ผมเริ่มสงสัยวิธีการสื่อสารของตัวเองน่าจะมีปัญหา

กระทู้สนทนา
อาจเป็นเพราะเป็นคนมีความรู้น้อย
อาจเป็นเพราะช่องว่างระหว่างชนชั้น
หรืออาจเป็นเพราะใช้ภาษายากเกินเข้าใจ

ดังนั้นจึงยังมีหลายคนเข้าใจว่าเป็นการด่ามาร์ค อวยปู บูชาแม้ว
ดังนั้นจึงยังมีหลายคนเข้าใจว่าเป็นการดิสเครดิตฝ่ายตรงข้าม เพื่อให้ฝ่ายตนดูดี
ดังนั้นจึงยังมีหลายคนเข้าใจว่ามองเห็นแต่ความผิดฝ่ายตรงข้าม ฝ่ายตัวเองมองไม่เห็น
ซ้ำร้ายยังมีหลายคนออกมาอบรมสั่งสอนให้ผมรับรู้ว่า ตอนนี้อีกฝ่ายเป็นฝ่ายค้านไม่ได้เป็นรัฐบาล
แล้วสรุปว่า ผมเป็นเพียงทีมงานที่ถูกจัดมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ

ทั้งๆที่เจตนาของผม
แค่ต้องการแยกแยะให้สังคมได้เห็นให้ชัดเจนขึ้น
แค่ต้องการเตือนสติให้สังคมได้ฉุกคิด
และแค่ต้องการฟื้นความจำให้กับสังคม ก็แค่นั้นเอง

เพราะความจริงแล้วการเมืองไทยตอนนี้ มันมีตัวเลือกแค่สองพรรคที่จะแข่งกันเป็นรัฐบาล มันมีแค่สองคนเท่านั้นที่จะแข่งกันเป็นนายกฯ
ไม่ใช่คุณยิ่งลักษณ์ ก็ต้องเป็น คุณอภิสิทธิ์ สองคนนี้เท่านั้น

นอกเสียจากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน อาจจะเป็นพจนานุกรม พระไตรปิฏกหรือแม้กระทั่งหนังสือสมบัติผู้ดีเล่มละไม่กี่บาท จนทำให้คุณยิ่งลักษณ์ต้องตกเก้าอี้อย่างกรณีของคุณสมัคร นายกฯก็อาจเป็นคุณเยาวภาก็ได้ นี่เป็นวิถีของระบอบประชาธิปไตย

ดังนั้นในขณะที่ฝ่ายเกลียดรัฐบาลพยายามจ้องจับผิดในทุกเรื่อง คัดค้านในทุกประเด็น กล่าวหาในทุกเวลา และยื่นฟ้องในทุกโอกาส แน่นอนครับ เป้าหมายชัดเจนก็คือต้องการล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพื่อสลับขั้วอำนาจมาเป็นของพรรค ปชป. ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของชาติ ไม่ใช่ประโยชน์ของประชาชนดังที่เข้าใจ

ผมก็รู้ หลายคนก็รู้ คนทั้งประเทศก็รู้ ถ้าใช้กระบวนปกติตามครรลองประชาธิปไตย อย่างไรเสียพรรคเพื่อไทยก็ได้กลับมาเป็นรัฐบาลเช่นเดิม แล้วการขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์จะมีประโยชน์ล่ะครับ นอกจากประเทศจะเสียเวลาและเสียโอกาสในการขับเคลื่อนไปข้างหน้า

ดังนั้นผมจึงพยายามสื่อสารให้สังคมได้ตระหนักต่างหากครับ ได้ตระหนักถึงรัฐบาลที่เคยมาจากค่ายทหาร ทำงานกันอย่างไร ลุแก่อำนาจแค่ไหน คอรัปชั่นก็มากมาย แถมยังเพิ่มความขัดแย้งกับการสังหารหมู่กลางกรุง จนแทบจะแยกประเทศออกมาเป็นสองฟากเป็นสองฝ่าย

หรือแม้แต่การเป็นฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ได้อย่างสุดโหลยโท่ย มีแต่ความเถื่อน มีแต่ความถ่อย แต่หาสาระไม่ได้ การตรวจสอบก็ไม่ได้ความ ไม่เคารพกฎระเบียบข้อบังคับ และยังไม่เคารพกติกาอีกต่างหาก ก็ขนาดเป็นฝ่ายค้านยังสอบตกจากการสำรวจของโพลต่างๆ ถ้าพรรคอย่างนี้จะเป็นรัฐบาลที่ดีได้ ก็แปลกล่ะจริงไหมครับ

สำหรับคุณอภิสิทธ์ที่เป็นถึงหัวหน้าพรรค เป็นถึงผู้นำฝ่ายค้าน แม้แต่ลูกพรรคของตัวเองยังไม่สามารถกำราบให้เชื่อฟังได้ แล้วจะสามารถทำให้รัฐมนตรีที่มาจากพรรคร่วมเชื่อฟังได้อย่างไร ซึ่งเราก็เคยเห็นมาแล้วว่า กฎเหล็ก 9 ข้อของคุณอภิสิทธิ์ในสมัยนั้น ล้วนแต่ตั้งขึ้นเพื่อให้ละเมิดโดยแท้ จนเกิดประโยค “เราจะทำอะไรได้ ก็ไม่ได้เป็นรัฐบาลพรรคเดียวนี่” อย่างนี้แล้วเรายังอยากให้ประเทศวุ่นวาย เพียงเพื่อให้คุณอภิสิทธ์กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้งหนึ่งอย่างนั้นหรือครับ ถามจริง?

ท่ามกลางการแย่งชิงอำนาจของสองพรรค ระหว่างพรรคหนึ่งที่มีอำนาจประชาชนคอยเกื้อหนุน กับ อีกพรรคหนึ่งมีอำมาตย์คอยค้ำจุน ผมจึงอยากให้สังคมชั่งใจอย่างมีสติ อย่าได้กลายเป็นกบเลือกนาย ที่สุดท้ายก็เลือกเอานกกระสามารับประทานตัวเองเสียหมดสระนะครับ

หรือถ้าจะเปรียบ ไม่มีพรรคไหนดีกว่ากัน หรือเลวทั้งคู่ เราก็ควรปล่อยให้เป็นไปตามครรลองของประชาธิปไตย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของประชาชนกำหนดทิศทางของประเทศด้วยตัวเอง ไม่ใช่ให้ใครไม่กี่คนมาตัดสินให้ ซึ่งสุดท้ายผลประโยชน์ก็จะตกกับกลุ่มคนเหล่านั้น ไม่ใช่ของประชาชนอย่างแน่นอน

ดังนั้นผมจึงเริ่มสงสัยตัวเองแล้วว่า ผมน่าจะสื่อสารไม่เป็นจริงๆ จึงมีหลายต่อหลายคนอ่านไม่เข้าใจ แล้วตีความไปว่า ผมแค่ต้องการ ด่ามาร์ค อวยปู บูชาแม้วเพียงเท่านั้น โดยไม่มองถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการบริหารของรัฐบาลชุดนี้ ทั้งๆที่ความจริงแล้ว มันไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่านี้ต่างหากครับ โปรดเข้าใจด้วย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่