สวัสดีค่ะ...นานๆ จะแวะมาห้องบลูสักที ดอง ทริปนี้เอาไว้นานมากกกกก
ขอเวลาแก้ตัว 30 วินาที อันที่จริง ทริปนี้ เป็นทริปที่ฉุกเฉินสุดๆ ชนิดที่เรียกว่า ตัดสินใจจะไปตอนหกโมงเย็น ได้ตั๋วตอนสามทุ่ม บินตอนแปดโมงเช้า ไปกะเราได้ภาพสวย และพร้อมเสมอ เรื่องเที่ยวขอให้บอก ซักผ้าตอนสามทุ่ม เก็บกระเป๋าเสร็จตีสี่ ถึงแม้จะไม่ได้ทำการบ้านก่อนไป แต่ไปเสร็จกลับมาทำการบ้านก็ได้รสชาติไปอีกแบบ(เหนื่อยกันคนละแบบ 555) แต่ก็ทำให้มีเรื่องสนุกมากมายมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
ถ้าหากมีข้อมูลตรงไหนผิดพลาดไป ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าเลยนะคะ เที่ยวก่อน กลับมาหาข้อมูลทีหลัง รวบรวมเรื่องราวที่ฟังจากคุณไกด์ จากเอกสารที่การท่องเที่ยวให้มา และจากกูเกิ้ล ผสมๆ กัน ด้วยความอยากรู้ส่วนตัว และอยากเอามาเล่าให้ฟังค่ะ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญประเทศญี่ปุ่นหรือประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นแต่อย่างใด
ทริปนี้ ได้ความอุปการะคุณจากบริษัททัวร์ของรุ่นพี่ เป็นทัวร์เน้นถ่ายรูป รมณ์ประมาณว่า เที่ยวสนุก คุ้มค่า ได้มากกว่าภาพสวย และ ด้วยการสนับสนุนของการท่องเที่ยววากายาม่า ที่สนับสนุนให้มีทริปนี้ขึ้นมา เพราะอยากให้คนไทยได้ลองไปเที่ยววากายาม่ากันค่ะ ทำให้เราได้มีโอกาสไปสำรวจทุกแง่มุม ของจังหวัดนี้กัน
สโลแกนของจังหวัดวากายาม่าคือ น้ำพุร้อนที่ไหลท่วมท้น และความสวยงามอลังการของแม่พระธรณี
ทำไม วากายาม่าถึงใกล้แค่ปลายจมูกนะ
ด้วย
ทำเลที่ตั้งของจังหวัดวากายาม่าอยู่บนคาบสมุทรคิอิ ซึ่งเป็นคาบสมุทรที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น รายล้อมไปด้วยภูเขา มหาสมุทร และแม่น้ำ จังหวัดวากายาม่าตั้งอยู่ทางทิศใต้ของภูมิภาคคันไซ บนเกาะฮอนชู จะว่าไป นักท่องเที่ยวที่เคยเดินทางไปญี่ปุ่นอาจจะเคยไปเที่ยวในแถบนี้กันมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโอซาก้า นารา ปราสาทโอซาก้า ย่านช็อปปิ้งอย่างชินไซบาชิ ทำให้หลายๆ คนอาจจะไม่ทราบว่า ใกล้ๆโอซาก้านั้น เมืองที่ห่างออกไปเพียง 75 กิโลเมตร อย่างวากายาม่า ซึ่งเป็นจังหวัดที่อยู่ติดกัน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 4000 ตารางกิโลเมตร อุดมไปด้วยมรดกโลกที่เก่าแก่ สถานที่สำคัญที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมกว่าพันปี มีแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ออนเซน และกิจกรรมน่าสนใจหลายอย่าง
วันนี้ เราจะมาพาเที่ยวไปพร้อมๆ กันค่ะ ตำแหน่งของวากายาม่าในแผนที่
ลักษณะทางภูมิประเทศของจังหวัดวากายาม่า เป็นแนวยาว ยื่นออกมาทางตอนใต้ของเกาะฮอนชู โอบล้อมด้วยทะเลทั้งทิศตะวันออกและตะวันตก จึงเป็นจังหวัดที่สามารถเห็นทั้งพระอาทิตย์ตกและพระอาทิตย์ขึ้นได้ในจังหวัดเดียวกัน และการที่โอมล้อมไปด้วยทะเลทั้งสองข้างนั้น แน่นอนว่า ของดีประจำจังหวัดจะต้องหนีไม่พ้น อาหารทะเลแน่นอน รับรองว่า กินกันจุใจ หายอยากเลยทีเดียว พร้อมทั้งของฝากจากทะเล สาหร่าย อาหารแห้ง แปรรูป เยอะแยะมากมายให้ซื้อกลับบ้านมาเป็นของฝากได้อีกด้วย
ภูมิอากาศของวากายาม่า ค่อนข้างอบอุ่น ในฤดูร้อน อุณหภูมิประมาณ 20 ปลายๆ ถึง 30 องศา ฤดูหนาวจะไม่หนาวมาก อยู่ที่ประมาณ 0 องศา (หรืออาจจะติดลบ นิดหน่อยในบางปี)
มีฝนตกช่วงเปลี่ยนฤดู ด้วยอากาศอบอุ่นนี้เอง วากายาม่าจึงผลไม้ขึ้นชื่อหลายชนิด สลับหมุนเวียนกันไปทั้งปี ที่ดังที่สุดเห็นจะเป็น ท้อ(โมโหมะ) และ บ๊วย (อุเมะ) ที่ถูกแปรรูปมาเป็นของฝาก อาหารคาว อาหารหวานมากมาย ผลไม้ตามฤดูกาลที่วากายาม่า ขึ้นชื่อมากๆ เช่น บ๊วย ลูกพลับ พลัม ท้อ ส้มแมนดาริน เป็นต้น
จะเห็นว่า ไม่ว่าจะไปฤดูไหน วากายาม่า ก็อุดมสมบูรณ์ไปหมด (หาเรื่องกินได้ตลอดอะ 555)
จังหวัดวากายาม่า ประกอบไปด้วยเขต สำคัญๆ ที่เราจะไปเที่ยวกันได้แก่ อ.เมืองวากายาม่า
โคยะซานและริวจิน ฮงกุและชินกุ ไทจิ นาชิคัตสึอุระ คุชิโมโตะ ตามแผนที่เลยค่ะ
ฤดูกาลท่องเที่ยว สามารถท่องเที่ยวได้ทุกฤดู ให้อารมณ์ต่างๆ กันไป ช่วงรอยต่อฤดู อย่างเดือน
มค- กุมภาพันธ์ บรรยากาศหนาวๆ หิมะโปรยปรายลงจับตัวแต่ไม่หนาวจนเกินไป 0-10 C ถ้าไปช่วงนี้ เราคงจะได้เห็นมรดกโลก ในอีกบรรยากาศนึง คงจะมีเสน่ห์ไม่แพ้กันแน่นอน
ใบไม้ผลิ มีนาคม เมษา ชมซากุระ
ฤดูร้อน ช่วงต้นๆ ฤดูอย่างมิถุนา กรกฏา อากาศเริ่มอุ่นขึ้น ทำให้บรรยากาศป่าเขาบริเวณนี้ มีสีสันเขียวสด ฝนตกในบางวันทำให้ได้บรรยากาศ ชื้นชะอุ่ม ปนไอหมอก
ฤดูใบไม้ร่วง ก็ไม่อยากจะคิดว่า จะสวยแค่ไหน ถ้าป่าทั้งป่าที่เราเห็น สลับสีเป็น เหลือง ส้ม แดงกันหมด
ระยะเวลาในการเที่ยว
วากายาม่า เป็นจังหวัดที่ค่อนข้างใหญ่ ประกอบไปด้วย เมืองสำคัญๆ หลายเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น Hongu/ Kushimoto/Nachikatsuura/Shirahama เป็นต้น ถ้าจะเจาะลึกกันเฉพาะวากายาม่าจริงๆ แล้ว ขอบอกว่า 4-5 วันกำลังดี หรือ ถ้ามีเวลามากกว่านี้ สามารถเจาะลึกสถานที่ไฮไลท์อื่นๆ ได้อีกเช่นกัน หรือจะมาซ้ำมากกว่าหนึ่งครั้ง เปลี่ยนฤดูกาล รับรองว่า ไม่มีเบื่อ ได้บรรยากาศธรรมชาติ วิวภูมิประเทศที่แตกต่างกันออกไป
แผนการเที่ยว
วากายาม่า กำลังโปรโมทเส้นทางท่องเที่ยวให้กับชาวต่างชาติ นอกจากจะสามารถเดินทางไปเองได้สะดวกแล้ว กรุ๊ปทัวร์ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่อำนวยความสะดวกมากมาย ในเรื่องของการเดินทาง อาหาร และที่พัก บินตรงจากกรุงเทพสู่สนามบินคันไซ ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง จากนั้นใช้เวลาในวากายาม่า 4-5 วัน ท่องเที่ยวจากเหนือจรดใต้ ตะวันออกไปตะวันตก
วันท้ายๆ สามารถกลับมาแวะช็อปปิ้งในตัวเมืองโอซาก้า ได้อีกด้วย ถือว่าไปครั้งเดียวได้ครบทุกรส ไม่ว่าจะสัมผัสธรรมชาติ ป่าเขา วัด วัง หรือช็อปปิ้งในเมือง เที่ยวสวนสนุก แวะซื้อของฝากก่อนกลับบ้าน
วันแรกที่ไปถึง ขออนุญาตไม่นับ เป็นวันพักร่างให้ฟื้นจากการเดินทาง โปรแกรมทัวร์อาจจะแตกต่างกันไปนะคะ
วันที่ 2 Koyasan -> Hongu -> Katsuura
Koyasan : ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการเลือกให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี 2004
Hi-light วัด Kongobuji หรือจะใช้เวลาแบบเชื่องช้าใน Koyasan ใช้ชีวิตสงบ เรียบง่าย เปลี่ยนสถานที่ ได้ผ่อนคลายจากความเครียด นอนในวัดแบบโฮมสเตย์และลองลิ้มชิมอาหารมังสวิรัติในวัดก็ได้อีกอารมณ์นึง
Hongu : Kumano Hongu Taisha หนึ่งในสาม ศาลเจ้าหลักที่สำคัญตามความเชื่อของศาสนาชินโต ( อีกสองแห่งได้แก่ Kumano Hayatama Taisha และ Kumano Nachi Taisha ) ที่นี่จึงเป็นเหมือนศูนย์กลางของศาลเจ้ากว่า 3000 แห่งทั่วญี่ปุ่น
Katsuura : Hi-light Urashima Resort&Spa Hotel
วันที่ 3 Shingu ->Katsuura
Hi-light : ศาลเจ้าที่สำคัญอีกที่นึง ที่เป็นมรดกโลก คือ Kumano Hayatama Taisha , สวนโจฟุกุ และ Kumano Nachi Taisha น้ำตกนาจิ
วันที่ 4 Taichi -> Kushimoto -> Shirahama
Taichi : Taichi Kujira Hama พิพิธภัณฑ์ปลาวาฬที่ใหญ่ที่สุดในโลก
Kushimoto : โขดหิน Ashikuiwa , Kushimoto Marine Park พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งแรกของญี่ปุ่น , หน้าผา Sendaibeki , Engetsu เกาะแว่นตา
Shirahama : ออนเซนกลางแจ้ง(โระเทนบุโร) ใช้ถังไม้ทำจากต้นบ๊วยหอมกรุ่น พร้อมชมวิวทะเล Nanki Shirahama Umedaru Onsen Hotel Seamore
วันที่ 5 Shirahama -> Wakayama City
Shirahama : ตลาดปลา Toretore market , ฟาร์มเมล่อน วัดโดโจ เก่าแก่ที่มีละครคาบูกิ, โรงงานโชยุ
Wakayama City : ปราสาทวาคายาม่า
วันที่ 6-7 Wakayama -> Osaka
เริงร่า ท้าความเสียว เที่ยวแบบเด็กๆ ที่ Universal Studio และช็อปปิ้งบนถนนสุดฮิป Shinsaibashi
จากสนามบินคันไซ เราเที่ยววนตามเข็มนาฬิกา จากตะวันออกไปตะวันตก
[SR] Wakayama : Japan ย้อนอดีตกว่าพันปี ใกล้เพียงแค่ปลายจมูก
ขอเวลาแก้ตัว 30 วินาที อันที่จริง ทริปนี้ เป็นทริปที่ฉุกเฉินสุดๆ ชนิดที่เรียกว่า ตัดสินใจจะไปตอนหกโมงเย็น ได้ตั๋วตอนสามทุ่ม บินตอนแปดโมงเช้า ไปกะเราได้ภาพสวย และพร้อมเสมอ เรื่องเที่ยวขอให้บอก ซักผ้าตอนสามทุ่ม เก็บกระเป๋าเสร็จตีสี่ ถึงแม้จะไม่ได้ทำการบ้านก่อนไป แต่ไปเสร็จกลับมาทำการบ้านก็ได้รสชาติไปอีกแบบ(เหนื่อยกันคนละแบบ 555) แต่ก็ทำให้มีเรื่องสนุกมากมายมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
ถ้าหากมีข้อมูลตรงไหนผิดพลาดไป ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าเลยนะคะ เที่ยวก่อน กลับมาหาข้อมูลทีหลัง รวบรวมเรื่องราวที่ฟังจากคุณไกด์ จากเอกสารที่การท่องเที่ยวให้มา และจากกูเกิ้ล ผสมๆ กัน ด้วยความอยากรู้ส่วนตัว และอยากเอามาเล่าให้ฟังค่ะ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญประเทศญี่ปุ่นหรือประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นแต่อย่างใด
ทริปนี้ ได้ความอุปการะคุณจากบริษัททัวร์ของรุ่นพี่ เป็นทัวร์เน้นถ่ายรูป รมณ์ประมาณว่า เที่ยวสนุก คุ้มค่า ได้มากกว่าภาพสวย และ ด้วยการสนับสนุนของการท่องเที่ยววากายาม่า ที่สนับสนุนให้มีทริปนี้ขึ้นมา เพราะอยากให้คนไทยได้ลองไปเที่ยววากายาม่ากันค่ะ ทำให้เราได้มีโอกาสไปสำรวจทุกแง่มุม ของจังหวัดนี้กัน
สโลแกนของจังหวัดวากายาม่าคือ น้ำพุร้อนที่ไหลท่วมท้น และความสวยงามอลังการของแม่พระธรณี
ทำไม วากายาม่าถึงใกล้แค่ปลายจมูกนะ
ด้วยทำเลที่ตั้งของจังหวัดวากายาม่าอยู่บนคาบสมุทรคิอิ ซึ่งเป็นคาบสมุทรที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น รายล้อมไปด้วยภูเขา มหาสมุทร และแม่น้ำ จังหวัดวากายาม่าตั้งอยู่ทางทิศใต้ของภูมิภาคคันไซ บนเกาะฮอนชู จะว่าไป นักท่องเที่ยวที่เคยเดินทางไปญี่ปุ่นอาจจะเคยไปเที่ยวในแถบนี้กันมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโอซาก้า นารา ปราสาทโอซาก้า ย่านช็อปปิ้งอย่างชินไซบาชิ ทำให้หลายๆ คนอาจจะไม่ทราบว่า ใกล้ๆโอซาก้านั้น เมืองที่ห่างออกไปเพียง 75 กิโลเมตร อย่างวากายาม่า ซึ่งเป็นจังหวัดที่อยู่ติดกัน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 4000 ตารางกิโลเมตร อุดมไปด้วยมรดกโลกที่เก่าแก่ สถานที่สำคัญที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมกว่าพันปี มีแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ออนเซน และกิจกรรมน่าสนใจหลายอย่าง
วันนี้ เราจะมาพาเที่ยวไปพร้อมๆ กันค่ะ ตำแหน่งของวากายาม่าในแผนที่
ลักษณะทางภูมิประเทศของจังหวัดวากายาม่า เป็นแนวยาว ยื่นออกมาทางตอนใต้ของเกาะฮอนชู โอบล้อมด้วยทะเลทั้งทิศตะวันออกและตะวันตก จึงเป็นจังหวัดที่สามารถเห็นทั้งพระอาทิตย์ตกและพระอาทิตย์ขึ้นได้ในจังหวัดเดียวกัน และการที่โอมล้อมไปด้วยทะเลทั้งสองข้างนั้น แน่นอนว่า ของดีประจำจังหวัดจะต้องหนีไม่พ้น อาหารทะเลแน่นอน รับรองว่า กินกันจุใจ หายอยากเลยทีเดียว พร้อมทั้งของฝากจากทะเล สาหร่าย อาหารแห้ง แปรรูป เยอะแยะมากมายให้ซื้อกลับบ้านมาเป็นของฝากได้อีกด้วย
ภูมิอากาศของวากายาม่า ค่อนข้างอบอุ่น ในฤดูร้อน อุณหภูมิประมาณ 20 ปลายๆ ถึง 30 องศา ฤดูหนาวจะไม่หนาวมาก อยู่ที่ประมาณ 0 องศา (หรืออาจจะติดลบ นิดหน่อยในบางปี)
มีฝนตกช่วงเปลี่ยนฤดู ด้วยอากาศอบอุ่นนี้เอง วากายาม่าจึงผลไม้ขึ้นชื่อหลายชนิด สลับหมุนเวียนกันไปทั้งปี ที่ดังที่สุดเห็นจะเป็น ท้อ(โมโหมะ) และ บ๊วย (อุเมะ) ที่ถูกแปรรูปมาเป็นของฝาก อาหารคาว อาหารหวานมากมาย ผลไม้ตามฤดูกาลที่วากายาม่า ขึ้นชื่อมากๆ เช่น บ๊วย ลูกพลับ พลัม ท้อ ส้มแมนดาริน เป็นต้น
จะเห็นว่า ไม่ว่าจะไปฤดูไหน วากายาม่า ก็อุดมสมบูรณ์ไปหมด (หาเรื่องกินได้ตลอดอะ 555)
จังหวัดวากายาม่า ประกอบไปด้วยเขต สำคัญๆ ที่เราจะไปเที่ยวกันได้แก่ อ.เมืองวากายาม่า
โคยะซานและริวจิน ฮงกุและชินกุ ไทจิ นาชิคัตสึอุระ คุชิโมโตะ ตามแผนที่เลยค่ะ
ฤดูกาลท่องเที่ยว สามารถท่องเที่ยวได้ทุกฤดู ให้อารมณ์ต่างๆ กันไป ช่วงรอยต่อฤดู อย่างเดือน
มค- กุมภาพันธ์ บรรยากาศหนาวๆ หิมะโปรยปรายลงจับตัวแต่ไม่หนาวจนเกินไป 0-10 C ถ้าไปช่วงนี้ เราคงจะได้เห็นมรดกโลก ในอีกบรรยากาศนึง คงจะมีเสน่ห์ไม่แพ้กันแน่นอน
ใบไม้ผลิ มีนาคม เมษา ชมซากุระ
ฤดูร้อน ช่วงต้นๆ ฤดูอย่างมิถุนา กรกฏา อากาศเริ่มอุ่นขึ้น ทำให้บรรยากาศป่าเขาบริเวณนี้ มีสีสันเขียวสด ฝนตกในบางวันทำให้ได้บรรยากาศ ชื้นชะอุ่ม ปนไอหมอก
ฤดูใบไม้ร่วง ก็ไม่อยากจะคิดว่า จะสวยแค่ไหน ถ้าป่าทั้งป่าที่เราเห็น สลับสีเป็น เหลือง ส้ม แดงกันหมด
ระยะเวลาในการเที่ยว
วากายาม่า เป็นจังหวัดที่ค่อนข้างใหญ่ ประกอบไปด้วย เมืองสำคัญๆ หลายเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น Hongu/ Kushimoto/Nachikatsuura/Shirahama เป็นต้น ถ้าจะเจาะลึกกันเฉพาะวากายาม่าจริงๆ แล้ว ขอบอกว่า 4-5 วันกำลังดี หรือ ถ้ามีเวลามากกว่านี้ สามารถเจาะลึกสถานที่ไฮไลท์อื่นๆ ได้อีกเช่นกัน หรือจะมาซ้ำมากกว่าหนึ่งครั้ง เปลี่ยนฤดูกาล รับรองว่า ไม่มีเบื่อ ได้บรรยากาศธรรมชาติ วิวภูมิประเทศที่แตกต่างกันออกไป
แผนการเที่ยว
วากายาม่า กำลังโปรโมทเส้นทางท่องเที่ยวให้กับชาวต่างชาติ นอกจากจะสามารถเดินทางไปเองได้สะดวกแล้ว กรุ๊ปทัวร์ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่อำนวยความสะดวกมากมาย ในเรื่องของการเดินทาง อาหาร และที่พัก บินตรงจากกรุงเทพสู่สนามบินคันไซ ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง จากนั้นใช้เวลาในวากายาม่า 4-5 วัน ท่องเที่ยวจากเหนือจรดใต้ ตะวันออกไปตะวันตก
วันท้ายๆ สามารถกลับมาแวะช็อปปิ้งในตัวเมืองโอซาก้า ได้อีกด้วย ถือว่าไปครั้งเดียวได้ครบทุกรส ไม่ว่าจะสัมผัสธรรมชาติ ป่าเขา วัด วัง หรือช็อปปิ้งในเมือง เที่ยวสวนสนุก แวะซื้อของฝากก่อนกลับบ้าน
วันแรกที่ไปถึง ขออนุญาตไม่นับ เป็นวันพักร่างให้ฟื้นจากการเดินทาง โปรแกรมทัวร์อาจจะแตกต่างกันไปนะคะ
วันที่ 2 Koyasan -> Hongu -> Katsuura
Koyasan : ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการเลือกให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี 2004
Hi-light วัด Kongobuji หรือจะใช้เวลาแบบเชื่องช้าใน Koyasan ใช้ชีวิตสงบ เรียบง่าย เปลี่ยนสถานที่ ได้ผ่อนคลายจากความเครียด นอนในวัดแบบโฮมสเตย์และลองลิ้มชิมอาหารมังสวิรัติในวัดก็ได้อีกอารมณ์นึง
Hongu : Kumano Hongu Taisha หนึ่งในสาม ศาลเจ้าหลักที่สำคัญตามความเชื่อของศาสนาชินโต ( อีกสองแห่งได้แก่ Kumano Hayatama Taisha และ Kumano Nachi Taisha ) ที่นี่จึงเป็นเหมือนศูนย์กลางของศาลเจ้ากว่า 3000 แห่งทั่วญี่ปุ่น
Katsuura : Hi-light Urashima Resort&Spa Hotel
วันที่ 3 Shingu ->Katsuura
Hi-light : ศาลเจ้าที่สำคัญอีกที่นึง ที่เป็นมรดกโลก คือ Kumano Hayatama Taisha , สวนโจฟุกุ และ Kumano Nachi Taisha น้ำตกนาจิ
วันที่ 4 Taichi -> Kushimoto -> Shirahama
Taichi : Taichi Kujira Hama พิพิธภัณฑ์ปลาวาฬที่ใหญ่ที่สุดในโลก
Kushimoto : โขดหิน Ashikuiwa , Kushimoto Marine Park พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งแรกของญี่ปุ่น , หน้าผา Sendaibeki , Engetsu เกาะแว่นตา
Shirahama : ออนเซนกลางแจ้ง(โระเทนบุโร) ใช้ถังไม้ทำจากต้นบ๊วยหอมกรุ่น พร้อมชมวิวทะเล Nanki Shirahama Umedaru Onsen Hotel Seamore
วันที่ 5 Shirahama -> Wakayama City
Shirahama : ตลาดปลา Toretore market , ฟาร์มเมล่อน วัดโดโจ เก่าแก่ที่มีละครคาบูกิ, โรงงานโชยุ
Wakayama City : ปราสาทวาคายาม่า
วันที่ 6-7 Wakayama -> Osaka
เริงร่า ท้าความเสียว เที่ยวแบบเด็กๆ ที่ Universal Studio และช็อปปิ้งบนถนนสุดฮิป Shinsaibashi
จากสนามบินคันไซ เราเที่ยววนตามเข็มนาฬิกา จากตะวันออกไปตะวันตก