ที่มา: หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556
ผู้บริหารของแอปเปิล อิงค์ ต่างรู้ดีอยู่แก่ใจว่า ถ้าบริษัทไม่ผลิตสมาร์ทโฟนราคาถูกออกมาจำหน่ายในตลาด ก็ต้องถูกคู่แข่งที่มาแรงแซงทางโค้งแอปเปิลไปหลายขุมอย่างซัมซุงครอบครองตลาดสมาร์ทโฟนไปทั้งหมดแน่ แต่ผลิตภัณฑ์ที่นายทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของแอปเปิลคนปัจจุบัน ลูกศิษย์ก้นกุฏิของอัจฉริยะอย่างสตีฟ จ็อบส์ ผู้ล่วงลับ นำเสนอบนเวทีห้องประชุมใหญ่ของแอปเปิล อิงค์ ในเมืองคูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมานั้น กลับไม่ได้สร้างความแตกต่างระหว่างผลิตภัณฑ์ที่คาดกันว่าจะเป็นไอโฟน "ราคาถูก" กับไอโฟน "รุ่นใหม่" ได้อย่างชัดเจน
คลิปวิดีโองานเปิดตัวไอโฟน 5 ซี และ 5 เอส

ดูแล้วว่างานนี้นายคุกอาจจะเสียเหงื่อเสียน้ำลายเสียเปล่า แถมยังอาจถูกวิจารณ์อย่างรุนแรงจากนักวิเคราะห์และผู้ถือหุ้นแอปเปิลที่ต้องนั่งตาปริบๆ มองดูผลกำไรจากยอดขายไอโฟนรุ่นใหม่ลดลงไปเรื่อยๆ
ปัจจัยสำคัญคือ "ราคา" ที่ลูกค้าที่เป็นคนหน้าใหม่ที่อยากจะใช้ไอโฟนราคาถูก เพื่อเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกในร่มเงาของบริษัทแอปเปิลแหว่ง โดยหวังว่าราคาไอโฟน 5 ซี ที่นักวิเคราะห์ต่างฟันธงมาก่อนหน้านี้ว่า จะเป็นรุ่นราคาย่อมเยา ให้ลูกค้าหน้าใหม่ได้สัมผัสได้โดยง่าย ไม่ต้องยืดมือจนสุดกว่าจะคว้าไอโฟนในฝันได้สักเครื่อง
ไอโฟน 5 ซี (ภาพจาก: http://siliconangle.com/blog/2013/09/10/full-specs-iphone-5c-5s-launched-today/)
นักวิเคราะห์มั่นใจอย่างยิ่งว่า แอปเปิล อิงค์ ถึงเวลาต้องขยับตัวตัดสินใจผลิตไอโฟน "ลดเกรด" "ลดราคา" ออกมาในช่วงเวลานี้ เพราะดูจากตัวเลขที่บริษัทวิจัยการ์ทเนอร์เผยแพร่ยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลก พบว่า ในช่วงไตรมาสที่ 2 (ตั้งแต่เดือนเมษายน-กรกฎาคม) สมาร์ทโฟนจากที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ครองส่วนแบ่งตลาด 79% ส่วนไอโฟนมีส่วนแบ่งในตลาดเพียง 14.2% โดยในฝั่งแอนดรอยด์นั้น มีซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์เป็นผู้นำตลาด (และผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟนโลกนับจากยอดขาย) ที่เปิดตัวผลิตภัณฑใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมตลาดสมาร์ทโฟนราคาสูง ประสิทธิภาพสูง จนถึงสมาร์ทโฟนราคาถูกที่เหมาะกับผู้ใช้หน้าใหม่
แต่เมื่อนายคุกขึ้นเวทีที่เมืองคูเปอร์ติโน และประกาศวางจำหน่ายไอโฟน 5 ซี และ 5 เอส ออกมานั้น กลับทำให้ผู้ใช้หน้าใหม่ถึงกับหน้าหงาย และผิดหวังกับราคาที่ไอโฟน 5 ซี เปิดตัวออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดประเทศจีน ที่แอปเปิลคาดหวังว่าจะเพิ่มยอดขายขึ้นมาได้ และให้ความสำคัญถึงกับจัดการถ่ายทอดสดการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่จากหอประชุมของบริษัทมายังสถานที่จัดงานในแดนมังกรพร้อมๆ กัน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่แอปเปิลยอมเปลี่ยนประเพณีที่ปฏิบัติกันมาโดยตลอดในสมัยนายจ็อบส์ ที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สำนักงานใหญ่ของแอปเปิลเท่านั้น
ราคาจำหน่ายไอโฟน 5 ซี ในร้านค้าออนไลน์ของแอปเปิล สำหรับตลาดจีน อยู่ที่ 4,488 หยวน (ประมาณ 22,440 บาท) สำหรับรุ่น 16 กิกะไบต์ และสูงกว่าราคาไอโฟน 5 ซี ที่เปิดจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาที่ตั้งไว้ 549 ดอลลาร์ (ประมาณ 17,600 บาท) แม้ว่าจะถูกกว่าราคาไอโฟน 5 ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้ก็ตาม แต่ความคาดหวังของลูกค้านั้น "ต่างกัน"
ทันทีที่มีการประกาศราคาจำหน่ายไอโฟน 5 ซี ในตลาดจีน ผู้บริโภคแดนมังกรก็สะท้อนเสียงออกมาผ่านทางเว็บไซต์ซิน่า เว่ยป๋อ (คล้ายกับทวิตเตอร์ภาคภาษาจีน) กันหลากหลาย แต่เป็นไปในทางเดียวกันว่า "คิดว่าไอโฟน 5 ซี จะมีราคาถูกกว่านี้" หรือ "นี่หรือไอโฟนราคาถูก" และ "ผมยังขายไตได้ไม่มากเท่าราคานี้เลย" ซึ่งเป็นเสียงในเชิงลบกับไอโฟน 5 ซี ที่มีบอดี้เป็นพลาสติก และใช้เทคโนโลยีเทียบเท่ากับไอโฟน 5
ปัญหาส่วนหนึ่งของแอปเปิลก็คือ บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สายในแดนมังกรยังไม่มีการแข่งขันกันรุนแรงเท่ากับการแข่งขันในสหรัฐอเมริกาหรือยุโรป ทำให้ผู้ให้บริการเครือข่ายจึงไม่ลงมาเล่นสงครามราคากับเครื่องไอโฟน 5 ซี นอกจากนั้น ชาวจีนยังมีทางเลือกอื่นๆ มากมายที่จะใช้สมาร์ทโฟนราคาถูก เพราะจีนเป็นแหล่งผลิตสมาร์ทโฟนและฟีเจอร์โฟนแทบทุกแบรนด์ในโลก และยังมีแบรนด์จีนออกจำหน่ายอีกด้วย ทำให้ไอโฟน 5 ซี จึงยังไม่มีราคาถูกมากนักในตลาดแดนมังกร
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองจีนก็น่าจะเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับตลาดไทยที่มีขนาดตลาดสมาร์ทโฟนเล็กกว่าแดนมังกรมาก จึงไม่น่าจะคาดหวังได้กับไอโฟน 5 ซี ที่หลายคนกระเหี้ยนกระหือรืออยากจะเห็นป้ายราคาไม่เกิน 10,000 บาท
และเป็นเครื่องสะท้อนได้เป็นอย่างดีว่า ทุกวันนี้ แอปเปิล อิงค์ "จม" ไม่ลง ไม่สามารถลดเกรดแบรนด์ระดับพรีเมียมของตนเองมาแข่งกับสมาร์ทโฟนในราคาต่ำลงได้อย่างแท้จริง ซึ่งเป็นข้อด้อยสำคัญของแอปเปิล อิงค์ ที่นายจ็อบส์สร้างขึ้นมาเสียเลิศหรู ทำให้ยากที่จะแข่งขันในตลาดอื่นได้นอกจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม ที่นับวันส่วนแบ่งตลาดจะลดลงไปเรื่อยๆ เพราะคู่แข่งอย่างซัมซุงมีสินค้าระดับพรีเมียมที่มีผลทดสอบระบุว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่าไอโฟนออกมาเนืองๆ
เมื่อปล่อยหมัดเด็ดออกมาแล้ว แต่ดูแล้วหมัดนี้อาจจะไม่เด็ดมากนัก ก็เป็นการบ้านที่นายทิม คุก จะต้องแก้ไขกันต่อไป มิเช่นนั้นแอปเปิล อิงค์ อาจจะกลับไปสู่ยุคมืดเหมือนกับช่วง 20 ปีที่แล้วก็เป็นได้
ไซเบอร์แบต
ถึงวันที่แอปเปิล 'จม' ... ไม่ลง
ผู้บริหารของแอปเปิล อิงค์ ต่างรู้ดีอยู่แก่ใจว่า ถ้าบริษัทไม่ผลิตสมาร์ทโฟนราคาถูกออกมาจำหน่ายในตลาด ก็ต้องถูกคู่แข่งที่มาแรงแซงทางโค้งแอปเปิลไปหลายขุมอย่างซัมซุงครอบครองตลาดสมาร์ทโฟนไปทั้งหมดแน่ แต่ผลิตภัณฑ์ที่นายทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของแอปเปิลคนปัจจุบัน ลูกศิษย์ก้นกุฏิของอัจฉริยะอย่างสตีฟ จ็อบส์ ผู้ล่วงลับ นำเสนอบนเวทีห้องประชุมใหญ่ของแอปเปิล อิงค์ ในเมืองคูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมานั้น กลับไม่ได้สร้างความแตกต่างระหว่างผลิตภัณฑ์ที่คาดกันว่าจะเป็นไอโฟน "ราคาถูก" กับไอโฟน "รุ่นใหม่" ได้อย่างชัดเจน
คลิปวิดีโองานเปิดตัวไอโฟน 5 ซี และ 5 เอส
ดูแล้วว่างานนี้นายคุกอาจจะเสียเหงื่อเสียน้ำลายเสียเปล่า แถมยังอาจถูกวิจารณ์อย่างรุนแรงจากนักวิเคราะห์และผู้ถือหุ้นแอปเปิลที่ต้องนั่งตาปริบๆ มองดูผลกำไรจากยอดขายไอโฟนรุ่นใหม่ลดลงไปเรื่อยๆ
ปัจจัยสำคัญคือ "ราคา" ที่ลูกค้าที่เป็นคนหน้าใหม่ที่อยากจะใช้ไอโฟนราคาถูก เพื่อเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกในร่มเงาของบริษัทแอปเปิลแหว่ง โดยหวังว่าราคาไอโฟน 5 ซี ที่นักวิเคราะห์ต่างฟันธงมาก่อนหน้านี้ว่า จะเป็นรุ่นราคาย่อมเยา ให้ลูกค้าหน้าใหม่ได้สัมผัสได้โดยง่าย ไม่ต้องยืดมือจนสุดกว่าจะคว้าไอโฟนในฝันได้สักเครื่อง
ไอโฟน 5 ซี (ภาพจาก: http://siliconangle.com/blog/2013/09/10/full-specs-iphone-5c-5s-launched-today/)
นักวิเคราะห์มั่นใจอย่างยิ่งว่า แอปเปิล อิงค์ ถึงเวลาต้องขยับตัวตัดสินใจผลิตไอโฟน "ลดเกรด" "ลดราคา" ออกมาในช่วงเวลานี้ เพราะดูจากตัวเลขที่บริษัทวิจัยการ์ทเนอร์เผยแพร่ยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลก พบว่า ในช่วงไตรมาสที่ 2 (ตั้งแต่เดือนเมษายน-กรกฎาคม) สมาร์ทโฟนจากที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ครองส่วนแบ่งตลาด 79% ส่วนไอโฟนมีส่วนแบ่งในตลาดเพียง 14.2% โดยในฝั่งแอนดรอยด์นั้น มีซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์เป็นผู้นำตลาด (และผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟนโลกนับจากยอดขาย) ที่เปิดตัวผลิตภัณฑใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมตลาดสมาร์ทโฟนราคาสูง ประสิทธิภาพสูง จนถึงสมาร์ทโฟนราคาถูกที่เหมาะกับผู้ใช้หน้าใหม่
แต่เมื่อนายคุกขึ้นเวทีที่เมืองคูเปอร์ติโน และประกาศวางจำหน่ายไอโฟน 5 ซี และ 5 เอส ออกมานั้น กลับทำให้ผู้ใช้หน้าใหม่ถึงกับหน้าหงาย และผิดหวังกับราคาที่ไอโฟน 5 ซี เปิดตัวออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดประเทศจีน ที่แอปเปิลคาดหวังว่าจะเพิ่มยอดขายขึ้นมาได้ และให้ความสำคัญถึงกับจัดการถ่ายทอดสดการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่จากหอประชุมของบริษัทมายังสถานที่จัดงานในแดนมังกรพร้อมๆ กัน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่แอปเปิลยอมเปลี่ยนประเพณีที่ปฏิบัติกันมาโดยตลอดในสมัยนายจ็อบส์ ที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สำนักงานใหญ่ของแอปเปิลเท่านั้น
ราคาจำหน่ายไอโฟน 5 ซี ในร้านค้าออนไลน์ของแอปเปิล สำหรับตลาดจีน อยู่ที่ 4,488 หยวน (ประมาณ 22,440 บาท) สำหรับรุ่น 16 กิกะไบต์ และสูงกว่าราคาไอโฟน 5 ซี ที่เปิดจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาที่ตั้งไว้ 549 ดอลลาร์ (ประมาณ 17,600 บาท) แม้ว่าจะถูกกว่าราคาไอโฟน 5 ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้ก็ตาม แต่ความคาดหวังของลูกค้านั้น "ต่างกัน"
ทันทีที่มีการประกาศราคาจำหน่ายไอโฟน 5 ซี ในตลาดจีน ผู้บริโภคแดนมังกรก็สะท้อนเสียงออกมาผ่านทางเว็บไซต์ซิน่า เว่ยป๋อ (คล้ายกับทวิตเตอร์ภาคภาษาจีน) กันหลากหลาย แต่เป็นไปในทางเดียวกันว่า "คิดว่าไอโฟน 5 ซี จะมีราคาถูกกว่านี้" หรือ "นี่หรือไอโฟนราคาถูก" และ "ผมยังขายไตได้ไม่มากเท่าราคานี้เลย" ซึ่งเป็นเสียงในเชิงลบกับไอโฟน 5 ซี ที่มีบอดี้เป็นพลาสติก และใช้เทคโนโลยีเทียบเท่ากับไอโฟน 5
ปัญหาส่วนหนึ่งของแอปเปิลก็คือ บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สายในแดนมังกรยังไม่มีการแข่งขันกันรุนแรงเท่ากับการแข่งขันในสหรัฐอเมริกาหรือยุโรป ทำให้ผู้ให้บริการเครือข่ายจึงไม่ลงมาเล่นสงครามราคากับเครื่องไอโฟน 5 ซี นอกจากนั้น ชาวจีนยังมีทางเลือกอื่นๆ มากมายที่จะใช้สมาร์ทโฟนราคาถูก เพราะจีนเป็นแหล่งผลิตสมาร์ทโฟนและฟีเจอร์โฟนแทบทุกแบรนด์ในโลก และยังมีแบรนด์จีนออกจำหน่ายอีกด้วย ทำให้ไอโฟน 5 ซี จึงยังไม่มีราคาถูกมากนักในตลาดแดนมังกร
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองจีนก็น่าจะเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับตลาดไทยที่มีขนาดตลาดสมาร์ทโฟนเล็กกว่าแดนมังกรมาก จึงไม่น่าจะคาดหวังได้กับไอโฟน 5 ซี ที่หลายคนกระเหี้ยนกระหือรืออยากจะเห็นป้ายราคาไม่เกิน 10,000 บาท
และเป็นเครื่องสะท้อนได้เป็นอย่างดีว่า ทุกวันนี้ แอปเปิล อิงค์ "จม" ไม่ลง ไม่สามารถลดเกรดแบรนด์ระดับพรีเมียมของตนเองมาแข่งกับสมาร์ทโฟนในราคาต่ำลงได้อย่างแท้จริง ซึ่งเป็นข้อด้อยสำคัญของแอปเปิล อิงค์ ที่นายจ็อบส์สร้างขึ้นมาเสียเลิศหรู ทำให้ยากที่จะแข่งขันในตลาดอื่นได้นอกจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม ที่นับวันส่วนแบ่งตลาดจะลดลงไปเรื่อยๆ เพราะคู่แข่งอย่างซัมซุงมีสินค้าระดับพรีเมียมที่มีผลทดสอบระบุว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่าไอโฟนออกมาเนืองๆ
เมื่อปล่อยหมัดเด็ดออกมาแล้ว แต่ดูแล้วหมัดนี้อาจจะไม่เด็ดมากนัก ก็เป็นการบ้านที่นายทิม คุก จะต้องแก้ไขกันต่อไป มิเช่นนั้นแอปเปิล อิงค์ อาจจะกลับไปสู่ยุคมืดเหมือนกับช่วง 20 ปีที่แล้วก็เป็นได้
ไซเบอร์แบต