มีความแตกต่างเป็นอย่างมาก เมื่อนำเอา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มาวางเรียงเคียง
กันในเชิงเปรียบเทียบกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย
มิใช่ในเรื่อง “ปริมาณ”
เพราะว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 159 น้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเปรียบเทียบ
กับจำนวน 256 ของพรรคเพื่อไทย
แต่หากเปรียบเทียบในเรื่อง “คุณภาพ” แล้ว น่าสงสัย
ปรากฏการณ์การประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม
วาระ 2 เมื่อวันเสาร์ที่ 7 กันยายน สะท้อนให้เห็นว่า “ปริมาณ” มิได้เป็นปัจจัย
ชี้ขาดความเข้มแข็ง เกรียงไกร หากแต่ “คุณภาพ” ต่างหากมีความสำคัญ
ทั้งๆ ที่มี ส.ส.มากถึง 256 ทั้งๆ ที่มีพันธมิตรในพรรคร่วมรัฐบาลและส.ว.บางส่วน
แต่การประชุมก็ล่มไม่เป็นท่า
หน้าแตก แหกเป็นริ้วๆ
มองไปทางพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่หัวแถวยันหางแถว มีความเป็น
เอกภาพทั้งในทางความคิดและในทางการปฏิบัติ
เป้าหมายร่วมก็คือ ดิสเครดิตรัฐบาล
เป็นการดิสเครดิตทุกเรื่อง ตั้งแต่ตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
เรื่อยไปจนทุกจังหวะก้าว ทุกนโยบายอันเสนอมาจากพรรคเพื่อไทย
เห็นๆ ก็คือ การดึง “เกม” มิให้การเสนอกฎหมายดำเนินไปด้วยความราบรื่น
ไม่ว่าร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ไม่ว่าร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไม่ว่าร่าง
พ.ร.บ.รัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม พรรคประชาธิปัตย์ทำทุกอย่างให้ล่าช้า
ยืดเวลาให้เนิ่นนานที่สุด เป้าหมายสุดท้ายก็คือจะนำเอาทุกเรื่องไป
รวมศูนย์ในการกำหนดยุทธศาสตร์
โค่นรัฐบาล ล้ม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ไม่ว่าในที่ประชุมสภา ไม่ว่าในเวที “ผ่าความจริง” พรรคประชาธิปัตย์
ประกาศแนวทางและเป้าหมายนี้อย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมา
เหมือนกับเป็นการประกาศ “สงคราม”
กระนั้น ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็ยังมีหลายส่วนที่จะชะล่าใจ ไม่ตระหนัก
ในความรุนแรงความแข็งกร้าวอันมาจากอีกฝ่ายอย่างเพียงพอ
เรื่อยๆ ไปเรียงๆ กระทั่งทำให้ “สภาล่ม”
นี่คือรูปธรรมอันเด่นชัดยิ่งสะท้อนสภาวะอ่อนด้อย ประเมินกำลังของ
อีกฝ่ายต่ำกว่าความเป็นจริง ประเมินสถานะของตนเหนือกว่าความเป็นจริง
จึงต้องหน้าแตก แหกเป็นแผล
สถานการณ์เมื่อวันที่ 7 กันยายน เป็นความเสียหายอย่างแน่นอน เสียหายแก่พรรคเพื่อไทย
หากพรรคเพื่อไทยมีความเฉลียวอย่างเพียงพอย่อมสามารถแปรความเสียหาย
ให้กลายเป็นโอกาส แปรความสูญเสียอันเกิดขึ้นให้เป็นบทเรียน
บทเรียนแก่ ส.ส. บทเรียนแก่พรรค
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM09EYzBNVFUwT0E9PQ==§ionid=
ถามว่า อวยปู บูชาแม้ว หรือเปล่า อ่านให้ดีๆ เขากำลังวิจารณ์เพื่อไทยนะคะ
มีสักคำไหม ที่หยาบคาย มีสักคำไหม ที่เสียดสีถากถาง เอาเทียบให้เห็นกันว่า
ทำไม ดิฉันถึงชอบ ข่าวสด มติชน ถึงจะวิจารณ์ ก็เป็นการบอกจุดอ่อน ท้าทาย
ให้แก้ไข น่าจะเป็นบทบาทของสื่อ วิจารณืแบบสร้างสรรค์ ไม่ใช่ ทุกบรรทัด
ทุกตัวอักษร จะมีแต่ เสียดสี ถากถาง "รัฐบาลผีโม่แป้ง" "รัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณ"
"รัฐบาลทุนสามาลย์" ชอบแบบไหนคะ คะ คุณ Vertue mode
อาการ เพลี่ยงพล้ำ พรรคเพื่อไทย หน้าแตก วิกฤต คือ โอกาส วิเคราะห์ ข่าวสดออนไลน์ ...... เมื่อสื่อสีแดงวิจารณ์
กันในเชิงเปรียบเทียบกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย
มิใช่ในเรื่อง “ปริมาณ”
เพราะว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 159 น้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเปรียบเทียบ
กับจำนวน 256 ของพรรคเพื่อไทย
แต่หากเปรียบเทียบในเรื่อง “คุณภาพ” แล้ว น่าสงสัย
ปรากฏการณ์การประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม
วาระ 2 เมื่อวันเสาร์ที่ 7 กันยายน สะท้อนให้เห็นว่า “ปริมาณ” มิได้เป็นปัจจัย
ชี้ขาดความเข้มแข็ง เกรียงไกร หากแต่ “คุณภาพ” ต่างหากมีความสำคัญ
ทั้งๆ ที่มี ส.ส.มากถึง 256 ทั้งๆ ที่มีพันธมิตรในพรรคร่วมรัฐบาลและส.ว.บางส่วน
แต่การประชุมก็ล่มไม่เป็นท่า
หน้าแตก แหกเป็นริ้วๆ
มองไปทางพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่หัวแถวยันหางแถว มีความเป็น
เอกภาพทั้งในทางความคิดและในทางการปฏิบัติ
เป้าหมายร่วมก็คือ ดิสเครดิตรัฐบาล
เป็นการดิสเครดิตทุกเรื่อง ตั้งแต่ตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
เรื่อยไปจนทุกจังหวะก้าว ทุกนโยบายอันเสนอมาจากพรรคเพื่อไทย
เห็นๆ ก็คือ การดึง “เกม” มิให้การเสนอกฎหมายดำเนินไปด้วยความราบรื่น
ไม่ว่าร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ไม่ว่าร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไม่ว่าร่าง
พ.ร.บ.รัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม พรรคประชาธิปัตย์ทำทุกอย่างให้ล่าช้า
ยืดเวลาให้เนิ่นนานที่สุด เป้าหมายสุดท้ายก็คือจะนำเอาทุกเรื่องไป
รวมศูนย์ในการกำหนดยุทธศาสตร์
โค่นรัฐบาล ล้ม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ไม่ว่าในที่ประชุมสภา ไม่ว่าในเวที “ผ่าความจริง” พรรคประชาธิปัตย์
ประกาศแนวทางและเป้าหมายนี้อย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมา
เหมือนกับเป็นการประกาศ “สงคราม”
กระนั้น ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็ยังมีหลายส่วนที่จะชะล่าใจ ไม่ตระหนัก
ในความรุนแรงความแข็งกร้าวอันมาจากอีกฝ่ายอย่างเพียงพอ
เรื่อยๆ ไปเรียงๆ กระทั่งทำให้ “สภาล่ม”
นี่คือรูปธรรมอันเด่นชัดยิ่งสะท้อนสภาวะอ่อนด้อย ประเมินกำลังของ
อีกฝ่ายต่ำกว่าความเป็นจริง ประเมินสถานะของตนเหนือกว่าความเป็นจริง
จึงต้องหน้าแตก แหกเป็นแผล
สถานการณ์เมื่อวันที่ 7 กันยายน เป็นความเสียหายอย่างแน่นอน เสียหายแก่พรรคเพื่อไทย
หากพรรคเพื่อไทยมีความเฉลียวอย่างเพียงพอย่อมสามารถแปรความเสียหาย
ให้กลายเป็นโอกาส แปรความสูญเสียอันเกิดขึ้นให้เป็นบทเรียน
บทเรียนแก่ ส.ส. บทเรียนแก่พรรค
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM09EYzBNVFUwT0E9PQ==§ionid=
ถามว่า อวยปู บูชาแม้ว หรือเปล่า อ่านให้ดีๆ เขากำลังวิจารณ์เพื่อไทยนะคะ
มีสักคำไหม ที่หยาบคาย มีสักคำไหม ที่เสียดสีถากถาง เอาเทียบให้เห็นกันว่า
ทำไม ดิฉันถึงชอบ ข่าวสด มติชน ถึงจะวิจารณ์ ก็เป็นการบอกจุดอ่อน ท้าทาย
ให้แก้ไข น่าจะเป็นบทบาทของสื่อ วิจารณืแบบสร้างสรรค์ ไม่ใช่ ทุกบรรทัด
ทุกตัวอักษร จะมีแต่ เสียดสี ถากถาง "รัฐบาลผีโม่แป้ง" "รัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณ"
"รัฐบาลทุนสามาลย์" ชอบแบบไหนคะ คะ คุณ Vertue mode