า เขาจะขายหมดได้ทันเวลาครับ ?

ขอบคุณครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
ขอก็อบคำตอบที่ผมเคยตอบไว้ให้ในกระทู้ก่อนๆนะครับ

http://pantip.com/topic/30730737/comment4

====================================================================

น้ำหอมที่ลดราคาจากป้าย40% สามารถทำได้จริงครับ โดยสินค้านั้นเอามาจากเคาเตอร์ห้างนั่นแหละครับ แต่ว่าการที่จะขายราคานั้นได้จะต้องมียอดซื้อที่สูงมากๆเลยนะครับกว่าจะได้ราคามาที่ลดมากกว่า40% เพราะถ้าเค้าขายลด40%แสดงว่าเค้าต้องได้มาราคาถูกกว่านั้น

ผมก็เป็นพ่อค้าขายน้ำหอมอยู่วงการนี้มานานจะรู้ว่ายอดซื้อเท่าไหร่ถึงจะได้ราคาประมาณนี้(แต่ขออนุญาตไม่บอกยอดนะครับ) ส่วนตัวผมเองขายราคาลดไม่เยอะถึงขนาดนั้นเพราะด้วยยอดซื้อของผมเองไม่ได้สูงมากพอที่จะได้เปอเซ็นต์ลดเยอะขนาดนั้น

โดยที่ผมบอกว่าสามารถทำได้จริง แต่ก็ไม่ได้ยืนยันนะครับว่าร้านที่ไปซื้อมานั่นเป็นของแท้รึเปล่า เพราะผมก็ไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง

ไหนๆก็เขียนมาซะยาวแล้วผมก็อนุญาตอธิบายรายละเอียดเลยละกันนะครับ เผื่อจะเป็นความรู้ใหม่และเป็นประโยชน์แก่คนอื่นๆที่ยังไม่รู้ข้อมูลที่ถูกต้อง

คนที่เคยช็อปปิ้งน้ำหอมออนไลน์ไม่รู้ว่าเคยสังเกตกันหรือไม่ว่าจะมีน้ำหอมป้ายห้างไทยขายอยู่ด้วย ถ้าสังเกตดีๆจะพบว่าน้ำหอมป้ายห้างที่ขายนั้นส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์ที่นำเข้าด้วยบริษัทเอลก้า(ตัวอย่าง เช่น Clinique Estee DKNY) เพราะว่าน้ำหอมแบรนด์ที่บริษัทนี้นำเข้าราคาขายที่อเมริกาเทียบกับในห้างไทยเมื่อซื้อตอนมีโปรโมชั่นดีๆ(ช่วงMid Night Sale)จะราคาพอๆกันเลย พ่อค้า-แม่ค้าหลายคนรวมถึงผมจึงเอาของห้างไทยมาขายกันไม่ต้องเสียเวลาไปหิ้วจากอเมริกา

ส่วนน้ำหอมแบรนด์ที่นำเข้าโดยบริษัทลัคซ์เอเซีย(ตัวอย่าง เช่น CK Davidoff)นั้นจะไม่ค่อยมีขายที่เป็นป้ายห้างเพราะว่าราคาที่อเมริกาถูกกว่าราคาในห้างไทยเป็นอย่างมาก ปัจจุบันนี้บริษัทลัคซ์เอซียเองก็มีขายส่งให้กับดีลเลอร์ด้วยนะครับ แต่ว่าเมื่อลดราคาแล้วยังแพงกว่าน้ำหอมที่หิ้วจากอเมริกาอยู่ดี น้ำหอมหิ้วจึงนิยมกว่า(ผมเห็นCatalogมาแล้ว เคยมีคนมาเสนอราคาให้)


การช็อปน้ำหอมออนไลน์ให้ได้ของแท้นั้น โดยส่วนสำหรับผมอาจจะไม่ใช่เรื่องยากเพราะตัวผมเองอยู่ในวงการนี้มานาน จะพอดูออกเลยว่าร้านไหนขายของแท้หรือไม่แท้ (แต่ผมไม่สามารถฟันธงออกสื่อได้ เดี๋ยวจะโดนฟ้องเอา ผมจะใช้คำว่า "น่าจะ" เพราะผมก็ไม่ได้สัมผัสของด้วยตัวเอง) สิ่งที่ผมใช้ดูและช่วยในการตัดสินใจมีดังนี้ครับ (ใครจะเอาไปใช้ก็ได้นะครับ)

1). ราคาสมเหตุ สมผล ไม่ถูกเวอร์จนเกินไป หรือราคาเท่ากันทั้งร้านแบบนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้ครับ เพราะอย่างน้อยแบรนด์Chanel เป็นแบรนด์ที่ราคาไม่ค่อยยอมร่วมโปรโมชั่นใดๆกับทางห้างอยู่แล้ว (น้ำหอมChanelของร้านผมจึงเป็นของDuty Free ซึ่งจะถูกกว่าในห้างนิดหน่อย)

2). น้ำหอมตัดตำหนิจากห้างหรือจากดิวตี้ฟรีแล้วเอามาขายในราคาถูกไม่มีจริงนะครับ น้ำหอมที่ซื้อเหมาจากห้างหรือจากดิวตี้ฟรีจะสภาพ100%ทั้งนั้นครับ

3). น้ำหอมหลุดQCแล้วเอามาขาย อันนี้ก็ไม่มีจริงครับ ของผมเคยเจอน้ำหอมกลิ่นเพี้ยนทางบริษัทเค้ารับคืนยกล็อตเลยนะครับ ไม่มีการหลุดQCแล้วเอามาขายในราคาถูก

4). น้ำหอมเทสเตอร์นั้นมีจริงครับ โดยที่น้ำหอมเทสเตอร์จะต้องมีกล่องและระบุที่กล่องและขวดว่าเป็นน้ำหอมเทสเตอร์หรือDemonstration (ถ้าไม่มีกล่องก็ควรหลีกเลี่ยงครับ)

5). ดูที่ตั้งของร้านจากรหัสพัสดุที่แจ้งให้ลูกค้า โดยนำรหัสนั้นไปค้นหาในเว็บของไปรษณีย์ไทย จะสามารถทำให้พอรู้คร่าวๆว่าที่ตั้งของร้านอยู่จังหวัดใด (ดูจากต้นทางเข้าระบบจากที่ใด) http://track.thailandpost.co.th/trackinternet/Default.aspx

พิมพ์มาซะยาวเลยผมหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนนะครับ

ปล. ผมเองก็ไม่รู้ว่าคุณเจ้าชายอสูรน้อยเคยผิดหวังกับการช็อปน้ำหอมออนไลน์มาหรือไม่ แต่ที่ผมเห็นคุณเจ้าชายอสูรน้อยตอบกระทู้มาหลายๆกระทู้แล้วนั้นจะออกไปในทางลบซะมากกว่า และมีบางข้อมูลที่คุณเจ้าชายอสูรน้อยรู้และบอกคนอื่นไปผิดด้วยนะครับ ถ้าหากข้อมูลไหนไม่รู้จริงผมแนะนำว่าไม่ควรตอบให้คนอื่นเข้าใจและรู้กันไปผิดๆจะดีกว่าครับ (ผมไม่ได้ต้องการจะหาเรื่องคุณเจ้าชายอสูรน้อยนะครับ เพียงแต่ว่าผมไม่อยากให้คนอื่นได้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและรู้กันผิดๆกันไป)

ปล.2 ผมขอไม่แจ้งชื่อเว็บที่ผมขายอยู่ทั้งทางนี้หรือทางหลังไมค์นะครับ จุดประสงค์หลักของการตอบกระทู้นี้ของผมคือการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ผมไม่ต้องการโปรโมตหรือเป็นม้าใดๆให้กับร้านตัวเอง (เพราะผมคิดเสมอว่าถ้าหากสินค้าและบริการของเราดีจริงๆลูกค้าจะเป็นคนบอกต่อให้เราเอง แต่ถ้าหากมาใช้(วิชามาร)มาตั้งกระทู้เป็นม้าให้ร้านตัวเอง เราก็จะไม่รู้ว่าสิ่งที่เราทำอยู่นั้นทำให้ลูกค้าพอใจในร้านเราจริงๆรึยัง)

============================================================================

เพิ่มเติมตอบให้คห.2 นะครับ

    หลายๆร้านไม่มีเงินเยอะพอที่จะซื้อเหมายอดสูงๆด้วยตัวเองเค้าจะใช้วิธีผ่านคนกลางเอาครับ คนกลางคนนี้จะเป็นคนซื้อเหมาเอง แล้วเค้าจึงเอาของมากระจายต่อให้ร้านอื่นๆอีกที ยกตัวอย่างเช่น คนกลางที่รับหน้าที่ซื้อเหมาเค้าสามารถทำราคาได้ลดถึง50-55%(สมัยก่อนเคยเห็นทำราคาได้ แต่เดี๋ยวนี้ทำได้ไม่ค่อยถึงแล้ว) แล้วเค้ามาปล่อยต่อให้ร้านย่อยๆประมาณในราคาลดประมาณ45-48% คนกลางคนนี้ก็ไม่ต้องแบกภาระไปขายเองแค่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางเอาของให้ร้านอื่นๆ เดือนๆนึงก็ได้หลายตังค์แล้วครับ ส่วนร้านปลีกย่อยก็ไปขายต่อหน้าร้านในอีกราคานึงกันต่อไป ซึ่งสรุปแล้วมันก็คือวิธีการเดียวกันแต่ผ่านพ่อค้าคนกลางอีกทีนึงครับ

   แต่ก็มีบางร้านมีเงินเยอะพอที่จะซื้อเหมาเองได้ครับ หรือบางร้านก็จะจับมือกับร้านที่รู้จักรวมๆยอดกันไปก็มีครับ ซึ่งวิธีที่ผมพูดมาไม่ใช่มีเงินแล้วจะทำได้เลย ต้องมีคอนเนคชั่นพอสมควรด้วยครับ

   และเพิ่มเติมให้คุณเจ้าชายอสูรน้อยนะครับ เท่าที่ผมทราบข้อมูลมาจากBAว่ายอดขายส่วนใหญ่ของแผนกเครื่องสำอางมาจากการซื้อเหมาของเหล่าพ่อค้า-แม่ค้าพวกนี้นะครับ ไม่ใช่มาจากการขายลูกค้ารายย่อยที่มาเดินห้าง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่