ขอบ่นให้กับเรื่องคนชอบต่อราคาของกินค่ะ

ขอบ่นหน่อยค่ะ  ร้องไห้

เราอายุ 19 เรียนปี 3 ที่บ้านขายเบเกอรี่กับบัวลอย
เราก็ไปช่วยเเม่ขายค่ะ ขายมานานเเล้ว
เบเกอรี่นี่ขายมาสี่ปีได้ เเม่เราจะทำของเเบบสด สะอาด เเละอร่อย (อิงจากคำพูดเเละฐานลูกค้า)
ที่สำคัญคือ ให้เยอะ วัตถุดิบอลังการ กว่าชาวบ้าน !!!
คุ้กกี้ข้าวโอ๊ตหรือคะ ใส่มันเข้าไปค่ะ ใส่เข้าไป ข้าวโอ๊ตน่ะ เทๆๆๆ
ท๊อฟฟี่เค้กหรือคะ ! หน้าเค้กบางร้านเป็นถั่ว ของเเม่เราเป็นเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ อัดเเน่น ขายชิ้นละ 10 บาทเท่านั้น!
แต่ละอย่างชิ้นใหญ่กว่าชาวบ้านชาวช่อง (ถึงจะไม่ได้ใหญ่โอเว่อร์จนเกินงาม)
นี่เป็นตัวอย่างค่ะ ทุกอย่างที่เราทำ เราเหน็ดเหนื่อยกับเเม่กับครอบครัว
เราก็หวังให้มันผลิดอก ออกผลในรูปของ "กำไรค่ะ"

ทีนี้ค่ะ ก็จะมีพวก "มนุษย์ชอบต่อ"
มีตั้งเเต่ ต่อเล็กๆน้อยๆพองาม ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ซื้ออยู่ดี
ยันพวก ต่อเเบบ เกิดมาเพื่อต่อ! ต่อเเล้วต่ออีก จัดโปรโมชั่นซื้อ3เเถม1ขึ้นมาเองเสียอย่างนั้น!  แถมพูดจนเเม่ค้า งง งวยกันไปข้างนึง

ก็จะมาบ่นค่ะ บางคนอาจคิดว่า เออเรื่องเเค่นี้ก็เอามาบ่น ไม่พอใจก็ไม่ต้องขายสิ
ใช่ค่ะ ไม่พอใจเราไม่ขายให้เเน่ เพราะเราต้องการขายในราคาที่ได้ "คุ้มค่าเหนื่อยค่ะ"
เเต่ที่มาบ่นวันนี้ เผื่อจะเตือนสติ ใครที่ชอบต่อของ โดยเฉพาะของกินค่ะ
ซึ่งเป็นของที่กำไรน้อย ชิ้นล่ะ 3 - 10 บาท

ยกตัวอย่างเคสที่เกิดขึ้นจริงนะคะ

คุณป้าท่านหนึ่งค่ะ มาขอซื้อชิฟฟ่อนเค้ก 50 ชิ้น
ตกลงราคากันดิบดีว่าจะขายชิ้นละ 10 บาท
เพราะเราไม่ได้เอากำไรมากมาย กำไรชิ้นละ 4 บาทเท่านั้น
เเล้วคุณคิดว่า 4 x 50 = 200 บาทนี้ คุ้มกับค่าเหนื่อย 2 ชั่วโมง ของคน 3 คน หรือไม่
สำหรับเรา มันคุ้มค่ะ ถึงจะเสียเวลานั่งห่อเเต่ละชิ้นก็เถอะ
เเต่ค่ะ!! พอลูกค้ามารับของ นางกลับบอกว่า พอใจจะจ่ายในราคาชิ้นละ 8 บาทเท่านั้น!!
ซึ่งของเราก็ทำเเล้ว จะให้เอาไปขายที่อื่นก็ไม่ได้เพราะเราขายเเค่วันอาทิตย์ เเล้วนั่นเป็นวันธรรมดา
ค้างไว้นานก็ไม่ได้ ไม่ใส่กันบูด
สรุป แม่ก็ต้องยอมค่ะ วันนั้นก็ได้กำไรกันไป 100 บาท...
สำหรับบางคนอาจคิดว่า เเค่สองชั่วโมงเยอะเเล้ว เเต่สำหรับคนที่ไม่ได้ทำไม่รู้หรอกค่ะว่า เหนื่อยนะ
ภาชนะที่ต้องล้างอีก เเต่ละชิ้นใหญ่มากค่ะ ซึ่งสำหรับลูกค้าไม่เคยมองตรงนี้ มองเเต่
ยังไงเเม่ค้าก็กำไรๆๆ ซื้อเยอะๆต้องได้ราคาถูก!! ลดเเค่ 2 บาทเอง!!

อีกกรณีค่ะ เมื่อเช้า

เราไปขายชานมไข่มุก เเก้ว 16 Oz. เพิ่มไข่มุกฟรี ทั้งหมดนี้เเค่ 20 บาท
ใช้ใบชาอย่างดี ใช้วัตถุดิบเกรดดีหมด...
เราใส่น้ำเเข็งเกือบเต็มเเก้ว เเต่ไม่ถึงกับอัดเเน่น
เเต่มีลูกค้าหัวหมอค่ะ...สั่งเราว่า
เอาน้ำเเข็งน้อยๆ...
ตรงนี้เราผิดเองค่ะ ไม่ได้คิดไว้ล่วงหน้า เเละคิดไม่ทันว่าจะรับมืออย่างไร
เเต่รู้เเก่ใจว่าจะไม่ได้กำไรเลยหากน้ำเเข็งน้อย หมายความว่าชาจะเต็มเเก้ว!!
ซึ่งอาจลุกลามไปถึงขาดทุนได้ ! ใจเราก็คิดไปมือก็ตักน้ำเเข็งไปค่ะ
ตักไปครึ่งเเก้ว ลูกค้าบอก เทออก เราก็ เอิ่ม....
เงียบ ไม่ได้พูดอะไร คิดว่า เออ เดี๋ยวรินชาไม่เต็มเเก้วละกัน ไม่งั้นไม่ไหว กำไรไม่มีเเล้วจะขายทำไม
คือเราใส่โถเเกวไปตั้งขายอ่ะค่ะ สะดวกดี เพราะเช้ามากอยู่ 7 - 8 โมง
ปรากฏคุณลูกค้าก็บอกอีกว่า รินอีกๆ
เเม่ค้าก็บ้ายอบ้ายุค่ะ รินจนเต็มจนได้....
สุดท้าย เท่ากับเเก้วนั้นไม่ได้กำไร เผลอๆขาดทุน เเต่โทษใครไม่ได้ค่ะ เราไม่อยากลำบากใจ ก็ต้องยอมรับเอง
ก็กลับมานั่งคิดวิธีรับมือค่ะ ว่าคราวหน้าใครขอน้ำเเข็งน้อย เราจะบอกว่า
น้ำเเข็งครึ่งเเก้วเพิ่ม 5 บาท ไม่เอาน้ำเเข็งเพิ่ม 10 บาท ตกลงกันกับเเม่เรียบร้อย
ก็อย่างว่าค่ะ เราไม่อยากต่อกรกับลูกค้า หรือพูดอะไรที่ทำให้เขาเสียความรู้สึกมากนัก
มันลำบากค่ะ ลำบากใจ...5555

ส่วนอีกเคส อันนี้เกิดตอนขายบัวลอย

เรารู้ค่ะว่ามีบางคน จนถึงหลายคน เวลาซื้ออะไรจะลองคำนวน
เออ ไอ้นี่ต้นทุนเท่าไหร่ ทำจากอะไร น่าจะราคาประมานนี้ โหกำไรบาน
ยิ่งยุคเศรษฐกิจเเพงต้องมีคนเปรียบเทียบเเน่ๆ ทีร้านนี้ขายเท่านี้ ร้านโน้นทำไมเเพง
อยากจะบอกเลยนะคะ เเม่ค้าไม่ได้หน้าเลือดจะขายเเพงอย่างเดียวหรอกค่ะ
การที่เราขายถูกนั้นหมายความว่าลูกค้าเยอะ ขายเเพงลูกค้าก็ลด
เพราะเเม่ค้าทุกคน ก็คือลูกค้าเหมือนกัน เรื่องเเค่นี้เเน่นอนว่ารู้อยู่เเล้ว
เเละเข้าใจด้วย เพราะก็ต้องซื้อจากร้านอื่นเหมือนกัน
ลูกค้าก็จะเอาเเต่บวกต้นทุนทางวัตถุดิบ เเต่ไม่เคยบวกค่าเหนื่อย ค่าที่ ค่าเสียเวลาเลย

บัวลอยเราก็เช่นกันค่ะ เราขายเเบบไม่ใส่ไข่อยู่ที่ 15 บาท ราคาค่อนข้างมาตรฐาน
ใส่ไข่ 20 ซึ่งไข่จากแผงก็ตกใบละ 4 บาทเเล้ว อีก 1 บาทเเน่นอนว่าไม่ค่อยคุ้มค่าเเก๊สค่าน้ำตาลหรอกค่ะ
เเต่ก็ขายให้เหมือนมีออปชั่นเสริม อย่างน้อยมันก็ไม่ขาดทุน

เเต่ทีนี้ค่ะ มีลูกค้าเข้ามาทาน เขาคุยกันเราจับใจความได้ประมานว่า
คนที่ 1 : เออ บัวลอยถ้วยนี้คิดว่ากำไรเท่าไหร่วะ
คนที่ 2 : ไม่รู้ดิ...เเป้ง...2 บาทได้ป่ะ ...กะทิ 2 บาท รวมเป็น 4 บาท (คร่าวๆนะคะเราจำไม่เเม่น)

เราก็เหวอค่ะ...4 บาท...คุณพระ...ถ้าทุนทั้งหมด 4 บาทจริง ชั้นคงรวยไปนานเเล้ว
ชั้นจะลาออกจากมหาวิทยาลัยมาขายบัวลอยอย่างเดียวเลย 5555
ขอบอกนะคะว่าไอ้แป้งๆที่เห็นน่ะ ผสมพืช ฟักทอง เผือก เเครอท ใบเตย ไหนจะเอามาผ่านกระบวนการ
เมื่อยเเค่ไหนกว่าจะออกมาเป็นลูกๆ

อีกอย่างค่ะ เพลียมากกกกกกกกก ลูกค้าจะชอบบอกให้เเถมนู่นเข้าไปด้วยสิ เเถมนี่เข้าไปด้วยสิ
ประหนึ่งว่าของเหล่านั้น เเม่ค้าได้มาฟรี!!
ขอโทษค่ะ ทุกอย่างมันมีต้นทุนนะคะคุณ!
กะทิขอเยอะๆ (เเถมบังคับให้เราตักเพิ่มอีก TT) หลายคนเห็นเราเป็นเเม่ค้าเด็กก็คิดจะเอาเปรียบอย่างเดียว
ไม่คิดหรือคะ หนูเหนื่อย หนูหาเงิน หนูต้องการกำไร ไม่งั้นหนูคงเเจกฟรีไปแล้วค่ะ!! จะได้หมดไวๆกลับบ้านเร็วๆ

นี่คือตัวอย่างค่ะ ยังมีอีกหลายๆเคสกับการต่อราคา ชนิดที่เเม่เราเรียกว่า ต่อเเบบหักคอเเม่ค้า!!

ยุคเศรษฐกิจชีช้ำ ของเเพงๆจริงๆเราไม่ได้คิดไปเอง T^T (สำหรับคนอื่นไม่รู้นะ)

เราก็อยากจะบอกว่าขอเถอะค่ะ ค่าเหนื่อย ค่าที่ ค่าของ ค่าเวลา
เวลาเห็นกระทู้บ่นว่าของเเพง เพราะเเม่ค้าขึ้นตามอำเภอใจ ฉวยโอกาส ที่จริงอ่ะของขึ้นราคานิดเดียว
เราเห็นเเล้วช้ำทรวงเหลือเกิน ว่าคนที่ไม่เข้าใจ เขาก็มองไม่ดีเป็นพวกฉวยโอกาส
เราตื่นเเต่เช้า นอนก็ดึก หลังคดหลังเเข็ง อดทนกว่าจะได้มา เศรษฐกิจเเย่เเล้ว หากยังถูกฉวยโอกาสอีกก็ยิ่งเเย่หนัก

เรายังคงขอย้ำนะคะว่า ขายเเพงลูกค้าน้อยลง เสี่ยงฐานลูกค้าเก่าหาย!
ขายถูกลูกค้าเก่าก็จะยังคงอุดหนุน เเถมได้ฐานลูกค้าใหม่เพิ่ม ตัดราคาเจ้าข้างๆได้ยิ่งสบายเฮ (ไม่ใช่ละ...)
ไม่มีใครอยากขึ้นราคาหรอกค่ะ ยิ่งเศรษฐกิจเเบบนี้มีเเต่พยายามเเย่งลูกค้า ให้ขายให้ได้มากที่สุด

เราขอนะคะ พวกชอบเอาเปรียบ คิดว่าตัวเองคุ้ม! ต่อหนักๆ ไม่ลดฉันไม่ซื้อๆๆ ต่อๆๆ ... ขอเถอะค่ะ...
มันบาปนะคะ...TT คุณคุ้ม เเต่เเม่ค้าไม่คุ้มเลย คุณสร้างความลำบากใจอันใหญ่หลวงให้เเม่ค้าอีกด้วย
เผลอๆทำให้เขาเหนื่อยฟรี จากความคุ้มจะกลายเป็นอะไรไม่รู้ไปนะคะ

เราก็เเม่ค้าตัวเล็กๆคนหนึ่งในสังคมไทย ที่เป็นลูกค้า เป็นผู้บริโภคคนหนึ่งเช่นกัน
วันนี้มาบ่นเพราะว่างด้วยค่ะ (ได้ข่าวว่าการบ้านบาน...)
หากใช้ถ้อยคำที่ไม่น่าพึงประสงค์ หรือมีมุมมองที่ผิดพลาดไม่ถูกใจใครเราก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ
เราเเค่มองจากมุมของเรา ซึ่งเป็นทั้งเเม่ค้า เเละลูกค้า
พอใจซื้อเราซื้อค่ะ หากอันไหนคิดว่าเเพงไป เราก็คิดว่าสามารถต่อรองได้ เเต่พอดี รบกวนคำนึงถึงปัจจัยข้างต้น
ที่เราบอกด้วยนิดนึงเนอะ หรือหากคิดว่าเเพงไปจริงๆ ไม่พอใจ คิดว่าเเม่ค้าเอาเปรียบคุณ ก็อย่าซื้อเลยค่ะ
ไม่มีใครบังคับเลย เช่นกันกับเเม่ค้า หากไม่พอใจลูกค้าคนไหนเราก็ไม่ขาย (อ้าว เเล้วจะเอาเงินที่ไหน) พูดเล่นนะคะ

สุดท้ายคำคำนี้ก็ยังคงใช้ได้ดีค่ะ ใครใคร่ซื้อซื้อ ใครใคร่ขายขาย ยิ้ม

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่