มีบทความเรื่องความกตัญญู กับความเจริญ.......
มีบทความเรื่องความกตัญญู กับความเจริญ สำหรับผู้ที่ท้อแท้กับชีวิต เพราะชีวิตแต่ละชีวิตก็ต้องการความเจริญ แต่ทำไมไม่เจริญ แม่ชีอยู่กับสังคมของคนที่ค้นหาความเจริญ ต้องการความสำเร็จแต่ทุกคนก็เดินเข้ามามีหนึ่งร้อยคนก็ทุกข์เก้าสิบคน อยากเจริญในธรรมสิบคน แต่ก็เป็นเรื่องดี ที่ยังหาอุบายให้ตัวเองเจริญในธรรม
เราต้องเริ่มต้นที่ตัวเราก่อนนะคะ มีหลายอย่าง เช่น ทิ้งทุกอย่างไว้ที่บ้าน ยศถาบรรดาศักดิ์ ทิ้งหมาทิ้งแมว ทิ้งห่วงที่อาจทำให้ใจไม่สงบ แล้วตั้งใจมาวัด วัดที่แม่ชีอยู่ชื่อวัดพิชัยญาติ อยู่คลองสาน กรุงเทพฯ
วันเสาร์และวันอาทิตย์ จะมีกิจกรรมของวัดจัดปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ เดินจงกรม สวดมนต์ เช้า-เย็น ถวายสังฆทานร่วมกัน เมื่อท่านมาแล้วท่านอาจจะตะลึงตาตะลึงใจ ที่เห็นผู้คนมากมายเป็นร้อยนุ่งห่มชุดขาวเต็มลานวัด อายุของทุกท่านที่มามีทุกวัย ตั้งแต่เด็กจนถึงคนแก่อายุหกสิบเจ็ดสิบปี มีวัยรุ่น ทั้งชายทั้งหญิงเป็นจำนวนร้อย
ท่านคิดตามแม่ชีนะคะ เรามีน้ำของบุญกุศลที่เราเคยพูดดี คิดดี ทำดีกันคนละขวด พอเราสวดมนต์เช้าเย็นเสร็จก็สวดกรวดน้ำ น้ำบุญของทุกคนจะถูกเทไปตามคำกรวดน้ำพร้อมกัน แต่ไม่ใช่เอาน้ำมาเทนะคะ น้ำบุญในที่นี้คือบุญของการสวดมนต์รักษาศีล เราอุทิศให้ใครทั้งจักรวาล พ่อแม่ญาติทั้งหลายก็จะได้ทั้งหมดพร้อมกันไม่ใช่ขวดเดียว แต่เป็นบุญที่ทำร่วมกันเป็นหลายร้อยเสียงพร้อมกัน เป็นอันว่าเราเริ่มมีฐานบุญ
ส่วนเรื่องทำบุญตักบาตรอันนี้จำเป็นต้องใช้น้ำจริง ๆ กรวดค่ะ รวมทั้งต้องตั้งใจด้วย บุญจะส่งผลทำให้เจริญก้าวหน้า มีอีกเรื่องที่สำคัญมากคือ เรื่องที่กำลังเกิดขึ้นเวลานี้ ประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของชาติ พระองค์ทรงงานดูแลประชาชนทุกอย่าง จะทุกข์ที่ไหน น้ำท่วม ฝนไม่ตก รถติด น้ำมันแพง น้ำเสีย พระองค์ท่านก็มีโครงการพระราชดำริ สร้างเขื่อนที่ไหนแห้งแล้งพระองค์ทรงปรับปรุงดิน บุญคุณของพระองค์มากมาย มีให้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนหลายพันโครงการ
พระองค์ทรงงานหนักมาเป็นเวลาหกสิบกว่าปี แต่พระองค์ไม่ทรงท้อแท้ จะมืดจะค่ำก็เสด็จฯ ไปพบประชาชนของพระองค์ด้วยความเป็นห่วง แม้ยามประชวรก็ไม่ทอดทิ้ง เห็นประชาชนมาเฝ้าด้วยความห่วงใยก็เสด็จฯ ลงมาให้ประชาชนเห็นว่าพระองค์ดีขึ้นแล้ว นี่คือน้ำพระทัยของพระองค์ท่าน
แต่ก็มีหลายเรื่องที่เป็นข่าวไม่ดี ที่คนบาปพยายามทำร้าย ทำลายสถาบันชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ใครที่แค่คิดจาบจ้วงสามสถาบันนี้ แม่ชีบอกได้เต็มปากเลยว่า คนบาปเหล่านั้นตกนรกทั้งเป็น ต้องทนทุกข์ทรมานด้วยใจจนกว่าจะตาย เกิดเป็นคนไทยต้องกตัญญูแผ่นดินถิ่นเกิด เมื่อไหร่ที่คนไทยไม่รักกัน พระองค์เป็นพ่อของแผ่นดินมีหรือที่พระองค์จะไม่อยากรู้ไม่อยากแก้ไข
ใครที่กำลังอ่านถึงตรงนี้ช่วยกันนะคะ สวดมนต์ สมาทานศีล ๕ ถวายเป็นปฏิบัติบูชาให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน คนไทยหกสิบเจ็บสิบล้านคนทำบุญกุศลพร้อมกันแน่นอนประเทศชาติเจริญทั้งสามสถาบัน
มีลูกศิษย์แม่ชีคนหนึ่งพูดเรื่องเลวร้ายให้แม่ชีฟังมันเลวร้ายสำหรับแม่ชีที่ได้ยิน แม่ชีบอกกับลูกศิษย์คนนี้ว่า "หนูจะไม่มีความเจริญเลยตลอดชีวิตหนู ลูกหลานวงศ์ตระกูลจะสับสนจนแทบไม่มีแผ่นดินยืน เพราะจาบจ้วงสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องที่ควรให้อภัย เตรียมตัวไว้นะ หนูจำคำแม่ไว้ แล้วต่อไปนี้ หนูก็ไม่ต้องมามีแม่เป็นครูบาอาจารย์ เพราะแม่อายที่จะบอกกับคนทั้งโลกว่า แม่เป็นครูสอนให้คนเป็นคนดี"
แม่ชีเสียใจ แต่ก็ต้องอุเบกขาไว้ กรรมของแม่ชีที่ได้ยิน บาปอยู่กับคนพูด ท่านคงอยากทราบใช่ไหมว่าเขาพูดอะไร แม่ชีไม่บอกหรอกค่ะ คิดกันดี ๆ ก็จะเจริญ..ทำอะไรก็เจริญ..
บรรยายบทความ โดย ดร.แม่ชีทศพร เทวาพิทักษ์ธรรม
จากหนังสือ "ทำอะไรก็..เจริญ" ตีพิมพ์ 1 ธันวาคม 2552
ความกตัญญู กับความเจริญ บทความจากแม่ชีทศพร ( ถ้าไม่ชอบผ่านไปเลยไม่ต้องเข้ามาอ่าน )
มีบทความเรื่องความกตัญญู กับความเจริญ สำหรับผู้ที่ท้อแท้กับชีวิต เพราะชีวิตแต่ละชีวิตก็ต้องการความเจริญ แต่ทำไมไม่เจริญ แม่ชีอยู่กับสังคมของคนที่ค้นหาความเจริญ ต้องการความสำเร็จแต่ทุกคนก็เดินเข้ามามีหนึ่งร้อยคนก็ทุกข์เก้าสิบคน อยากเจริญในธรรมสิบคน แต่ก็เป็นเรื่องดี ที่ยังหาอุบายให้ตัวเองเจริญในธรรม
เราต้องเริ่มต้นที่ตัวเราก่อนนะคะ มีหลายอย่าง เช่น ทิ้งทุกอย่างไว้ที่บ้าน ยศถาบรรดาศักดิ์ ทิ้งหมาทิ้งแมว ทิ้งห่วงที่อาจทำให้ใจไม่สงบ แล้วตั้งใจมาวัด วัดที่แม่ชีอยู่ชื่อวัดพิชัยญาติ อยู่คลองสาน กรุงเทพฯ
วันเสาร์และวันอาทิตย์ จะมีกิจกรรมของวัดจัดปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ เดินจงกรม สวดมนต์ เช้า-เย็น ถวายสังฆทานร่วมกัน เมื่อท่านมาแล้วท่านอาจจะตะลึงตาตะลึงใจ ที่เห็นผู้คนมากมายเป็นร้อยนุ่งห่มชุดขาวเต็มลานวัด อายุของทุกท่านที่มามีทุกวัย ตั้งแต่เด็กจนถึงคนแก่อายุหกสิบเจ็ดสิบปี มีวัยรุ่น ทั้งชายทั้งหญิงเป็นจำนวนร้อย
ท่านคิดตามแม่ชีนะคะ เรามีน้ำของบุญกุศลที่เราเคยพูดดี คิดดี ทำดีกันคนละขวด พอเราสวดมนต์เช้าเย็นเสร็จก็สวดกรวดน้ำ น้ำบุญของทุกคนจะถูกเทไปตามคำกรวดน้ำพร้อมกัน แต่ไม่ใช่เอาน้ำมาเทนะคะ น้ำบุญในที่นี้คือบุญของการสวดมนต์รักษาศีล เราอุทิศให้ใครทั้งจักรวาล พ่อแม่ญาติทั้งหลายก็จะได้ทั้งหมดพร้อมกันไม่ใช่ขวดเดียว แต่เป็นบุญที่ทำร่วมกันเป็นหลายร้อยเสียงพร้อมกัน เป็นอันว่าเราเริ่มมีฐานบุญ
ส่วนเรื่องทำบุญตักบาตรอันนี้จำเป็นต้องใช้น้ำจริง ๆ กรวดค่ะ รวมทั้งต้องตั้งใจด้วย บุญจะส่งผลทำให้เจริญก้าวหน้า มีอีกเรื่องที่สำคัญมากคือ เรื่องที่กำลังเกิดขึ้นเวลานี้ ประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของชาติ พระองค์ทรงงานดูแลประชาชนทุกอย่าง จะทุกข์ที่ไหน น้ำท่วม ฝนไม่ตก รถติด น้ำมันแพง น้ำเสีย พระองค์ท่านก็มีโครงการพระราชดำริ สร้างเขื่อนที่ไหนแห้งแล้งพระองค์ทรงปรับปรุงดิน บุญคุณของพระองค์มากมาย มีให้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนหลายพันโครงการ
พระองค์ทรงงานหนักมาเป็นเวลาหกสิบกว่าปี แต่พระองค์ไม่ทรงท้อแท้ จะมืดจะค่ำก็เสด็จฯ ไปพบประชาชนของพระองค์ด้วยความเป็นห่วง แม้ยามประชวรก็ไม่ทอดทิ้ง เห็นประชาชนมาเฝ้าด้วยความห่วงใยก็เสด็จฯ ลงมาให้ประชาชนเห็นว่าพระองค์ดีขึ้นแล้ว นี่คือน้ำพระทัยของพระองค์ท่าน
แต่ก็มีหลายเรื่องที่เป็นข่าวไม่ดี ที่คนบาปพยายามทำร้าย ทำลายสถาบันชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ใครที่แค่คิดจาบจ้วงสามสถาบันนี้ แม่ชีบอกได้เต็มปากเลยว่า คนบาปเหล่านั้นตกนรกทั้งเป็น ต้องทนทุกข์ทรมานด้วยใจจนกว่าจะตาย เกิดเป็นคนไทยต้องกตัญญูแผ่นดินถิ่นเกิด เมื่อไหร่ที่คนไทยไม่รักกัน พระองค์เป็นพ่อของแผ่นดินมีหรือที่พระองค์จะไม่อยากรู้ไม่อยากแก้ไข
ใครที่กำลังอ่านถึงตรงนี้ช่วยกันนะคะ สวดมนต์ สมาทานศีล ๕ ถวายเป็นปฏิบัติบูชาให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน คนไทยหกสิบเจ็บสิบล้านคนทำบุญกุศลพร้อมกันแน่นอนประเทศชาติเจริญทั้งสามสถาบัน
มีลูกศิษย์แม่ชีคนหนึ่งพูดเรื่องเลวร้ายให้แม่ชีฟังมันเลวร้ายสำหรับแม่ชีที่ได้ยิน แม่ชีบอกกับลูกศิษย์คนนี้ว่า "หนูจะไม่มีความเจริญเลยตลอดชีวิตหนู ลูกหลานวงศ์ตระกูลจะสับสนจนแทบไม่มีแผ่นดินยืน เพราะจาบจ้วงสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องที่ควรให้อภัย เตรียมตัวไว้นะ หนูจำคำแม่ไว้ แล้วต่อไปนี้ หนูก็ไม่ต้องมามีแม่เป็นครูบาอาจารย์ เพราะแม่อายที่จะบอกกับคนทั้งโลกว่า แม่เป็นครูสอนให้คนเป็นคนดี"
แม่ชีเสียใจ แต่ก็ต้องอุเบกขาไว้ กรรมของแม่ชีที่ได้ยิน บาปอยู่กับคนพูด ท่านคงอยากทราบใช่ไหมว่าเขาพูดอะไร แม่ชีไม่บอกหรอกค่ะ คิดกันดี ๆ ก็จะเจริญ..ทำอะไรก็เจริญ..
บรรยายบทความ โดย ดร.แม่ชีทศพร เทวาพิทักษ์ธรรม
จากหนังสือ "ทำอะไรก็..เจริญ" ตีพิมพ์ 1 ธันวาคม 2552