หรือว่า "เวลา" จะเป็นเครื่องมือแก้ปัญหาเรื่องดราม่าได้ดีที่สุด

กระทู้สนทนา
เท่าที่สังเกตุเรื่องดราม่ามาหลายกรณี
เวลาสามารถแก้ปัญหาเรื่องดราม่าได้ดีที่สุด

เช่น
กรณีขึ้นค่าแรง 300 ก็มีการพูดถึงผลกระทบต่าง ๆ นานา จะปิดโรงงาน โน่นนี่นั่น
มีการคาดการณ์ประเทศไทยจะถึงคราล่มสลาย ต่างออกมาดราม่า อยากได้ค่าแรงเท่าเดิม
แต่พอเวลาผ่านไปสักระยะ ทุกคนก็ลืม และอยู่ได้ คนที่เคยด่า อาจแอบยิ้มเพราะนโยบายนี้

เรื่องคืนภาษีรถยนต์ ก็มีการคาดการณ์ว่ารถจะโดนยึดมากมายมหาศาล
ส่งผลเสียระบบเศรษฐกิจ แต่พอเวลาผ่านไปสักระยะ ก็ไม่มีใครพูดถึงอีกเลย

กรณีข้าวเน่า ข้าวรมสารพิษ
ก็มีการพูดถึงการล่มสลายของธุรกิจค้าข้าว มีการเสียแชมป์โน่นนี่นั่น มีการตีกลับข้าว
มีข้าวเน่าที่โน่นบ้าง ที่นี่บ้าง มีซากหนู ซากนก และดร่าม่าถึงการกินหญ้า กินรำ
แต่พอเวลาผ่านไปสักระยะ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเป็นปัญหา กลับเงียบ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทุกคนก็ยังกินข้าวไทย (อย่างเอร็ดอร่อย) แถมยังแอบรู้ว่าชนชั้นกลางขึ้นไปในเวียดนามยังนิยมข้าวไทยด้วยอ่ะ

กรณีอาหารแพงก็คงจะเหมือนกันอีกนั่นแหละ (สมมุติฐาน)
ตอนนี้ นั่นก็แพง นี่ก็แพง โน่นก็แพง อะไร ๆ ก็แพง
พออีกสักระยะ ทุกคนก็มีความพึงพอใจ กินนั่นกินนี่ สั่งนี่สั่งนั่น ดื่มโน่นนี่นั่น

แถมเรื่องแก๊สด้วย
เราก็รู้ว่าราคาจริง ๆ เราบิดเบือนกันมาตั้งแต่ยุคไหน
ปรับนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ด่า  ปรับมากก็ด่า
งั้นก็ขายตามราคาจริงซะเลยอ่ะ ไหน ๆ ก็จะถูกด่าอยู่แล้ว
ผ่านไปสักระยะ ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดำเนินไปด้วยดี

แต่เรื่องเข่นฆ่าร้อยศพนี่ คงต้องใช้เวลามากหน่อย
เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นอาจอยู่ในข่าย "ประวัติศาสตร์" ไม่ใช่ดราม่าธรรมดา
เพราะอีกร้อยปีข้างหน้า ลูกหลานของเรา ที่เปิดดูคลิป เขาคงอดที่จะหดหู่ไม่ได้
กิกิ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่