ขอพื้นที่ระบายหน่อยนะคะ ขอเล่าถึงประสบการณ์ในชีวิตที่นึกทีไร ใจยังสั่นๆหวิวๆอยู่เลยค่ะ...
ย้อนไปวันเหตุเกิดตั้งแต่เดือนมกรา วันนั้นเรามีนัดกับเพื่อนๆในตอนบ่าย จะไปหาเพื่อนอีกคนที่มาจากตปท.และเป็นวันเกิดของเพื่อนคนนี้ด้วย จริงๆวันนั้นตอนค่ำเราต้องเดินทางไปตจว.และวันรุ่งขึ้นก็มีภารกิจต้องไปอีกจังหวัดหนึ่ง สรุปคือเรารีบร้อนและร้อนรน เมื่อเพื่อนที่นัดกันมาถึง คนนึงมาจากระยองและรับอีกคนแถวพัฒนาการเพื่อมาบ้านเราแถวรังสิต-นครนายก (ซึ่งต่างคนก็ไม่ได้เจอกันนานแล้วเหมือนกัน) เพื่อเดินทางไปหาเพื่อนที่อยู่สุขุมวิท
เมื่อพร้อมแล้ว(แบบรีบเร่ง)เราเป็นคนขับ..ออกมาถึงถนนใหญ่หน้าหมู่บ้านปรากฏรถติดหนึบ แผนตั้งแต่แรกคือขับรถไปจอดที่จตุจักรแล้วนั่งรถไฟฟ้าไปลงสุขุมวิท แต่เพื่อนอีกคนที่อยู่แถวงามวงศ์วาน(นัดไปสมทบกัน)โทรมาบอกว่า “ผ่านมาทางวิภาวดีรถติดมาก” เราเลยเปลี่ยนแผนว่าขึ้นวงแหวนตะวันออกไปเลยดีกว่าเพราะเป็นทางที่เราชอบมากๆไปไหนๆสะดวก แต่วันนั้นต้องไปลงไหน ยังไงไม่รู้ทางกะให้เพื่อนที่มาด้วยกันบอกอีกที พอขับออกมาได้หน่อยเพื่อนบอกลืมการ์ดวันเกิด(ที่ทำกันเองพากันเขียนอวยพรให้เรียบร้อยแล้ว)ไว้ที่บ้าน เราต้องวนรถกลับไปเอา เพราะทุกคนบอกมันสำคัญมากๆต้องมีการ์ดนี้ เพราะไม่ได้เตรียมของขวัญอะไรกันไปเลย(ซึ่งจริงๆก็ไม่ซีเรียสแต่อยากให้เพื่อนเห็นการ์ด)รถติด..ลืมของทำให้เสียเวลาไปมาก
เมื่อหลุดจากรถติดถึงทางวิ่งขึ้นวงแหวนที่เป็นทางโค้งไม่มาก เราทำความเร็วขึ้นไป ชนิดที่เราก็ไม่ได้คิดว่ามันจะมีปัญหาอะไร แต่เมื่อเราเหยียบคันเร่งขึ้นไป ในขณะรถกำลังพุ่งเราได้ยินเพื่อนที่นั่งข้างหลังทักขึ้นมาเบาๆ(เพื่อนมาบอกทีหลังว่ากำลังก้มๆใช้โทรศัพท์อยู่ รู้สึกแปลกใจที่รถมันเร็วขึ้นมาก)ยืนยันว่าเพื่อนทักเบาๆว่า “เอ๊ะเจ้ เป็นไร” แว่บนั้นที่เราคิด เป็นไรคืออะไร? รถเราจะหลุดโค้งเหรอ?เรามองไปข้างหน้าจะเข้าโค้งหมดมั๊ย? น่าจะหมดนะ! แล้วถ้าไม่หมดหล่ะ? เท้าเราก็ไวเท่าความคิดเราแตะเบรค รถที่มาด้วยความเร็วสะบัดจนเราควบคุมไม่อยู่ มันน่ากลัวมาก วินาทีนั้นเราคิด..คนที่เค้าตายๆกันด้วยอุบัติเหตุทางรถมันเป็นแบบนี้เหรอ...เราจับพ่วงมาลัยแน่น เรายังมีสติคิดว่าเราต้องไม่ตาย รถมันแรงและเร็วมาก เหวี่ยงไปชนขอบกับทางด่วนด้านซ้ายโครมแรก ก่อนจะสะบัดอย่างแรง ส่ายไปมา ไปชนขอบทางกั้นด้านขวา จอดแน่นิ่งฝากระโปรงปลิวหาย ควันขึ้น น้ำมันไหลนอง เราตกใจหันไปหาเพื่อนที่นั่งหน้าคู่กับเราก่อนเลย ถามอาการเพื่อนก่อนจะบอกให้ทุกคนรีบลงจากรถ ตอนนั้นเราคิดไปถึงแก๊สระเบิดเลยนะ เพื่อนเจ็บจุกยอก ฟกช้ำ เราโทรให้เพื่อนอีกคนมารับเพื่อน 2 คนไปหาหมอ เราเองจุกเจ็บยอกที่อกเพราะโดนเชฟตี้เบลดึงรั้ง แต่ไม่ได้ไปหาหมอ(ทุกคนไล่ให้ไป แต่เราไม่ได้ไป) เมื่อโทรเรียกรถมาลาก คนที่เห็นสภาพรถ ถนน งงว่ามันเกิดได้ไง เราตอบไม่ได้ และที่น่าหวาดเสียวมากถ้ารถเราไม่จอดแล้วเหวี่ยงไปด้านซ้ายอีกรอบ หรือเหวี่ยงไปขวาก่อนแล้วมาซ้ายมันจะเลยที่กั้นขอบถนน มันจะตกลงไปข้างทางที่แคบและสูงเกือบ 3 เมตร เรา 3 คนคงไม่เหลือ! แต่ไม่สำคัญไปกว่าสิ่งที่ทำให้เราขวัญเสีย แบบที่เรากลัวที่สุดจนไม่รู้จะรู้สึกยังไงได้ ถ้ามันเกิดอะไรขึ้น คือเพื่อนเราที่นั่งหน้าตั้งท้องอ่อนๆอยู่...
รถเก๋ง Vios ด้านหน้าเละ ยุบ ประกันชั้น3+ ต้องซ่อมเอง ช่างทำบ้างไม่ทำบ้าง หาอะไหล่ไม่ได้บ้าง เข้าอู่นานเกือบ 5 เดือน เราหยุดงานไป 1 อาทิตย์...และนั่งรถตู้ไปทำงาน จนเมื่อเอารถมาขับอีกครั้งเรารู้สึกตัวเองเอ๋อๆเงอะๆงะๆ ไม่กล้าตัดสินใจ เหมือนคนเพิ่งหัดขับรถ บางทีขับๆไปใช้ความเร็วในไปหน่อยก็กลัวขึ้นมาเฉยๆลดความเร็วแบบไม่มีเหตุผล บางทีนึกกลัวจนสั่น คิดขึ้นว่าเราจะทำไงดีถ้ากลัวมากๆ ถ้าขับไปกับเพื่อน เพื่อนจะทักเลยว่าเราแปลกๆไม่เหมือนเดิม แม้แต่นั่งรถที่คนอื่นใช้ความเร็วเรายังกลัว ทั้งที่แต่ก่อนเราไม่ใช่คนขวัญอ่อน ขี้กลัวเลยนะ เคยไปตจว.กับแฟนเค้าขับเร็วแซงๆๆเราบอกอย่าขับเร็วได้ไหม๊ เค้าหงุดหงิดใส่บอก"มาขับเองเลยมา" เราโครตแค้นฝังหุ่นเลย..ทุกวันนี้ยังไม่หาย -_-"
มันเป็นความรู้สึกผิดจากความประมาท อายที่ทำพลาด เสียเงินหมดเงินจนยุ่งเหยิงไปหมดเรารู้สึกแย่กับตัวเองแต่เราไม่เคยบอกใครหรือร้องขอกำลังใจจากใคร เราคิดว่าเดี๋ยวมันคงดีขึ้น...มันก็ดีขึ้นนะ แต่ตอนนี้มันก็ยังไม่หาย...เราไม่เคยขับขึ้นวงแหวนไปทางนั้นอีกเลย
ใครเคยมีประสบการณ์แบบนี้บ้างคะ แล้วมันใช้เวลานานมั๊ยคะ กว่าจะกลับมาเหมือนเดิม....
ปล.ตอนนี้เพื่อนที่ท้องคลอดแล้ว...ลูกน่ารักมากเป็นนางฟ้าตัวน้อยของทุกคน เรารอให้เพื่อนที่ไปคลอดตจว.กลับมา อยากไปเยี่ยม...อยากไปคุยกับกับนางฟ้าน้อยๆ...แต่ตอนนี้ยังนึกไม่ออกเลยว่าจะพูดยังไงดี
ขับรถไปชนเป็นอุบัติเหตุที่แรงที่สุด จากที่ขับรถมาเป็น 10 ปี…ทำให้ทุกวันนี้เหมือนคนเสียเซลฟ์
ย้อนไปวันเหตุเกิดตั้งแต่เดือนมกรา วันนั้นเรามีนัดกับเพื่อนๆในตอนบ่าย จะไปหาเพื่อนอีกคนที่มาจากตปท.และเป็นวันเกิดของเพื่อนคนนี้ด้วย จริงๆวันนั้นตอนค่ำเราต้องเดินทางไปตจว.และวันรุ่งขึ้นก็มีภารกิจต้องไปอีกจังหวัดหนึ่ง สรุปคือเรารีบร้อนและร้อนรน เมื่อเพื่อนที่นัดกันมาถึง คนนึงมาจากระยองและรับอีกคนแถวพัฒนาการเพื่อมาบ้านเราแถวรังสิต-นครนายก (ซึ่งต่างคนก็ไม่ได้เจอกันนานแล้วเหมือนกัน) เพื่อเดินทางไปหาเพื่อนที่อยู่สุขุมวิท
เมื่อพร้อมแล้ว(แบบรีบเร่ง)เราเป็นคนขับ..ออกมาถึงถนนใหญ่หน้าหมู่บ้านปรากฏรถติดหนึบ แผนตั้งแต่แรกคือขับรถไปจอดที่จตุจักรแล้วนั่งรถไฟฟ้าไปลงสุขุมวิท แต่เพื่อนอีกคนที่อยู่แถวงามวงศ์วาน(นัดไปสมทบกัน)โทรมาบอกว่า “ผ่านมาทางวิภาวดีรถติดมาก” เราเลยเปลี่ยนแผนว่าขึ้นวงแหวนตะวันออกไปเลยดีกว่าเพราะเป็นทางที่เราชอบมากๆไปไหนๆสะดวก แต่วันนั้นต้องไปลงไหน ยังไงไม่รู้ทางกะให้เพื่อนที่มาด้วยกันบอกอีกที พอขับออกมาได้หน่อยเพื่อนบอกลืมการ์ดวันเกิด(ที่ทำกันเองพากันเขียนอวยพรให้เรียบร้อยแล้ว)ไว้ที่บ้าน เราต้องวนรถกลับไปเอา เพราะทุกคนบอกมันสำคัญมากๆต้องมีการ์ดนี้ เพราะไม่ได้เตรียมของขวัญอะไรกันไปเลย(ซึ่งจริงๆก็ไม่ซีเรียสแต่อยากให้เพื่อนเห็นการ์ด)รถติด..ลืมของทำให้เสียเวลาไปมาก
เมื่อหลุดจากรถติดถึงทางวิ่งขึ้นวงแหวนที่เป็นทางโค้งไม่มาก เราทำความเร็วขึ้นไป ชนิดที่เราก็ไม่ได้คิดว่ามันจะมีปัญหาอะไร แต่เมื่อเราเหยียบคันเร่งขึ้นไป ในขณะรถกำลังพุ่งเราได้ยินเพื่อนที่นั่งข้างหลังทักขึ้นมาเบาๆ(เพื่อนมาบอกทีหลังว่ากำลังก้มๆใช้โทรศัพท์อยู่ รู้สึกแปลกใจที่รถมันเร็วขึ้นมาก)ยืนยันว่าเพื่อนทักเบาๆว่า “เอ๊ะเจ้ เป็นไร” แว่บนั้นที่เราคิด เป็นไรคืออะไร? รถเราจะหลุดโค้งเหรอ?เรามองไปข้างหน้าจะเข้าโค้งหมดมั๊ย? น่าจะหมดนะ! แล้วถ้าไม่หมดหล่ะ? เท้าเราก็ไวเท่าความคิดเราแตะเบรค รถที่มาด้วยความเร็วสะบัดจนเราควบคุมไม่อยู่ มันน่ากลัวมาก วินาทีนั้นเราคิด..คนที่เค้าตายๆกันด้วยอุบัติเหตุทางรถมันเป็นแบบนี้เหรอ...เราจับพ่วงมาลัยแน่น เรายังมีสติคิดว่าเราต้องไม่ตาย รถมันแรงและเร็วมาก เหวี่ยงไปชนขอบกับทางด่วนด้านซ้ายโครมแรก ก่อนจะสะบัดอย่างแรง ส่ายไปมา ไปชนขอบทางกั้นด้านขวา จอดแน่นิ่งฝากระโปรงปลิวหาย ควันขึ้น น้ำมันไหลนอง เราตกใจหันไปหาเพื่อนที่นั่งหน้าคู่กับเราก่อนเลย ถามอาการเพื่อนก่อนจะบอกให้ทุกคนรีบลงจากรถ ตอนนั้นเราคิดไปถึงแก๊สระเบิดเลยนะ เพื่อนเจ็บจุกยอก ฟกช้ำ เราโทรให้เพื่อนอีกคนมารับเพื่อน 2 คนไปหาหมอ เราเองจุกเจ็บยอกที่อกเพราะโดนเชฟตี้เบลดึงรั้ง แต่ไม่ได้ไปหาหมอ(ทุกคนไล่ให้ไป แต่เราไม่ได้ไป) เมื่อโทรเรียกรถมาลาก คนที่เห็นสภาพรถ ถนน งงว่ามันเกิดได้ไง เราตอบไม่ได้ และที่น่าหวาดเสียวมากถ้ารถเราไม่จอดแล้วเหวี่ยงไปด้านซ้ายอีกรอบ หรือเหวี่ยงไปขวาก่อนแล้วมาซ้ายมันจะเลยที่กั้นขอบถนน มันจะตกลงไปข้างทางที่แคบและสูงเกือบ 3 เมตร เรา 3 คนคงไม่เหลือ! แต่ไม่สำคัญไปกว่าสิ่งที่ทำให้เราขวัญเสีย แบบที่เรากลัวที่สุดจนไม่รู้จะรู้สึกยังไงได้ ถ้ามันเกิดอะไรขึ้น คือเพื่อนเราที่นั่งหน้าตั้งท้องอ่อนๆอยู่...
รถเก๋ง Vios ด้านหน้าเละ ยุบ ประกันชั้น3+ ต้องซ่อมเอง ช่างทำบ้างไม่ทำบ้าง หาอะไหล่ไม่ได้บ้าง เข้าอู่นานเกือบ 5 เดือน เราหยุดงานไป 1 อาทิตย์...และนั่งรถตู้ไปทำงาน จนเมื่อเอารถมาขับอีกครั้งเรารู้สึกตัวเองเอ๋อๆเงอะๆงะๆ ไม่กล้าตัดสินใจ เหมือนคนเพิ่งหัดขับรถ บางทีขับๆไปใช้ความเร็วในไปหน่อยก็กลัวขึ้นมาเฉยๆลดความเร็วแบบไม่มีเหตุผล บางทีนึกกลัวจนสั่น คิดขึ้นว่าเราจะทำไงดีถ้ากลัวมากๆ ถ้าขับไปกับเพื่อน เพื่อนจะทักเลยว่าเราแปลกๆไม่เหมือนเดิม แม้แต่นั่งรถที่คนอื่นใช้ความเร็วเรายังกลัว ทั้งที่แต่ก่อนเราไม่ใช่คนขวัญอ่อน ขี้กลัวเลยนะ เคยไปตจว.กับแฟนเค้าขับเร็วแซงๆๆเราบอกอย่าขับเร็วได้ไหม๊ เค้าหงุดหงิดใส่บอก"มาขับเองเลยมา" เราโครตแค้นฝังหุ่นเลย..ทุกวันนี้ยังไม่หาย -_-"
มันเป็นความรู้สึกผิดจากความประมาท อายที่ทำพลาด เสียเงินหมดเงินจนยุ่งเหยิงไปหมดเรารู้สึกแย่กับตัวเองแต่เราไม่เคยบอกใครหรือร้องขอกำลังใจจากใคร เราคิดว่าเดี๋ยวมันคงดีขึ้น...มันก็ดีขึ้นนะ แต่ตอนนี้มันก็ยังไม่หาย...เราไม่เคยขับขึ้นวงแหวนไปทางนั้นอีกเลย
ใครเคยมีประสบการณ์แบบนี้บ้างคะ แล้วมันใช้เวลานานมั๊ยคะ กว่าจะกลับมาเหมือนเดิม....
ปล.ตอนนี้เพื่อนที่ท้องคลอดแล้ว...ลูกน่ารักมากเป็นนางฟ้าตัวน้อยของทุกคน เรารอให้เพื่อนที่ไปคลอดตจว.กลับมา อยากไปเยี่ยม...อยากไปคุยกับกับนางฟ้าน้อยๆ...แต่ตอนนี้ยังนึกไม่ออกเลยว่าจะพูดยังไงดี