https://www.facebook.com/photo.php?fbid=564006210326902&set=a.536355946425262.1073741826.532747176786139&type=1&theater
ตั้งแต่ประมาณปี 2548 เป็นต้นมา
มีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นในประเทศไทย เริ่มตั้งแต่การประท้วงรัฐบาล การปฏิวัติ การชุมนุมทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง การเกิดมหาอุทกภัย โดยอาจสรุปได้สั้นๆดังนี้ครับ
- รัฐประหาร 1 ครั้ง
- 7 รัฐบาล + 1 คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ
- 7 พรรคการเมืองถูกยุบ
- 1 มหาอุทกภัย
- ผู้เสียชีวิต 933 ราย (น้ำท่วม และ ความไม่สงบทางการเมือง)
- ผู้บาดเจ็บ 2,200 ราย
- ความเสียหายมากกว่า 1.7 ล้านล้านบาท
จากเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ทำให้เราสูญเสียเวลาที่มีค่าไปเกือบสิบปี ผมขอเรียกว่าเป็น
ทศวรรษที่หายไป (The Lost Decade) ซึ่งในช่วงนี้ เราแทบไม่ได้มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญหลังจากการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเลย ผมเองคงไม่สามารถตัดสินได้ว่าใครผิด ใครถูก คงต้องให้คนรุ่นต่อไปมองย้อนกลับมาวิเคราะห์กันอีกที
แต่ที่สำคัญตอนนี้ เราคงต้องพยายามเอาสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียน พยายามหาทางอยู่ร่วมกัน ลดความขัดแย้ง ร่วมกันเดินหน้า สร้างอนาคตประเทศไทยต่อไป
มามองอนาคตร่วมกันดีกว่าครับ
ถ้าผมมองไปในอนาคต นอกเหนือจากภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรกรรมและการส่งออกแล้ว ผมคิดว่าตัวขับเคลื่อนความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (Growth Engines) ที่สำคัญของประเทศไทยคือ
-
ธุรกิจการท่องเที่ยวและบริการ : ในช่วงสามปีที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวของไทยเติบโตเฉลี่ยปีละ 16.5% และนำรายได้เข้าสู่ประเทศปีละ 1.6 ล้านล้านบาท
-
การกระจายตัวของเมือง (Urbanization) : การกระจายความเจริญจากกรุงเทพสู่ต่างจังหวัด การขยายตัวของเมือง การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจค้าปลีกส่ง ตามเมืองใหญ่ และ จังหวัดชายแดน
-
การเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อรองรับ AEC : การใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต และ ค้าขายกับกลุ่มประเทศอาเซียน
-
การใช้จ่ายในประเทศ (Domestic Consumption) : การกระตุ้นการลงทุน การสร้างงานและการใช้จ่ายในประเทศ
ซึ่งถ้าพิจารณาแล้ว ตัวขับเคลื่อนเหล่านี้ ล้วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งทั้งสิ้น ถ้าโครงสร้างพื้นฐานไม่ดี ก็มีปัญหาต่อเนื่องไปถึงการท่องเที่ยว การกระจายตัวของเมือง การเชื่อมโยงกับเพื่อนบ้าน นอกจากนั้นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ก็เป็นตัวกระตุ้นสำคัญสำหรับการใช้จ่ายในประเทศ เพราะก่อให้เกิดการจ้างงาน และใช้วัตถุดิบในประเทศจำนวนมากครับ
**********************************************************************
เสียงสะท้อนจากคนที่อยากทำงานเพื่อชาติจริงๆ คนไม่เห็นด้วย จะจัดว่าเป็นคนจำพวกไหน
มือไม่พาย ยังจะใช้ เท้าราน้ำ
คอยก่อกวน รวนเรือคว่ำ หวังทำล่ม
พายไม่เป็น เข่นจะแย่ง แช่งเรือจม
ไม่รู้สม รู้สา อิจฉากิน
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
จากใจชัชชาติ............... ทศวรรษที่หายไป (The Lost Decade)
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=564006210326902&set=a.536355946425262.1073741826.532747176786139&type=1&theater
ตั้งแต่ประมาณปี 2548 เป็นต้นมา
มีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นในประเทศไทย เริ่มตั้งแต่การประท้วงรัฐบาล การปฏิวัติ การชุมนุมทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง การเกิดมหาอุทกภัย โดยอาจสรุปได้สั้นๆดังนี้ครับ
- รัฐประหาร 1 ครั้ง
- 7 รัฐบาล + 1 คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ
- 7 พรรคการเมืองถูกยุบ
- 1 มหาอุทกภัย
- ผู้เสียชีวิต 933 ราย (น้ำท่วม และ ความไม่สงบทางการเมือง)
- ผู้บาดเจ็บ 2,200 ราย
- ความเสียหายมากกว่า 1.7 ล้านล้านบาท
จากเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ทำให้เราสูญเสียเวลาที่มีค่าไปเกือบสิบปี ผมขอเรียกว่าเป็น ทศวรรษที่หายไป (The Lost Decade) ซึ่งในช่วงนี้ เราแทบไม่ได้มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญหลังจากการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเลย ผมเองคงไม่สามารถตัดสินได้ว่าใครผิด ใครถูก คงต้องให้คนรุ่นต่อไปมองย้อนกลับมาวิเคราะห์กันอีกที
แต่ที่สำคัญตอนนี้ เราคงต้องพยายามเอาสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียน พยายามหาทางอยู่ร่วมกัน ลดความขัดแย้ง ร่วมกันเดินหน้า สร้างอนาคตประเทศไทยต่อไป
มามองอนาคตร่วมกันดีกว่าครับ
ถ้าผมมองไปในอนาคต นอกเหนือจากภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรกรรมและการส่งออกแล้ว ผมคิดว่าตัวขับเคลื่อนความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (Growth Engines) ที่สำคัญของประเทศไทยคือ
- ธุรกิจการท่องเที่ยวและบริการ : ในช่วงสามปีที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวของไทยเติบโตเฉลี่ยปีละ 16.5% และนำรายได้เข้าสู่ประเทศปีละ 1.6 ล้านล้านบาท
- การกระจายตัวของเมือง (Urbanization) : การกระจายความเจริญจากกรุงเทพสู่ต่างจังหวัด การขยายตัวของเมือง การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจค้าปลีกส่ง ตามเมืองใหญ่ และ จังหวัดชายแดน
- การเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อรองรับ AEC : การใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต และ ค้าขายกับกลุ่มประเทศอาเซียน
- การใช้จ่ายในประเทศ (Domestic Consumption) : การกระตุ้นการลงทุน การสร้างงานและการใช้จ่ายในประเทศ
ซึ่งถ้าพิจารณาแล้ว ตัวขับเคลื่อนเหล่านี้ ล้วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งทั้งสิ้น ถ้าโครงสร้างพื้นฐานไม่ดี ก็มีปัญหาต่อเนื่องไปถึงการท่องเที่ยว การกระจายตัวของเมือง การเชื่อมโยงกับเพื่อนบ้าน นอกจากนั้นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ก็เป็นตัวกระตุ้นสำคัญสำหรับการใช้จ่ายในประเทศ เพราะก่อให้เกิดการจ้างงาน และใช้วัตถุดิบในประเทศจำนวนมากครับ
**********************************************************************
เสียงสะท้อนจากคนที่อยากทำงานเพื่อชาติจริงๆ คนไม่เห็นด้วย จะจัดว่าเป็นคนจำพวกไหน
มือไม่พาย ยังจะใช้ เท้าราน้ำ
คอยก่อกวน รวนเรือคว่ำ หวังทำล่ม
พายไม่เป็น เข่นจะแย่ง แช่งเรือจม
ไม่รู้สม รู้สา อิจฉากิน
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑