คุณเคยมีความรักมั้ย เคยบอกรักใครรึยัง เคยทำอะไรให้คนนั้นรู้ว่า คุณชอบเค้า แล้วรึยัง
ถ้ายัง จงบอกรักเค้าตอนที่ยังมีโอกาสได้บอก ถึงจะผิดหวัง และเสียใจ แต่อย่างน้อยให้เชื่อผมเถอะ มันเจ็บน้อยกว่าที่เราไม่ทำอะไรเลย ทั้งๆที่โอกาสอยู่ตรงหน้า
(ผมไม่ขอเล่ารายละเอียดมาก แค่ให้เข้าใจเฉยๆ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สมัยก่อนผมสิ้นหวังกับชีวิตทุกอย่าง มือแปดด้าน ใช้ชีวิตไปวันๆ ไม่สนว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร เรื่องความรักแทบจะไม่ได้อยู่ในหัวสมอง เพราะทำใจแล้วว่าถ้าชีวิตยังเป็นแบบนี้อยู่คงไม่มีผู้หญิงสนใจ
จนมาวันหนึ่ง มีผู้หญิงคนหนึ่งเป็นแม่หม้ายลูกติด ทำงานที่เดียวกับผม เธอเป็นผู้หญิงที่สวย มีสเน่ เธอดีกับผม และเห็นคุณค่าในตัวผมหลายอย่าง ผมแอบชอบเธอ
จนมีครั้งหนึ่งผม ได้ซื้อสร้อยคอมาเส้นหนึ่ง(โดนแกมบังคับให้ซื้อ) ก็เลยมอบให้เธอ แค่เธอไม่รังเกียจที่จะรับมัน ยังให้ผมใส่ให้เธอด้วย หัวใจผมแทบหยุดนิ่ง
จากนั้น ผมก็พยายามพุดคุยกับเธอ(แบบเนียนๆประมาณเห็นคุยกับเพื่อนในกลุ่มผมก็แอบเนีนไปยืนคุยด้วย) ทั้งๆที่หัวสมองผมเองก็ยังขัดแย้งกันอยู่หลายอย่าง ว่าเธอจะชอบเราได้มั้ย หรือจะสนคนอย่างเราเหรอ คนที่ชีวิตยังไม่มีอะไรดีเลย
แต่เธอก็ไม่รังเกียจที่คุยด้วย ทั้งๆผมคุยมักจะตะกุตะกัก กล้าๆเขินๆ
ผมจึงคิดอยากเปลี่ยนตัวเอง จากคนที่เอาแต่หนีปัญหาไปวันๆ ได้แต่ล้มอยู่กับที่แบบนั้น อยากจะคู่ควรกับเธอ และบอกเธอว่า "ผมชอบคุณ"
แต่เธอได้ออกจากที่ทำงาน เพราะได้งานที่ใหม่ที่เธอชอบ ผมคิดว่าคงอาจจะไม่ได้เจอเธออีก
แต่ว่าถึงจะได้งานใหม่ ถ้าเธอว่างก็มักจะแวะเวียนมาที่ทำงานผมอยู่บ้าง มาทักทายเพื่อนเก่าในที่ทำงาน อยู่หลายครั้ง
จนผมลองไปขอเบอร์โทรจากเธอ เธอก็ให้ผมโดยไม่รังเกียจ
แต่ถึงได้มาผมก็ไม่รู้จะไปคุยกับเธอเรื่องอะไร ไม่กล้าที่คุยด้วย ได้แต่จ้องมองเบอร์ไปยังงั้น
จนผมได้จบการศึกษามาได้ระดับหนึ่ง ผมรู้สึกมีกำลังใจที่อยากจะคุยกับเธอ เลยหาเรื่องชวนคุยประมาณอยากให้ช่วยเหลือบางเรื่องเป็นเรื่องที่งี่เง่ามาก แต่เธอก็ยินดีที่จะช่วย
ผมจึงได้แต่ซื้อน้ำชาไปเยี่ยมที่ทำงานเธอ เพื่อขอบคุณที่ช่วย แต่พอเจอหน้าเธอผมได้แต่นิ่ง และขอตัวลับ ทุเรศตัวเองมากๆ
ทุกเรศขนาดไม่กล้าที่เจอหน้าเธออีก
จนกระทั่งผมทราบข่าวว่า เธอได้แต่งงานอยู่กินกับแฟนคนใหม่ เพื่อนของเธอได้บอกกับผมว่า เธอชอบผมนะ แต่เธอไม่รู้ว่าผมจะชอบเธอมั้ย เธอไม่ได้รังเกียจที่ผมจน เธอชอบผมเพราะผมเป็นคนดีสุภาพ
ผมเสียใจมาก ได้แต่นั่งทบทวนว่าทำไม
ผมจึงสาบานกับตัวเองว่าถ้าสักวันหนึ่ง ผมเจอคนที่ใช่ ผมจะบอก คนนั้นว่าผมชอบเธอ
(สิ่งที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ เป็นการพูดความคิดเข้าข้างตัวเองสุดๆไว้ก่อน เพราะฉะนั้นอ่านไปกรุณาพิจารณาให้ถี่ถ้วน)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จากวันนั้น ผมก็เริ่มที่เปลี่ยนตัวเอง เพื่อชีวิตของตัวผมเอง เปลี่ยนความคิดและแนวทาง ศึกษาเทคนิคการพูดและความเข้าใจเรื่องความคิดของสตรี
เพื่อสักวันหนึ่งถ้าผมเจอคนที่ใช่ และผมมีโอกาสแม้จะมีแค่1 ผมจะคว้าไว้ ต่อเสียใจเพราะปฏิเสธ หรือเธอคนนั้นมีแฟนแล้ว แต่ก็ สะใจ เพราะอย่างน้อยผมไม่ได้เอาแต่ก้มหน้าหนี
จนวันหนึ่ง ผมได้สมัครเรียนฝึกภาษาทุกวันอาทิตย์ แล้วได้เจอผู้หญิงคนหนึ่งเธอเป็นคนน่ารัก(แถมด้วยกลุ่มเพื่อนอีก2-3คน) แต่ผมก็ได้แต่มองไปอย่างนั้น เพราะคิดว่าเธอคงมีแฟนแล้วมั้ง ก็ถึงจะเรียนด้วยกันแต่ก็ไม่ได้สนิทกันมาก
ในเวลาเรียน ผมเรียกได้ว่าใจกล้าหน้าด้าน (คืออยากพูดเป็นอะ จะได้เท่ๆ) จนจบคอร์ด และในห้องก็มีแลก Facebookกันในกลุ่ม ผมจึงได้ ของเธอมาด้วย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร
จนเธอได้ chat เข้ามาหาผม เกี่ยวกับเรื่องงานอยากให้ผมช่วย แต่เผอิญอายุผมเกิน จึงช่วยไม่ได้
และทางผมและเธอ(รวมเพื่อนของเราบางส่วน)ก็ได้สมัครเรียนต่อ คอร์ดที่2 แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรกันมาก
จนกระทั่งเธอ เข้ามาถามเกี่ยวกับเรื่องการ บวช เพราะทางน้องชายของเธอจะบวช ก็เลยได้พูดคุยกัน
จากนั้นก็ได้พูดคุยกันมากขึ้นในเรื่องเรียนและทั่วๆไป
ผมรู้สึกชอบเธอและประทับใจเธออยู่หลายๆอย่าง
จึงตัดสินใจที่จะถามเธอว่าแฟนรึยัง แน่นอนผมได้เขียนลงกระดาษแล้วส่งมอบให้เธอในเวลาเรียน พอเธออ่านก็รีบซุกไว้หนังสือไม่ให้เพื่อนของเธอรู้จนเลิกเรียน
พอกลับมาถึงบ้าน เธอรีบChatมาบอกว่า "ไม่มีแฟนแต่ห้ามจีบ"
ในห้วของผมตอนนี้ คิดได้อย่างเดียวคือ โอกาสของผมมาถึงแล้ว โอกาส1เดียวของผม
ผมเลยบอกเธอว่า "ผมขอแอบชอบได้มั้ย"
จากนั้นผมก็เลย ลุยเต็มที่ เข้าไปคุยกับเธอทุกวัน เธอเองก็ไม่รังเกียจที่จะคุยกับผมได้ทุกวัน
ผมหยอดบ้าง บอกชอบบ้าง
จนเธอบอกว่า ให้ผมเลิกเถอะ เธอเป็นคนใจแข็ง อย่าเสียเวลากับเธอเลย เธอเบื่อผู้ชาย เห็นผู้ชายแย่ๆมาเยอะ
แต่ผมบอกกับเธอว่าผมไม่เสียใจ แต่กลับรู้สึกขอบคุณที่ให้โอกาส แต่ถ้าเธอมีแฟนหรือขับไล่ไสส่งผมก็ยินดีที่จะไปโดนไม่เสียใจทั้งสิ้น
(ความจริงผมร่ายยาวไว้มากกว่านี้แต่เอาใจความสำคัญก็พอ)
จากนั้นผมกับเธอก็ยังคงพูดคุยกัน ผมก็หยอดคำหวานไปบ้างเล็กๆน้อยเล่นไปตามจังหวะตามโอกาศที่เล่นได้
เธอเองก็เริ่มเอาเรื่องส่วนตัว หรือเรื่องงานมาบ่นให้ผมฟังอยู่บ้าง
แต่ที่ทำให้ผมรู้สึกดีที่สุดคือ เมื่อใดที่ผมเข้าไปคุยกับเธอตอนที่เธออยู่เธอก็จะตอบกลับให้ทันที และพุดคุยกันจนผมบอกลาเธอก่อนแทบทุกครั้ง(ชิงลาก่อน เป็นเทคนิคอย่างหนึ่งเวลาคุยกับสาว มีคนสอนผมมา)
ส่วนเวลาเรียน ผมก็มักจะเข้าไปคุยกับเธออยู่บ้าง
จนเราได้เรียนจบคอร์ด2
ผมเลยหาข้ออ้างขอถ่ายรูปกับกลุ่มเพื่อนของเธอ โดยเฉพาะเธอ ขอถ่ายคู่ด้วย ซึ่งเธอก็ไม่รังเกียจที่จะถ่ายด้วย
แล้วผมก็นำภาพทั้งหมดเอาไปลงไว้ใน facebook ซึ่งแน่นอนเธอโวยว่า ให้ลบทิ้งให้หมดเพราะเธอดูไม่สวย ตอนถ่ายยังไม่ได้แต่งหน้าเลยก็เลยต่อรองอยู่นาน
แน่นอนคำต่อรองกับเธอไม่เป็นผล แต่อย่างน้อยก็เหลือรูปถ่ายคู่กับเธอได้รูปหนึ่งและ รวมกับรูปถ่ายกับเพื่อนๆของเธอ
พอเรียนต่อคอร์ด3
ต่อมาผมจึงได้ร้อยลูกปัดรูปหัวใจให้แก่เธอด้วยซึ่งเธอก็รับไว้ (ที่ร้อยเป็นเพราะมีครั้งหนึ่งแม่ผมอยากเรียนก็เลยบังคับผมเรียนเป็นเพื่อน)
และวีรกรรมจู่โจมของผมก็ยังมาต่อเนื่อง ซึ่งต่อมา เธอจะได้โพสขึ้น ซึ่งเธอขอ 3คำ ผมเลยโพสบอกว่า Kimi o ai X eru (แปลว่าผมรักคุณเป็นภาษาญี่ปุ่น)
แน่นอน เธอสั่งให้ลบ ก็เลยมีการโต้เถียงกันเล็กน้อย สรุปว่าถ้ายอมกดlikeให้คำนี้ผมจะลบให้ แต่ว่ามีคนโพสต่อมาอีก เธอเลยบอกว่าไม่ต้องลบแล้ว เดี้ยวลบไปเรื่องมันจะยาวคนอื่นจะมาถามโน้นนี่อีก
แต่เธอก็ยอกกด likeให้ (แต่ก็ไม่ใช่ผมคนเดียวหรอกเล่นกดให้หมดทุกคนเลย)
จนมาถึงวันหนึ่ง ก็ผมพูดคุยตามปกติ ถามสารทุกข์สุขดิบ เธอบอกว่าวันนี้รีบกลับบ้านเพราะแฟนมา เธอมีความสุขมาก
ผมได้แต่นั่งอึ้งอยู่หน้าจอ คิดไรไม่ออก ได้แต่บอกว่า ไม่ขอรบกวนแล้ว และขอบคุณทุกอย่าง และบอกลาเธอ
เธอถามว่าเป็นไรรึเปล่า ผมได้แต่ตอบว่า เธอมีความสุขผมก็ok และบอกลาเธอ
ผมได้แต่นิ่งเงียบคนเดียว ถามว่าเจ็บมั้ย เจ็บแต่ผมมีความรู้สึกว่า ดี(สะใจ) ซึ่งผมเองก็บรรยายอะไรไม่ถูกในตอนนั้น
แต่มันไม่เจ็บเท่ากับครั้งนั้น อย่างน้อยในใจของผมก็บอกว่า นายได้ทำถึงที่สุดแล้ว
จากนั้นผมก็เลิก Chatหาเธอ จนถึงวันมาเรียนซึ่ง ผมก็ทำตัวปกติเฮฮากับเพื่อนฝูงหมู่ผู้ชายด้วยกัน แต่ไม่เข้าไปคุยกับกลุ่มของเธอเหมือนเมื่อก่อน
พอเลิกเรียนกลับถึงบ้าน เธอได้ chat เข้ามาถามว่าเป็นอะไร พวกเพื่อนของเธอเขาหาว่าเธอแกล้งอะไรผมรึเปล่า
ผมตอบกลับว่า เปล่า ขอบคุณที่เป็นห่วง และผมไม่รู้สึกเสียใจที่ได้ชอบและบอกเธอ และอย่างที่ผมเคยบอกไว้วันใดที่เธอมีแฟนแล้วผมก็ยินดีที่จะถอย
เธอก็เลยถามว่า ไม่สงสัยหรือถามเลยรึว่าแต่ก่อนบอกไม่มีแฟน แต่ตอนนี้มีแล้ว
ผมจึงบอกว่า มันเป็นสิทธิของเธอ
แต่เธอบอกว่า อยากบอกว่าคนนั้นชื่อกบ จากต้นรักริมรั้ว (ก็คือดารา)
ก็เลยเกิด ดราม่าแนวกุ๊กกิ๊กกันเล็กน้อย
จนเธอเล่าให้ผมฟังว่าทำไมเธอถึงไม่อยากมีแฟน
สาเหตุเกิดจากเธอเคยมีแฟนจึงถึงขั้นเขาคนนั้นจะขอเธอแต่งงาน แต่เธอให้รอก่อน จนเขาคนนั้นก็มีผู้หญิงอื่น เธอเลยเจ็บมาจนทุกวันนี้และปฏิเสธทุกคนที่เข้ามาจีบเธอ
เธอบอกว่าเธอเบื่อผู้ชาย ขอให้ผมเป็นแค่เพื่อนของเธอ เธอบอกว่าเธอเหนื่อย
แล้วคิดว่าผมจะยอมมั้ยละ
ผมเลยบอกเธอว่า คำเดียว ผมไม่เหนื่อย แต่ถ้าคุณบอกว่ารำคาญเมื่อไรผมก็ยินดีที่จะไป โดยไม่เสียใจอะไรทั้งสิ้น
นั้นคือสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ และผมตั้งใจไว้จะลุยให้ถึงที่สุด แม้โอกาสจะมีแค่ 1 ผมก็จะคว้าไว้
(เรื่องไร้สาระมากๆ) แด่คนที่แอบรักใครสักคนหนึ่ง(ที่ว่างมากจนไม่รู้จะทำไรในคืนนี้)
ถ้ายัง จงบอกรักเค้าตอนที่ยังมีโอกาสได้บอก ถึงจะผิดหวัง และเสียใจ แต่อย่างน้อยให้เชื่อผมเถอะ มันเจ็บน้อยกว่าที่เราไม่ทำอะไรเลย ทั้งๆที่โอกาสอยู่ตรงหน้า
(ผมไม่ขอเล่ารายละเอียดมาก แค่ให้เข้าใจเฉยๆ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
(สิ่งที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ เป็นการพูดความคิดเข้าข้างตัวเองสุดๆไว้ก่อน เพราะฉะนั้นอ่านไปกรุณาพิจารณาให้ถี่ถ้วน)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้