" เสรีภาพ ทุกตารางนิ้ว ในแดนธรรม
ถูกฉกฉวย วาทกรรม นำมาอ้าง
เสรีภาพ สุดสนุก ทุกตาราง
คือทุกอย่าง ต้องทำได้ ตามใจกู
ประวัติโดม ต่อสู้ เพื่อผู้อื่น
ค่อยหายกลืน กับคืนวัน ที่ผันผ่าน
รักมวลชน ห่วงสังคม อุดมการณ์
เหลือเพียงแต่ ตำนาน เล่าขานมา
ปัญหา สาธารณะ ประเทศไทย
เลือนหายไป จากสำนึก นักศึกษา
เน้นที่แปลก แหวกแรง แข่งลีลา
ใครเกรียนกว่า ถือว่าล้ำ นำสังคม"
โดยสมคิด เลิศไพฑูรย์ 12 กันยายน 2556
อธิการบดีของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
......................................................
ที่จริงจะไม่เอามาเป็นประเด็นอะไรแล้วน่ะ คิดว่าผ่านๆไปเถอะ
แต่เฮ้ย!!!!! มาติดใจตรงบทสุดท้ายของกลอน ฟังแล้วจี๊ด ไปถึงลำไส้ใหญ้ ทะลุไปถึงริดสีดวงที่เป็นอยู่ มันอดไม่ไหว เลยขอหน่อยแล้วกัน
.............
ขอเล่าก่อนว่าในฐานะที่ก็ผ่านจุดนั้นมาแล้ว พยายามที่จะขอเสรีภาพที่จะไม่แต่งกยในชุดนักศึกษาเข้าเรียน ก็ด้วยเหตุผลพื้นๆแค่ว่า "กูใช้สมองเรียนไม่ได้เรียนเก่งเพราะชุดนักศึกษา" ซึ่งก็เป็นความได้เปรียบที่เรียนคณะศิลปศาสตร์ ใช้ชื่อในภาษาอังกฤษคือ Liberal art ทำให้อาจารย์บางท่านก็ยอมรับไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องเสียหายอะไร พร้อมกับย้ำมาด้วยว่า "จะใส่ชุดอะไรมาเรียนก็แล้วแต่เถอะ แค่พวกคุณเข้าเรียนก็พอ"
..............
ครั้นก็ไม่ใช่อาจารย์ทุกท่านหรือทุกคณะจะคิดเหมือนกันหมด บางวิชาก็ต้องแต่งกาย ชนิดที่ว่า เข็มขัด หัวเข็มขัด เสื้อทับในรองเท้าให้ถูกตามระเบียบมหาวิทยาลัยกันเลยทีเดียว มิเช่นนั้น ไม่ให้เข้าเรียน ไม่ให้เซ็นชื่อ คือตอนนั้นก็ทำก็แต่ง แม้จะรู้สึกขัดใจ แต่เคยเห็นตัวอย่างเพื่อนที่ไม่เห็นด้วยแล้ว ราคาที่จ่ายมันไมุ่คุ้มกับเกรดของตัวเองที่แสนจะน้อยนิดอยู่แล้ว
..............
การเรียกร้องเสรีภาพที่จะไม่แต่งกายชุดนักศึกษาเข้าเรียน ในปัจจุบัน มันก็เหมือนพล็อตเรื่องเดิมแค่เปลี่ยนชื่อนางเอกพระเอกใหม่ ซึ่งเราก็รู้อยู๋แล้วว่าตอนจบมันจะลงท้ายยังไง แต่สิ่งที่เราเดาไม่ได้คือระหว่างเรื่อง อาจมีการเสริมตัวละครใหม่ๆลงไป ให้สนุกเพิ่มมากขึ้นตามยุคตามสมัย กระนั้นแล้วตอนจบพระนางมันก็ได้กันอยู่ดี เปรียบกับประเด็นเรื่องชุดนักศึกษาที่เห็นกันอยู่ คือต่อให้ออกมาเรียกร้อง พิมพ์โปสเตอร์ เป็นข่าวครึกโครม ออกทีวี ต่อให้มีนักศึกษาบางกลุ่มมาชุมนุม เป็นเรื่ืองเป็นราว ท้ายที่สุดแล้วตอนจบ สิ่งที่เกิดขึ้นต่อสังคมก็คือ นักศึกษากลุ่มนั้นหรือคนนั้น โดนตราหน้าว่า "เป็นพวกขบถต่อความดีงามของประเทศ เป็นพวกแปลก เป็นพวกเกรียน แค่อยากดัง"
..............
สิ่งที่ อั้ม เนโกะ คิดและทำนั้น ก็เป็นสิ่งที่เหล่าชาว Liberal ทำมาหมดแล้ว แต่ก็อย่างว่า มาไกลสุดได้ให้สังคมได้ฉุกคิด หรือแค่สั่นคลอนโครงสร้างของสังคม ไม่มีทางเลยที่มันจะพังทลายลง แล้วยิ่งท่านอธิการออกมาเขียนบทกลอนเช่นนี้ มันยิ่งตอกย้ำเราว่า การต่อสู้ของเราจะมาได้ไกลซักแค่ไหน???
..............
ถามว่าเจ็บใจทำไม??? กับบทกลอน
เจ็บสิค่ะ เพราะสุดท้าย กู (มีแนวคิดแบบอั้ม เนโกะ) ก็ยังถูกมองว่า
เป็นพวก "แปลก แหวก แรง และเกรียน" โดยที่ทำไมไม่มองว่าสิ่งที่ทำสิ่งที่คิดเป็นอีกความคิดเห็นที่สามารถแสดงออกได้ "โดยไม่แปลก" และ" ไม่แตกต่าง" เช่นกัน
จะยัดเยียดความแปลกให้กูไปถึงไหน ไอ้คนปกติ ??????
..............
โดย Sagurana' 12 กันยายน 2556
ดิฉันยังแปลกไม่พอใช่ไหมค่ะ ????
ถูกฉกฉวย วาทกรรม นำมาอ้าง
เสรีภาพ สุดสนุก ทุกตาราง
คือทุกอย่าง ต้องทำได้ ตามใจกู
ประวัติโดม ต่อสู้ เพื่อผู้อื่น
ค่อยหายกลืน กับคืนวัน ที่ผันผ่าน
รักมวลชน ห่วงสังคม อุดมการณ์
เหลือเพียงแต่ ตำนาน เล่าขานมา
ปัญหา สาธารณะ ประเทศไทย
เลือนหายไป จากสำนึก นักศึกษา
เน้นที่แปลก แหวกแรง แข่งลีลา
ใครเกรียนกว่า ถือว่าล้ำ นำสังคม"
โดยสมคิด เลิศไพฑูรย์ 12 กันยายน 2556
อธิการบดีของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
......................................................
ที่จริงจะไม่เอามาเป็นประเด็นอะไรแล้วน่ะ คิดว่าผ่านๆไปเถอะ
แต่เฮ้ย!!!!! มาติดใจตรงบทสุดท้ายของกลอน ฟังแล้วจี๊ด ไปถึงลำไส้ใหญ้ ทะลุไปถึงริดสีดวงที่เป็นอยู่ มันอดไม่ไหว เลยขอหน่อยแล้วกัน
.............
ขอเล่าก่อนว่าในฐานะที่ก็ผ่านจุดนั้นมาแล้ว พยายามที่จะขอเสรีภาพที่จะไม่แต่งกยในชุดนักศึกษาเข้าเรียน ก็ด้วยเหตุผลพื้นๆแค่ว่า "กูใช้สมองเรียนไม่ได้เรียนเก่งเพราะชุดนักศึกษา" ซึ่งก็เป็นความได้เปรียบที่เรียนคณะศิลปศาสตร์ ใช้ชื่อในภาษาอังกฤษคือ Liberal art ทำให้อาจารย์บางท่านก็ยอมรับไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องเสียหายอะไร พร้อมกับย้ำมาด้วยว่า "จะใส่ชุดอะไรมาเรียนก็แล้วแต่เถอะ แค่พวกคุณเข้าเรียนก็พอ"
..............
ครั้นก็ไม่ใช่อาจารย์ทุกท่านหรือทุกคณะจะคิดเหมือนกันหมด บางวิชาก็ต้องแต่งกาย ชนิดที่ว่า เข็มขัด หัวเข็มขัด เสื้อทับในรองเท้าให้ถูกตามระเบียบมหาวิทยาลัยกันเลยทีเดียว มิเช่นนั้น ไม่ให้เข้าเรียน ไม่ให้เซ็นชื่อ คือตอนนั้นก็ทำก็แต่ง แม้จะรู้สึกขัดใจ แต่เคยเห็นตัวอย่างเพื่อนที่ไม่เห็นด้วยแล้ว ราคาที่จ่ายมันไมุ่คุ้มกับเกรดของตัวเองที่แสนจะน้อยนิดอยู่แล้ว
..............
การเรียกร้องเสรีภาพที่จะไม่แต่งกายชุดนักศึกษาเข้าเรียน ในปัจจุบัน มันก็เหมือนพล็อตเรื่องเดิมแค่เปลี่ยนชื่อนางเอกพระเอกใหม่ ซึ่งเราก็รู้อยู๋แล้วว่าตอนจบมันจะลงท้ายยังไง แต่สิ่งที่เราเดาไม่ได้คือระหว่างเรื่อง อาจมีการเสริมตัวละครใหม่ๆลงไป ให้สนุกเพิ่มมากขึ้นตามยุคตามสมัย กระนั้นแล้วตอนจบพระนางมันก็ได้กันอยู่ดี เปรียบกับประเด็นเรื่องชุดนักศึกษาที่เห็นกันอยู่ คือต่อให้ออกมาเรียกร้อง พิมพ์โปสเตอร์ เป็นข่าวครึกโครม ออกทีวี ต่อให้มีนักศึกษาบางกลุ่มมาชุมนุม เป็นเรื่ืองเป็นราว ท้ายที่สุดแล้วตอนจบ สิ่งที่เกิดขึ้นต่อสังคมก็คือ นักศึกษากลุ่มนั้นหรือคนนั้น โดนตราหน้าว่า "เป็นพวกขบถต่อความดีงามของประเทศ เป็นพวกแปลก เป็นพวกเกรียน แค่อยากดัง"
..............
สิ่งที่ อั้ม เนโกะ คิดและทำนั้น ก็เป็นสิ่งที่เหล่าชาว Liberal ทำมาหมดแล้ว แต่ก็อย่างว่า มาไกลสุดได้ให้สังคมได้ฉุกคิด หรือแค่สั่นคลอนโครงสร้างของสังคม ไม่มีทางเลยที่มันจะพังทลายลง แล้วยิ่งท่านอธิการออกมาเขียนบทกลอนเช่นนี้ มันยิ่งตอกย้ำเราว่า การต่อสู้ของเราจะมาได้ไกลซักแค่ไหน???
..............
ถามว่าเจ็บใจทำไม??? กับบทกลอน
เจ็บสิค่ะ เพราะสุดท้าย กู (มีแนวคิดแบบอั้ม เนโกะ) ก็ยังถูกมองว่า
เป็นพวก "แปลก แหวก แรง และเกรียน" โดยที่ทำไมไม่มองว่าสิ่งที่ทำสิ่งที่คิดเป็นอีกความคิดเห็นที่สามารถแสดงออกได้ "โดยไม่แปลก" และ" ไม่แตกต่าง" เช่นกัน
จะยัดเยียดความแปลกให้กูไปถึงไหน ไอ้คนปกติ ??????
..............
โดย Sagurana' 12 กันยายน 2556