เป็นคำถามของน้องที่ทำงานด้วยกันค่ะ ว่าง ๆ แล้วก็มักจะมีเรื่องสัพเพเหระมาคุยกันตามประสาสาวคานทองนิเวศน์ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ส่งผลกระทบกับน้องโดยตรงแต่น้องเป็นผู้รับรู้ในเหตุการณ์และติดอยู่ในใจ เออ เนาะ จะทำยังไง
น้องเล่าว่าตนเองมีกลุ่มเพื่อนสนิทที่นัดกินข้าวบ่อย ๆ ด้วยกันอยู่กลุ่มหนึ่ง เพื่อนสนิทคนหนึ่งในกลุ่มนี้เป็นสาวโปรไฟล์ดีหน้าตาดีฐานะดีและเป็นเพื่อนที่ดีมากคนหนึ่ง เป็นคนมีน้ำใจต่อเพื่อน ๆ แต่วันหนึ่งน้องเกิดไปพบทัศนคติอย่างหนึ่งของเพื่อนคนนี้เข้า ทำเอาน้องหลอนไปนานพอสมควร เจอใครก็ถามคำถามนี้ คงติดในใจน้องเขาจริง ๆ
เพื่อนคนนี้ทำงานที่หน่วยงานมีชื่อแห่งหนึ่ง ซึ่งมีเพื่อนฝูงคนรู้จักที่สำเร็จการศึกษาในทางเดียวกันเข้าไปทำงานมากพอสมควร คนที่จบสายเราสังคมการงานค่อนข้างจะแคบหน่อย เดินไปทางไหนที่ตรงกับสายงานก็มักเจอคนคุ้นหน้ากันน่ะนะ น้องเราจึงได้รู้ว่าเพื่อนคนนี้กำลังพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ มากกว่าเพื่อนแต่ก็ยังไม่ใช่แฟนประมาณนั้น
ที่มันคาใจน้องเราก็เพราะว่า น้องเราก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้มีแฟนอยู่แล้วล่ะ ไม่ใช่คนในแวดวงเดียวกัน เขาทำงานคนละที่ น้องเราเคยเห็นทั้งคู่นะทั้งผู้ชายและแฟนแต่ไม่ได้สนิทสนมมากนัก ตัวผู้ชายเห็นหน้าค่าตากันบ้างเพราะเรียนมาอย่างเดียวกันแต่คนละที่ เคยเห็นหน้ากันตอนฝึกงาน ฝึกคนละแผนกแต่ผู้ชายนั้นดังพอควรเพราะหน้าตาดี ส่วนผู้หญิงแฟนเขาก็เห็นมาตั้งแต่สมัยฝึกงานน่ะแหละ เห็นว่าบางทีไปรับหรือมารอกัน
ตอนแรกน้องเห็นเพื่อนไปไหนมาไหนกับผู้ชายคนนี้จากเป็นกลุ่มก็กลายเป็นสองต่อสองหลายครั้งเข้า ก็ยังไม่ได้ถาม คิดว่าคงเลิกกับแฟนคนนั้นมาคบกับเพื่อนรึเปล่า แต่ปรากฎว่าในขณะเดียวกันก็ยังเห็นเขาอยู่กับแฟนเขาดีนี่นาไปรับไปส่งกินข้าวดูหนังอะไรกันเหมือนเดิมนี่ ส่วนตัวเพื่อนของน้องก็ยิ้มแย้มโอภาปราศัยกับผู้ชายและแฟนของผู้ชายอย่างดี น้องเลยเกิดสงสัยว่ามันยังไง ? มีอะไรหรือไม่มีอะไร ? แต่ก็ไม่ได้ถามนะถือว่าชีวิตเพื่อน
กลายเป็นว่าเพื่อนของน้องก็เล่าให้ฟังเองในวงสนทนาวันหนึ่งเมื่อพูดถึงเรื่องแฟนว่ากำลังดู ๆ ผู้ชายคนนี้อยู่ ยังไม่ถึงกับแฟนนะ น้องก็เลยถือโอกาสช่วยคุย(กึ่ง ๆ เตือน)ว่า เออ ... คุ้น ๆ นะ ไม่ใช่ว่าเขามีแฟนอยู่แล้วเหรอ คนนี้ ? แล้วยังไงล่ะมีได้ก็เลิกได้ เพื่อนของน้องบอกแบบนี้ ในเมื่อเราสวยกว่า เก่งกว่า ฐานะดีกว่า การงานก็ดีกว่าแฟนเขา มันจะผิดอะไรที่เขาจะมาชอบเรา เราไม่ได้ทำอะไรเลยเพียงแค่คุณสมบัติดีกว่าเท่านั้นเอง จะแปลกอะไรถ้าผู้ชายจะมาถูกใจ
น้องเราก็หลอนกับแนวคิดของเพื่อนอันนี้มาก เหย ... เธอก็รู้จักเขาสองคนนะ ก็ยิ้ม ๆ แย้ม ๆ คุยกันดีต่อหน้านี่นา แล้วลับหลังทำไมเป็นยังงี้อ่ะ พาตัวเข้าใกล้ชิดตีเนียน ๆ ไป ผู้ชายโปรไฟล์โอเคหน้าตาดี แฟนเขาเองก็ไม่ได้ขี้เหร่นะ น่ารักและมีการศึกษาตามสมควร เหมือนเพื่อนจะพยายามสร้างสถานการณ์ให้ผู้ชายเกิดหวั่นไหว ที่อยู่กันสองต่อสองหลัง ๆ นี่ ไม่ได้ไปเที่ยวเฮฮานะสองต่อสองที่ว่า เพื่อนน้องเอาเรื่องงานมาอ้างล้วน ๆ ทำงานแผนกเดียวกัน บอกเองว่าก็ทำงานด้วยและกะหว่านเสน่ห์หน่อย ๆ ด้วยหวังผล ซึ่งก็รู้สึกว่าจากความใกล้ชิดผลตรงนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายและแฟนก็ระหองระแหงแหละแต่ก็ยังไม่ได้เลิกกันนะ
หลังจากเล่าจบ ... น้องถามว่า พี่ ... ถ้าพี่เจอแบบนี้จะทำไงอ่ะ เราก็ตอบว่า เออ .. ไอ้เรามันก็ยังไม่มีแฟน คิดไม่ทันเหมือนกัน น้องบอกว่าเพื่อนคนนี้ ในฐานะเพื่อนเป็นเพื่อนที่ดีมากนะ มีน้ำใจกับเพื่อนฝูง แต่ในฐานะผู้หญิงที่มีแฟน พูดจริง ๆ นะ มีแฟนก็ไม่อยากให้แฟนรู้จักเพื่อนคนนี้เลย พอได้ยินแนวคิดแบบนี้แล้ว ซึ่งถ้าแฟนเราไปจริง ๆ จะทำยังไงอ่ะพี่ เป็นพี่พี่จะทำยังไง จะจัดการกับผู้หญิงแบบนี้ยังไง น้องก็ถามย้ำมา
ในฐานะคนโสด ไม่รู้จะตอบยังไง แฟนไม่เคยมี ได้แต่ตอบไปแบบโลกสวย (ของคนโสด) เป็นแฟนกันก็ต้องเชื่อใจไว้ใจแต่อีกทางหนึ่งก็ต้องระมัดระวัง ที่จะต้องจัดการคงไม่ใช่ผู้หญิงมั้ง คงต้องถามแฟนเราน่ะ แต่ก่อนอื่นต้องถามตัวเราเองก่อนคิดให้ถ้วนถี่ถึงผลได้เสีย แล้วค่อยถามแฟนให้เคลียร์ถึงเหตุการณ์ที่ได้รับทราบมา ค่อย ๆ พูด ไม่คาดคั้นก็ถามไปปกติ ถ้าความสัมพันธ์กับเรายังดีและมีค่า คิดว่าเขาก็คิดจะรักษามันไว้ไม่มากก็น้อยล่ะ จากนั้นก็ลองให้เขาไปจัดการกับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับผู้หญิงคนนั้นดู โดยเราอยู่ห่าง ๆ บีบมากก็เหมือนไล่เปล่า ๆ
อยากรู้ว่าผู้ที่มีแฟนแล้ว หรือ มีครอบครัวแล้ว จะจัดการกับปัญหาเช่นนี้อย่างไร ? และ อยากรู้ว่าคิดเห็นอย่างไรกับแนวคิดของผู้หญิงเพื่อนของน้องที่ทำงานเราคนนี้ ?
ปัญหาคาใจ :เมื่อถูกถามว่าถ้าเป็นพี่ ... พี่จะทำอย่างไร
น้องเล่าว่าตนเองมีกลุ่มเพื่อนสนิทที่นัดกินข้าวบ่อย ๆ ด้วยกันอยู่กลุ่มหนึ่ง เพื่อนสนิทคนหนึ่งในกลุ่มนี้เป็นสาวโปรไฟล์ดีหน้าตาดีฐานะดีและเป็นเพื่อนที่ดีมากคนหนึ่ง เป็นคนมีน้ำใจต่อเพื่อน ๆ แต่วันหนึ่งน้องเกิดไปพบทัศนคติอย่างหนึ่งของเพื่อนคนนี้เข้า ทำเอาน้องหลอนไปนานพอสมควร เจอใครก็ถามคำถามนี้ คงติดในใจน้องเขาจริง ๆ
เพื่อนคนนี้ทำงานที่หน่วยงานมีชื่อแห่งหนึ่ง ซึ่งมีเพื่อนฝูงคนรู้จักที่สำเร็จการศึกษาในทางเดียวกันเข้าไปทำงานมากพอสมควร คนที่จบสายเราสังคมการงานค่อนข้างจะแคบหน่อย เดินไปทางไหนที่ตรงกับสายงานก็มักเจอคนคุ้นหน้ากันน่ะนะ น้องเราจึงได้รู้ว่าเพื่อนคนนี้กำลังพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ มากกว่าเพื่อนแต่ก็ยังไม่ใช่แฟนประมาณนั้น
ที่มันคาใจน้องเราก็เพราะว่า น้องเราก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้มีแฟนอยู่แล้วล่ะ ไม่ใช่คนในแวดวงเดียวกัน เขาทำงานคนละที่ น้องเราเคยเห็นทั้งคู่นะทั้งผู้ชายและแฟนแต่ไม่ได้สนิทสนมมากนัก ตัวผู้ชายเห็นหน้าค่าตากันบ้างเพราะเรียนมาอย่างเดียวกันแต่คนละที่ เคยเห็นหน้ากันตอนฝึกงาน ฝึกคนละแผนกแต่ผู้ชายนั้นดังพอควรเพราะหน้าตาดี ส่วนผู้หญิงแฟนเขาก็เห็นมาตั้งแต่สมัยฝึกงานน่ะแหละ เห็นว่าบางทีไปรับหรือมารอกัน
ตอนแรกน้องเห็นเพื่อนไปไหนมาไหนกับผู้ชายคนนี้จากเป็นกลุ่มก็กลายเป็นสองต่อสองหลายครั้งเข้า ก็ยังไม่ได้ถาม คิดว่าคงเลิกกับแฟนคนนั้นมาคบกับเพื่อนรึเปล่า แต่ปรากฎว่าในขณะเดียวกันก็ยังเห็นเขาอยู่กับแฟนเขาดีนี่นาไปรับไปส่งกินข้าวดูหนังอะไรกันเหมือนเดิมนี่ ส่วนตัวเพื่อนของน้องก็ยิ้มแย้มโอภาปราศัยกับผู้ชายและแฟนของผู้ชายอย่างดี น้องเลยเกิดสงสัยว่ามันยังไง ? มีอะไรหรือไม่มีอะไร ? แต่ก็ไม่ได้ถามนะถือว่าชีวิตเพื่อน
กลายเป็นว่าเพื่อนของน้องก็เล่าให้ฟังเองในวงสนทนาวันหนึ่งเมื่อพูดถึงเรื่องแฟนว่ากำลังดู ๆ ผู้ชายคนนี้อยู่ ยังไม่ถึงกับแฟนนะ น้องก็เลยถือโอกาสช่วยคุย(กึ่ง ๆ เตือน)ว่า เออ ... คุ้น ๆ นะ ไม่ใช่ว่าเขามีแฟนอยู่แล้วเหรอ คนนี้ ? แล้วยังไงล่ะมีได้ก็เลิกได้ เพื่อนของน้องบอกแบบนี้ ในเมื่อเราสวยกว่า เก่งกว่า ฐานะดีกว่า การงานก็ดีกว่าแฟนเขา มันจะผิดอะไรที่เขาจะมาชอบเรา เราไม่ได้ทำอะไรเลยเพียงแค่คุณสมบัติดีกว่าเท่านั้นเอง จะแปลกอะไรถ้าผู้ชายจะมาถูกใจ
น้องเราก็หลอนกับแนวคิดของเพื่อนอันนี้มาก เหย ... เธอก็รู้จักเขาสองคนนะ ก็ยิ้ม ๆ แย้ม ๆ คุยกันดีต่อหน้านี่นา แล้วลับหลังทำไมเป็นยังงี้อ่ะ พาตัวเข้าใกล้ชิดตีเนียน ๆ ไป ผู้ชายโปรไฟล์โอเคหน้าตาดี แฟนเขาเองก็ไม่ได้ขี้เหร่นะ น่ารักและมีการศึกษาตามสมควร เหมือนเพื่อนจะพยายามสร้างสถานการณ์ให้ผู้ชายเกิดหวั่นไหว ที่อยู่กันสองต่อสองหลัง ๆ นี่ ไม่ได้ไปเที่ยวเฮฮานะสองต่อสองที่ว่า เพื่อนน้องเอาเรื่องงานมาอ้างล้วน ๆ ทำงานแผนกเดียวกัน บอกเองว่าก็ทำงานด้วยและกะหว่านเสน่ห์หน่อย ๆ ด้วยหวังผล ซึ่งก็รู้สึกว่าจากความใกล้ชิดผลตรงนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายและแฟนก็ระหองระแหงแหละแต่ก็ยังไม่ได้เลิกกันนะ
หลังจากเล่าจบ ... น้องถามว่า พี่ ... ถ้าพี่เจอแบบนี้จะทำไงอ่ะ เราก็ตอบว่า เออ .. ไอ้เรามันก็ยังไม่มีแฟน คิดไม่ทันเหมือนกัน น้องบอกว่าเพื่อนคนนี้ ในฐานะเพื่อนเป็นเพื่อนที่ดีมากนะ มีน้ำใจกับเพื่อนฝูง แต่ในฐานะผู้หญิงที่มีแฟน พูดจริง ๆ นะ มีแฟนก็ไม่อยากให้แฟนรู้จักเพื่อนคนนี้เลย พอได้ยินแนวคิดแบบนี้แล้ว ซึ่งถ้าแฟนเราไปจริง ๆ จะทำยังไงอ่ะพี่ เป็นพี่พี่จะทำยังไง จะจัดการกับผู้หญิงแบบนี้ยังไง น้องก็ถามย้ำมา
ในฐานะคนโสด ไม่รู้จะตอบยังไง แฟนไม่เคยมี ได้แต่ตอบไปแบบโลกสวย (ของคนโสด) เป็นแฟนกันก็ต้องเชื่อใจไว้ใจแต่อีกทางหนึ่งก็ต้องระมัดระวัง ที่จะต้องจัดการคงไม่ใช่ผู้หญิงมั้ง คงต้องถามแฟนเราน่ะ แต่ก่อนอื่นต้องถามตัวเราเองก่อนคิดให้ถ้วนถี่ถึงผลได้เสีย แล้วค่อยถามแฟนให้เคลียร์ถึงเหตุการณ์ที่ได้รับทราบมา ค่อย ๆ พูด ไม่คาดคั้นก็ถามไปปกติ ถ้าความสัมพันธ์กับเรายังดีและมีค่า คิดว่าเขาก็คิดจะรักษามันไว้ไม่มากก็น้อยล่ะ จากนั้นก็ลองให้เขาไปจัดการกับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับผู้หญิงคนนั้นดู โดยเราอยู่ห่าง ๆ บีบมากก็เหมือนไล่เปล่า ๆ
อยากรู้ว่าผู้ที่มีแฟนแล้ว หรือ มีครอบครัวแล้ว จะจัดการกับปัญหาเช่นนี้อย่างไร ? และ อยากรู้ว่าคิดเห็นอย่างไรกับแนวคิดของผู้หญิงเพื่อนของน้องที่ทำงานเราคนนี้ ?