15 กันยายน 2556 (สังคมไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้เรื่อง สัมปทาน TRUEMOVE GSM1800 หมด) กสทช.เศรษฐพงค์ ยอมรับสั่งส่ง SMS 18 ล้านครั้ง ดูเหมือนว่าประชาชนส่วนใหญ่กลับไม่ได้รับรู้
ประเด็นหลัก
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช. และประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยว่า ประกาศห้ามซิมดับ ไม่ใช่การยืดอายุสัญญาสัมปทาน เพราะไม่ได้มีการจัดสรรคลื่นใหม่ แต่เป็นการมาตราการคุ้มครองผู้บริโภค รายได้จากค่าใช้บริการ เป็นของกระทรวงการคลัง ไม่ใช่ของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง โดยตั้งคณะกรรมการร่วม มีตัวแทนจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กระทรวงการคลัง กสทช. เป็นผู้รับผิดชอบ โดยระหว่างนี้ กทค. ต้องดำเนินการเปิดประมูลคลื่น 1800 MHz ให้เสร็จ ภายใน 1 ปี นับจากนี้ หรือประมาณเดือน ก.ย. 2557 ซึ่งระหว่างนี้ผู้ใช้บริการสามารถใช้บริการโอนย้ายค่าย (นัมเบอร์พอร์ตทิบิลิตี้ ) ได้โดยเสียค่าใช้จ่ายครั้งละ 29 บาท ต่อเลขหมาย
นี่คือ ข้อความสั้น (เอสเอ็มเอส) ที่ทรูมูฟส่งถึงผู้ใช้บริการ ตั้งแต่วันที่ 19ส.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า กสทช. ได้กำหนดให้บริษัทแจ้งว่าการให้บริการของบริษัทในคลื่น 1800 MHz จะสิ้นสุดลง 15 ก.ย. และจะใช้งานต่อได้ไม่เกิน 15 ก.ย. 2557 และเพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ในการใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ทางบริษัทจะดำเนินการอัพเกรดเลขหมายให้เป็นทรูมูฟเอชโดยอัตโนมัติก่อนวันสิ้นบริการ 15 ก.ย. 2556 สำหรับกรณีไม่ต้องการอัพเกรดเพื่อรับสิทธิจะต้องโทร.แจ้ง หรือสอบถามรายละเอียดได้
แม้ว่าที่ผ่านมา กทค. จะออกคำสั่งให้ผู้ที่อยู่ใต้สัมปทาน อย่างทรู และดีพีซี ส่งข้อความสั้น (เอสเอ็มเอส) แจ้งลูกค้าให้รับทราบ และสำนักงาน กสทช. ก็ประชาสัมพันธ์ควบคู่กันไป แต่ดูเหมือนว่าประชาชนส่วนใหญ่กลับไม่ได้รับรู้
นางฐิญาพร โกศัยดิลก ประชาสัมพันธ์ บริษัทเอกชนย่านประตูน้ำ กล่าวว่า ไม่เคยได้ข่าวซิมดับ รู้แค่ว่าวันใช้งาน ยดเงินคงเหลือ และวันหมดอายุเท่านั้น ซึ่งหากเกิดซิมดับขึ้นมาก็คงงง และรีบโทร.ถามคอลเซ็นเตอร์ หรือไม่ก็ไปที่ศูนย์บริการตามห้างสรรพสินค้าเพื่อสอบถามข้อมูลว่าเกิดอะไรขึ้น และอาจจะดูข้อมูลในเว็บพันทิป เข้าเว็บบอร์ดสอบถามว่ามีใครที่เจอกรณีแบบนี้บ้าง
ส่วนกรณีการแจ้งเตือนผ่านเอสเอ็มเอสนั้น เคยได้รับเพียงข้อเดียวคือ เปลี่ยนระบบมาเป็นทรูมูฟอัตโนมัติ ซึ่งไม่แน่ใจว่าเกี่ยวข้องกับซิมดับหรือไม่ นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่า หากมีซิมดับก็ควรแจ้งให้ผู้ใช้ทราบล่วงหน้าก่อนตัด โดยวิธีโทรมาบอกซึ่งจะดีกว่าการส่งเอสเอ็มเอสแจ้งเตือน เพราะหากมีข้อสงสัยจะได้สอบถามรายละเอียดได้
อาจารย์สิงห์ สิงห์ขจร อาจารย์ประจำสาขาวิชาการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารองค์การ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ระบุว่า รับทราบข่าวสารเรื่องซิมดับผ่านทางสื่อมวลชน และเว็บไซต์ และรู้มาก่อนระยะหนึ่งแล้วจากเอสเอ็มเอสที่ได้รับจากโอเปอร์เตอร์ ซึ่งส่วนตัวไม่มีความกังวลมากนักหากซิมดับขึ้นมาจริง เพราะไม่ได้ใช้เป็นเบอร์ติดต่อหลัก แต่กังวลในส่วนของการคิดค่าบริการระหว่างผู้ให้บริการ ว่าจะคิดค่าบริการอย่างไร จะคิดค่าบริการเต็มเดือน แต่ใช้งานจริงแค่ 15 วัน ในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้หรือไม่
อีกทั้ง ยังมองว่า หากผู้บริโภคไม่รู้เรื่องแล้วซิมดับ ความเสียหายเกิดขึ้นแน่นอนในการสื่อสาร คนทำธุรกิจจะมีความเสียหายในแง่การทำธุรกิจ ส่วนคนทำงานทั่วไปก็จะมีปัญหาในการติดต่อการสื่อสารระหว่างกัน หากมีเรื่องเร่งด่วน
"ขอฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กสทช. และโอเปอร์เรเตอร์ ดูแลในการแก้ไขปัญหาให้มีการเปลี่ยนผ่านโดยไม่มีผลกระทบต่อผู้บริโภค เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นผู้บริโภคเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนโดยตรง และการปรับเปลี่ยนนั้นให้มีการตรวจเช็คค่าบริการ ว่าเป็นธรรมต่อผู้บริโภค" อาจารย์ประจำสาขาวิชาการประชาสัมพันธ์ฯ มรภ.บ้านสมเด็จเจ้าพระยา กล่าวทิ้งท้าย
ขณะที่ วันพรุ่งนี้ (16 ก.ย.) "16 กันยา สตาร์ตมาตรการเยียวยาวันแรก มั่นใจใช้ได้ต่อเนื่องซิมไม่ดับ" เวลา 11.00 น. ณ สำนักงาน กสทช.
นายประวิทย์ ระบุว่า การกระทำดังกล่าวมีการอ้าง กสทช. ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นการดำเนินการที่ถูกต้อง แต่สิ่งที่ กสทช. ให้ทำคือให้แจ้งเรื่องวันสิ้นสุดสัมปทานและแจ้งสิทธิการโอนย้าย นอกจากนี้ ในการพิจารณากรณีร่างประกาศเรื่องนี้ ที่ประชุม กทค. ยืนยันหลักการโอนย้ายตามความสมัครใจของผู้บริโภค การกระทำดังกล่าวจึงขัดกับมติ กทค. ด้วย จึงเป็นหน้าที่ของสำนักงาน กสทช. ที่จะบังคับให้บริษัทดำเนินการให้ถูกต้องตามมติและตามกฎหมาย
http://m.thairath.co.th/content/tech/369674
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9560000115899&Keyword=%a1%ca%b7
http://m.thairath.co.th/content/tech/369971
______________________________________
กสทช.เตือน True - DPC ย้ายค่ายลูกค้าจ่ายแพงกว่าถือว่ามีความผิด
นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) ระบุว่าในวันที่ 16 กันยายน ซึ่งจะเป็นวันแรกที่ กสทช.ใช้มาตรการคุมครองผู้ใช้บริการชั่วคราว กรณีสิ้นสุดสัญญาสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่คลื่น 1800 เพื่อให้ผู้บริโภคได้ตัดสินใจว่า ในช่วง 1 ปี ต่อจากนี้จะโอนย้ายค่ายการใช้บริการไปยังค่ายมือถือใด เนื่องจากค่ายดีพีซี และทรูได้สิ้นสุดสัมปทานแล้ว หากช่วงเวลาดังกล่าวค่ายมือถือเดิม ได้โอนย้ายผู้บริการไปยังค่ายของตนเองโดยอัตโนมัติ หรือทำให้ผู้บริโภคเสียสิทธิ์ในเรื่องโปรโมชั่น หรือราคา ที่ต้องมีการจ่ายแพงขึ้นถือว่า มีความผิด
สำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่จะต้องอยู่ในข่ายพบกับสถานการณ์ดังกล่าว คือผู้ใช้จีเอสเอ็ม 1800 และค่ายมือถือทรูทั้งหมดที่ไม่ใช่เครือข่ายทรูมูฟ เอช
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9560000115899&Keyword=%a1%ca%b7
______________________________________
‘หมอลี่’ชี้ซิมดับ-ย้ายค่ายอัตโนมัติ ผิดประกาศ กสทช.
ผู้บริโภคเจอปัญหา “ซิมดับ” ล่วงหน้าก่อนสัมปทานสิ้นสุด เหตุถูกโอนย้ายใช้บริการทรูมูฟ-เอชอัตโนมัติ หากไม่แจ้งความประสงค์ “หมอลี่” ชี้เข้าข่ายผิดประกาศ กสทช.เพราะผู้บริโภคต้องเป็นฝ่ายแจ้งขอโอนย้ายเอง และไม่จำเป็นต้องอยู่ครบ 90 วัน
จากกรณีผู้บริโภคเจอปัญหา “ซิมดับ” ล่วงหน้าก่อนสัญญาสัมปทานการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเครือข่ายทรูมูฟและดีพีซี จะสิ้นสุดลง ในวันที่ 15 ก.ย.นี้ ได้ร้องเรียนถึงปัญหาทั้งการโทรออกหรือรับสายไม่ได้ รวมถึงถูกโอนย้ายบริการไปยังเครือข่ายทรูมูฟเอชอัตโนมัติ โดยไม่แจ้งความประสงค์นั้น นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช. ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยว่า ได้รับทราบเรื่องและทำหนังสือถึงสำนักงาน คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แล้ว เพื่อให้ตรวจสอบการโอนย้ายผู้ใช้บริการโดยอัตโนมัติเป็นการดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และสอดคล้องกับมติ กทค. หรือไม่ และให้สำนักงาน กสทช. กำหนดแนวทางดำเนินการแก้ไขปัญหาด้วย
“ในส่วนการวิเคราะห์เห็นว่าการโอนย้ายอัตโนมัติขัดต่อประกาศ กทช. เรื่อง มาตรฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม และเรื่องหลักเกณฑ์บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ พ.ศ. 2549 เพราะไม่เป็นไปตามหลัก “เสนอสนองตรงกัน” ขณะเดียวกันก็ขัดต่อประกาศ กทช. เรื่อง หลักเกณฑ์บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ด้วย เพราะประกาศข้อ 6 ระบุชัดเจนว่า “การคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นสิทธิของผู้ใช้บริการ” และข้อ 9 กำหนดว่า “ในการขอโอนย้ายผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ให้ผู้ใช้บริการยื่นคำขอ...”
เพราะข้อกำหนดของบริษัทที่แจ้งลูกค้าทางเอสเอ็มเอสว่าจะดำเนินการอัพเกรดเลขหมายให้เป็นทรูมูฟเอชโดยอัตโนมัติก่อนวันสิ้นบริการ 15 ก.ย. 56 กรณีไม่ต้องการอัพเกรดจะต้องโทรฯแจ้ง นั้นกลายเป็นว่า ใครไม่อยากถูกโอนย้ายต้องเป็นฝ่ายยื่นเรื่อง หากอยู่เฉยเท่ากับยอมรับการโอนย้ายอัตโนมัติ”
นายประวิทย์ ระบุว่า การกระทำดังกล่าวมีการอ้าง กสทช. ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นการดำเนินการที่ถูกต้อง แต่สิ่งที่ กสทช. ให้ทำคือให้แจ้งเรื่องวันสิ้นสุดสัมปทานและแจ้งสิทธิการโอนย้าย นอกจากนี้ ในการพิจารณากรณีร่างประกาศเรื่องนี้ ที่ประชุม กทค. ยืนยันหลักการโอนย้ายตามความสมัครใจของผู้บริโภค การกระทำดังกล่าวจึงขัดกับมติ กทค. ด้วย จึงเป็นหน้าที่ของสำนักงาน กสทช. ที่จะบังคับให้บริษัทดำเนินการให้ถูกต้องตามมติและตามกฎหมาย
ส่วนประเด็นเรื่องมีปัญหาในการใช้บริการหลังโอนย้ายนั้น กสทช. ประวิทย์ ชี้ว่าน่าจะเป็นข้อขัดข้องทางเทคนิค ซึ่งบริษัทจะต้องเร่งตรวจสอบและแก้ไขต่อไป แต่สิ่งที่มีหลักกฎหมายชัดเจนอยู่แล้วคือ หากผู้บริโภคประสงค์จะโอนย้ายค่ายเมื่อไร ทางผู้ให้บริการจะต้องตอบสนอง ไม่สามารถอ้างเรื่องต้องคงอยู่จนครบ 90 วันได้ เพราะ กสทช. ไม่เคยให้ความเห็นชอบกับการกำหนดระยะเวลาดังกล่าว เป็นหลักเกณฑ์ที่ผู้ให้บริการไปกำหนดกันเอาเอง ดังนั้นจึงขอส่งเสริมให้ผู้ใช้บริการใช้สิทธิ โดยไม่หลงเชื่อคำบอกเล่าของพนักงานของบริษัท และหากประสบปัญหาก็แจ้งร้องเรียนมายัง กสทช. หมายเลข 1200 ได้.
http://www.dailynews.co.th/technology/232502
_______________________________________
หวังต่ออายุ 1ปี ให้ผู้บริโภคปรับตัวก่อนซิมดับ
“ถวิล พึ่งมา” ต่ออายุอีก 1 ปี ให้ผู้บริโภคปรับตัว เป็นทางออกก่อนซิมดับ แนะ กสทช.คุมเอกชนให้บริการมีประสิทธิภาพ พร้อมเปิดประมูลใหม่ ก.ย.-ต.ค.57...
เมื่อวันที่ 13 ก.ย. นายถวิล พึ่งมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวในเวทีเสวนา หัวข้อ นับถอยหลังสัปทาน 1800 : ทางสองแพร่งแก้ปัญหาซิมดับ ว่า ในวันที่ 15 ก.ย. 2556 นี้ สัญญาสัมปทานการให้บริการคลื่นควาามถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ จะหมดลง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จึงมีมาตรการคุ้มครองสิทธิ์คงเลขหมายเดิมออกไปอีก 1 ปี ให้กับผู้บริโภค เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถปรับตัวและโอนย้ายสิทธิ์ย้ายคลื่นจากเครือข่ายได้
อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวต่อว่า การขยายเวลาคุ้มครองสิทธิ์คงเลขหมายเดิมออกไปอีก 1 ปี ให้กับผู้บริโภค เพื่อให้ผู้บริโภคปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ กสทช. ต้องดำเนินการ และมั่นใจว่าจะไม่ทำให้การบริการมีปัญหา สัญญาณโทรศัพท์ระบบ 2จี จะใช้ได้ตามปกติ จนกว่าจะมีการเริ่มจัดสรรการประมูลใหม่
นายถวิล กล่าวอีกว่า ส่วนการประมูลคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ ควรเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการทุกรายที่ต้องการเข้าร่วมประมูล เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และเท่าเทียมกันกับผู้ประกอบการทุกราย การเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทุกรายร่วมประมูลอย่างเท่าเทียม
ส่วน นายแก้วสรร อติโพธิ หัวหน้าคณะทำงานการมีส่วนร่วมและสร้างความเข้าใจแนวทางการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิร์ตซ กล่าวว่า การดำเนินการขยายระยะเวลาคุ้มครองเลขหมายผู้ใช้บริการคลื่น 1800 ต่ออีก 1 ปี เพื่อให้เวลากับผู้บริโภคได้ตัดสินใจในการใช้เครือข่ายโทรคมนาคมได้อย่างเต็มที่ แต่ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่นี้ กสทช.จะต้องควบคุมดูแลการให้บริการของผู้ประกอบการให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งดูแลให้ผู้ประกอบการให้บริการการคงสิทธิเลขหมาย (นัมเบอรพอร์ตทิบิลิตี้) และเร่งทำประชาสัมพันธ์ให้กับผู้บริโภครับทราบในวงกว้าง
อย่างไรก็ตาม วันที่ 15 ก.ย. บริษัท ทรูมูฟ จำกัด และบริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด (ดีพีซี) จะหมดอายุสัญญาสัมปทานคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งมีผู้ใช้บริการกว่า 18 ล้านเลขหมาย ขณะที่ปี 2558 บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส จะหมดโดยมีผู้ใช้บริการอยู่ 30 ล้านราย และปี 2561 บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเฃ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค ซึ่งมีผู้ใช้บริการอยู่ 23-24 ล้านราย.
โดย: ไทยรัฐออนไลน์
http://m.thairath.co.th/content/tech/369674
(สังคมไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้เรื่อง สัมปทาน TRUEMOVE GSM1800 หมด) กสทช.เศรษฐพงค์ ดูเหมือนว่าประชาชนส่วนใหญ่กลับไม่ได้รับรู้
ประเด็นหลัก
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช. และประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยว่า ประกาศห้ามซิมดับ ไม่ใช่การยืดอายุสัญญาสัมปทาน เพราะไม่ได้มีการจัดสรรคลื่นใหม่ แต่เป็นการมาตราการคุ้มครองผู้บริโภค รายได้จากค่าใช้บริการ เป็นของกระทรวงการคลัง ไม่ใช่ของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง โดยตั้งคณะกรรมการร่วม มีตัวแทนจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กระทรวงการคลัง กสทช. เป็นผู้รับผิดชอบ โดยระหว่างนี้ กทค. ต้องดำเนินการเปิดประมูลคลื่น 1800 MHz ให้เสร็จ ภายใน 1 ปี นับจากนี้ หรือประมาณเดือน ก.ย. 2557 ซึ่งระหว่างนี้ผู้ใช้บริการสามารถใช้บริการโอนย้ายค่าย (นัมเบอร์พอร์ตทิบิลิตี้ ) ได้โดยเสียค่าใช้จ่ายครั้งละ 29 บาท ต่อเลขหมาย
นี่คือ ข้อความสั้น (เอสเอ็มเอส) ที่ทรูมูฟส่งถึงผู้ใช้บริการ ตั้งแต่วันที่ 19ส.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า กสทช. ได้กำหนดให้บริษัทแจ้งว่าการให้บริการของบริษัทในคลื่น 1800 MHz จะสิ้นสุดลง 15 ก.ย. และจะใช้งานต่อได้ไม่เกิน 15 ก.ย. 2557 และเพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ในการใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ทางบริษัทจะดำเนินการอัพเกรดเลขหมายให้เป็นทรูมูฟเอชโดยอัตโนมัติก่อนวันสิ้นบริการ 15 ก.ย. 2556 สำหรับกรณีไม่ต้องการอัพเกรดเพื่อรับสิทธิจะต้องโทร.แจ้ง หรือสอบถามรายละเอียดได้
แม้ว่าที่ผ่านมา กทค. จะออกคำสั่งให้ผู้ที่อยู่ใต้สัมปทาน อย่างทรู และดีพีซี ส่งข้อความสั้น (เอสเอ็มเอส) แจ้งลูกค้าให้รับทราบ และสำนักงาน กสทช. ก็ประชาสัมพันธ์ควบคู่กันไป แต่ดูเหมือนว่าประชาชนส่วนใหญ่กลับไม่ได้รับรู้
นางฐิญาพร โกศัยดิลก ประชาสัมพันธ์ บริษัทเอกชนย่านประตูน้ำ กล่าวว่า ไม่เคยได้ข่าวซิมดับ รู้แค่ว่าวันใช้งาน ยดเงินคงเหลือ และวันหมดอายุเท่านั้น ซึ่งหากเกิดซิมดับขึ้นมาก็คงงง และรีบโทร.ถามคอลเซ็นเตอร์ หรือไม่ก็ไปที่ศูนย์บริการตามห้างสรรพสินค้าเพื่อสอบถามข้อมูลว่าเกิดอะไรขึ้น และอาจจะดูข้อมูลในเว็บพันทิป เข้าเว็บบอร์ดสอบถามว่ามีใครที่เจอกรณีแบบนี้บ้าง
ส่วนกรณีการแจ้งเตือนผ่านเอสเอ็มเอสนั้น เคยได้รับเพียงข้อเดียวคือ เปลี่ยนระบบมาเป็นทรูมูฟอัตโนมัติ ซึ่งไม่แน่ใจว่าเกี่ยวข้องกับซิมดับหรือไม่ นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่า หากมีซิมดับก็ควรแจ้งให้ผู้ใช้ทราบล่วงหน้าก่อนตัด โดยวิธีโทรมาบอกซึ่งจะดีกว่าการส่งเอสเอ็มเอสแจ้งเตือน เพราะหากมีข้อสงสัยจะได้สอบถามรายละเอียดได้
อาจารย์สิงห์ สิงห์ขจร อาจารย์ประจำสาขาวิชาการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารองค์การ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ระบุว่า รับทราบข่าวสารเรื่องซิมดับผ่านทางสื่อมวลชน และเว็บไซต์ และรู้มาก่อนระยะหนึ่งแล้วจากเอสเอ็มเอสที่ได้รับจากโอเปอร์เตอร์ ซึ่งส่วนตัวไม่มีความกังวลมากนักหากซิมดับขึ้นมาจริง เพราะไม่ได้ใช้เป็นเบอร์ติดต่อหลัก แต่กังวลในส่วนของการคิดค่าบริการระหว่างผู้ให้บริการ ว่าจะคิดค่าบริการอย่างไร จะคิดค่าบริการเต็มเดือน แต่ใช้งานจริงแค่ 15 วัน ในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้หรือไม่
อีกทั้ง ยังมองว่า หากผู้บริโภคไม่รู้เรื่องแล้วซิมดับ ความเสียหายเกิดขึ้นแน่นอนในการสื่อสาร คนทำธุรกิจจะมีความเสียหายในแง่การทำธุรกิจ ส่วนคนทำงานทั่วไปก็จะมีปัญหาในการติดต่อการสื่อสารระหว่างกัน หากมีเรื่องเร่งด่วน
"ขอฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กสทช. และโอเปอร์เรเตอร์ ดูแลในการแก้ไขปัญหาให้มีการเปลี่ยนผ่านโดยไม่มีผลกระทบต่อผู้บริโภค เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นผู้บริโภคเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนโดยตรง และการปรับเปลี่ยนนั้นให้มีการตรวจเช็คค่าบริการ ว่าเป็นธรรมต่อผู้บริโภค" อาจารย์ประจำสาขาวิชาการประชาสัมพันธ์ฯ มรภ.บ้านสมเด็จเจ้าพระยา กล่าวทิ้งท้าย
ขณะที่ วันพรุ่งนี้ (16 ก.ย.) "16 กันยา สตาร์ตมาตรการเยียวยาวันแรก มั่นใจใช้ได้ต่อเนื่องซิมไม่ดับ" เวลา 11.00 น. ณ สำนักงาน กสทช.
นายประวิทย์ ระบุว่า การกระทำดังกล่าวมีการอ้าง กสทช. ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นการดำเนินการที่ถูกต้อง แต่สิ่งที่ กสทช. ให้ทำคือให้แจ้งเรื่องวันสิ้นสุดสัมปทานและแจ้งสิทธิการโอนย้าย นอกจากนี้ ในการพิจารณากรณีร่างประกาศเรื่องนี้ ที่ประชุม กทค. ยืนยันหลักการโอนย้ายตามความสมัครใจของผู้บริโภค การกระทำดังกล่าวจึงขัดกับมติ กทค. ด้วย จึงเป็นหน้าที่ของสำนักงาน กสทช. ที่จะบังคับให้บริษัทดำเนินการให้ถูกต้องตามมติและตามกฎหมาย
http://m.thairath.co.th/content/tech/369674
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9560000115899&Keyword=%a1%ca%b7
http://m.thairath.co.th/content/tech/369971
______________________________________
กสทช.เตือน True - DPC ย้ายค่ายลูกค้าจ่ายแพงกว่าถือว่ามีความผิด
นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) ระบุว่าในวันที่ 16 กันยายน ซึ่งจะเป็นวันแรกที่ กสทช.ใช้มาตรการคุมครองผู้ใช้บริการชั่วคราว กรณีสิ้นสุดสัญญาสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่คลื่น 1800 เพื่อให้ผู้บริโภคได้ตัดสินใจว่า ในช่วง 1 ปี ต่อจากนี้จะโอนย้ายค่ายการใช้บริการไปยังค่ายมือถือใด เนื่องจากค่ายดีพีซี และทรูได้สิ้นสุดสัมปทานแล้ว หากช่วงเวลาดังกล่าวค่ายมือถือเดิม ได้โอนย้ายผู้บริการไปยังค่ายของตนเองโดยอัตโนมัติ หรือทำให้ผู้บริโภคเสียสิทธิ์ในเรื่องโปรโมชั่น หรือราคา ที่ต้องมีการจ่ายแพงขึ้นถือว่า มีความผิด
สำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่จะต้องอยู่ในข่ายพบกับสถานการณ์ดังกล่าว คือผู้ใช้จีเอสเอ็ม 1800 และค่ายมือถือทรูทั้งหมดที่ไม่ใช่เครือข่ายทรูมูฟ เอช
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9560000115899&Keyword=%a1%ca%b7
______________________________________
‘หมอลี่’ชี้ซิมดับ-ย้ายค่ายอัตโนมัติ ผิดประกาศ กสทช.
ผู้บริโภคเจอปัญหา “ซิมดับ” ล่วงหน้าก่อนสัมปทานสิ้นสุด เหตุถูกโอนย้ายใช้บริการทรูมูฟ-เอชอัตโนมัติ หากไม่แจ้งความประสงค์ “หมอลี่” ชี้เข้าข่ายผิดประกาศ กสทช.เพราะผู้บริโภคต้องเป็นฝ่ายแจ้งขอโอนย้ายเอง และไม่จำเป็นต้องอยู่ครบ 90 วัน
จากกรณีผู้บริโภคเจอปัญหา “ซิมดับ” ล่วงหน้าก่อนสัญญาสัมปทานการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเครือข่ายทรูมูฟและดีพีซี จะสิ้นสุดลง ในวันที่ 15 ก.ย.นี้ ได้ร้องเรียนถึงปัญหาทั้งการโทรออกหรือรับสายไม่ได้ รวมถึงถูกโอนย้ายบริการไปยังเครือข่ายทรูมูฟเอชอัตโนมัติ โดยไม่แจ้งความประสงค์นั้น นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช. ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยว่า ได้รับทราบเรื่องและทำหนังสือถึงสำนักงาน คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แล้ว เพื่อให้ตรวจสอบการโอนย้ายผู้ใช้บริการโดยอัตโนมัติเป็นการดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และสอดคล้องกับมติ กทค. หรือไม่ และให้สำนักงาน กสทช. กำหนดแนวทางดำเนินการแก้ไขปัญหาด้วย
“ในส่วนการวิเคราะห์เห็นว่าการโอนย้ายอัตโนมัติขัดต่อประกาศ กทช. เรื่อง มาตรฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม และเรื่องหลักเกณฑ์บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ พ.ศ. 2549 เพราะไม่เป็นไปตามหลัก “เสนอสนองตรงกัน” ขณะเดียวกันก็ขัดต่อประกาศ กทช. เรื่อง หลักเกณฑ์บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ด้วย เพราะประกาศข้อ 6 ระบุชัดเจนว่า “การคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นสิทธิของผู้ใช้บริการ” และข้อ 9 กำหนดว่า “ในการขอโอนย้ายผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ให้ผู้ใช้บริการยื่นคำขอ...”
เพราะข้อกำหนดของบริษัทที่แจ้งลูกค้าทางเอสเอ็มเอสว่าจะดำเนินการอัพเกรดเลขหมายให้เป็นทรูมูฟเอชโดยอัตโนมัติก่อนวันสิ้นบริการ 15 ก.ย. 56 กรณีไม่ต้องการอัพเกรดจะต้องโทรฯแจ้ง นั้นกลายเป็นว่า ใครไม่อยากถูกโอนย้ายต้องเป็นฝ่ายยื่นเรื่อง หากอยู่เฉยเท่ากับยอมรับการโอนย้ายอัตโนมัติ”
นายประวิทย์ ระบุว่า การกระทำดังกล่าวมีการอ้าง กสทช. ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นการดำเนินการที่ถูกต้อง แต่สิ่งที่ กสทช. ให้ทำคือให้แจ้งเรื่องวันสิ้นสุดสัมปทานและแจ้งสิทธิการโอนย้าย นอกจากนี้ ในการพิจารณากรณีร่างประกาศเรื่องนี้ ที่ประชุม กทค. ยืนยันหลักการโอนย้ายตามความสมัครใจของผู้บริโภค การกระทำดังกล่าวจึงขัดกับมติ กทค. ด้วย จึงเป็นหน้าที่ของสำนักงาน กสทช. ที่จะบังคับให้บริษัทดำเนินการให้ถูกต้องตามมติและตามกฎหมาย
ส่วนประเด็นเรื่องมีปัญหาในการใช้บริการหลังโอนย้ายนั้น กสทช. ประวิทย์ ชี้ว่าน่าจะเป็นข้อขัดข้องทางเทคนิค ซึ่งบริษัทจะต้องเร่งตรวจสอบและแก้ไขต่อไป แต่สิ่งที่มีหลักกฎหมายชัดเจนอยู่แล้วคือ หากผู้บริโภคประสงค์จะโอนย้ายค่ายเมื่อไร ทางผู้ให้บริการจะต้องตอบสนอง ไม่สามารถอ้างเรื่องต้องคงอยู่จนครบ 90 วันได้ เพราะ กสทช. ไม่เคยให้ความเห็นชอบกับการกำหนดระยะเวลาดังกล่าว เป็นหลักเกณฑ์ที่ผู้ให้บริการไปกำหนดกันเอาเอง ดังนั้นจึงขอส่งเสริมให้ผู้ใช้บริการใช้สิทธิ โดยไม่หลงเชื่อคำบอกเล่าของพนักงานของบริษัท และหากประสบปัญหาก็แจ้งร้องเรียนมายัง กสทช. หมายเลข 1200 ได้.
http://www.dailynews.co.th/technology/232502
_______________________________________
หวังต่ออายุ 1ปี ให้ผู้บริโภคปรับตัวก่อนซิมดับ
“ถวิล พึ่งมา” ต่ออายุอีก 1 ปี ให้ผู้บริโภคปรับตัว เป็นทางออกก่อนซิมดับ แนะ กสทช.คุมเอกชนให้บริการมีประสิทธิภาพ พร้อมเปิดประมูลใหม่ ก.ย.-ต.ค.57...
เมื่อวันที่ 13 ก.ย. นายถวิล พึ่งมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวในเวทีเสวนา หัวข้อ นับถอยหลังสัปทาน 1800 : ทางสองแพร่งแก้ปัญหาซิมดับ ว่า ในวันที่ 15 ก.ย. 2556 นี้ สัญญาสัมปทานการให้บริการคลื่นควาามถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ จะหมดลง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จึงมีมาตรการคุ้มครองสิทธิ์คงเลขหมายเดิมออกไปอีก 1 ปี ให้กับผู้บริโภค เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถปรับตัวและโอนย้ายสิทธิ์ย้ายคลื่นจากเครือข่ายได้
อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวต่อว่า การขยายเวลาคุ้มครองสิทธิ์คงเลขหมายเดิมออกไปอีก 1 ปี ให้กับผู้บริโภค เพื่อให้ผู้บริโภคปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ กสทช. ต้องดำเนินการ และมั่นใจว่าจะไม่ทำให้การบริการมีปัญหา สัญญาณโทรศัพท์ระบบ 2จี จะใช้ได้ตามปกติ จนกว่าจะมีการเริ่มจัดสรรการประมูลใหม่
นายถวิล กล่าวอีกว่า ส่วนการประมูลคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ ควรเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการทุกรายที่ต้องการเข้าร่วมประมูล เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และเท่าเทียมกันกับผู้ประกอบการทุกราย การเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทุกรายร่วมประมูลอย่างเท่าเทียม
ส่วน นายแก้วสรร อติโพธิ หัวหน้าคณะทำงานการมีส่วนร่วมและสร้างความเข้าใจแนวทางการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิร์ตซ กล่าวว่า การดำเนินการขยายระยะเวลาคุ้มครองเลขหมายผู้ใช้บริการคลื่น 1800 ต่ออีก 1 ปี เพื่อให้เวลากับผู้บริโภคได้ตัดสินใจในการใช้เครือข่ายโทรคมนาคมได้อย่างเต็มที่ แต่ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่นี้ กสทช.จะต้องควบคุมดูแลการให้บริการของผู้ประกอบการให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งดูแลให้ผู้ประกอบการให้บริการการคงสิทธิเลขหมาย (นัมเบอรพอร์ตทิบิลิตี้) และเร่งทำประชาสัมพันธ์ให้กับผู้บริโภครับทราบในวงกว้าง
อย่างไรก็ตาม วันที่ 15 ก.ย. บริษัท ทรูมูฟ จำกัด และบริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด (ดีพีซี) จะหมดอายุสัญญาสัมปทานคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งมีผู้ใช้บริการกว่า 18 ล้านเลขหมาย ขณะที่ปี 2558 บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส จะหมดโดยมีผู้ใช้บริการอยู่ 30 ล้านราย และปี 2561 บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเฃ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค ซึ่งมีผู้ใช้บริการอยู่ 23-24 ล้านราย.
โดย: ไทยรัฐออนไลน์
http://m.thairath.co.th/content/tech/369674