ว่าด้วยเรื่องภาษีคนโสด

ทราบข่าวว่านักวิชาการ ม.รังสิตท่านหนึ่งได้เสนอให้จัดภาษีคนโสด เพื่อพัฒนาประเทศทั้งแรงงาน งบประมาณ และครอบครัว
ถ้าว่าในเชิงทฤษฎี คงทำได้ล่ะครับ... แต่ในเชิงปฏิบัติแล้ว... คงใช้ไม่ได้แน่นอน 555++
ภาษีคนโสด จริงๆ แล้วไม่ใช่เรื่องใหม่นะ
เคยใช้ในสมัยจอมพล ป. ในช่วงนโยบายรัฐนิยม
ตอนนั้นท่านต้องการให้มีประชากร มีครอบครัวมากขึ้น
เลยเก็บภาษีสำหรับผู้ชายที่ยังไม่มีศรีภรรยากันทุกคน
เข้าประเด็น>>ถามว่าในเชิงทฤษฎี มันช่วยได้ไหม? ได้
แต่ในเชิงปฏิบัติแล้ว มันไม่ได้ฮะ... เพราะ
1.เป็นการบีบบังคับคนต้องมีสามีภรรยากันอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกับคนที่คิดว่า "โสด" ตลอดชีวิต
2.มีคนหลายกลุ่มที่เป็นกลุ่มรักร่วมเพศ (รวมถึงตัวผมด้วย) ซึ่งถ้ากฎหมายนี้เกิดขึ้นแล้วจะมีปัญหาใหญ่มาก
3.คนที่เป็นนักบวชไม่ว่าพระในศาสนาพุทธ หรือบาทหลวง (คุณพ่อ) ภารดาในศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก ไม่เสียภาษีด้วยหรือ
4.เกิดอาชีพ "รับจ้างจดทะเบียน" คือจดทะเบียนกันแค่ตามกฎหมายเพื่อเลี่ยงภาษี พอถึงอายุที่ไม่ต้องเสียภาษีก็หย่ากัน ทรัพย์สินตกลงกันเองเน้อ
5.คนจนๆ ที่ไม่มีแฟนก็ต้องเสียภาษีกันหมด ปกติเราจะเสียภาษีทางอ้อมก็มากพออยู่ ทั้งภาษีสรรพสามิต (หลักๆ ก็เหล้า เบียร์ บุหรี่ แอร์) ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% หรือแม้กระทั่งภาษีโน่นนั่นนี่ (ทุกวันนี้ก็เก็บกันมากแล้ว)
6.ประชากรจะล้นประเทศ ในขณะที่หลายประเทศมีนโยบายลดจำนวนประชากรอย่างจีน หรือจะเป็นปัญหาอย่างอินเดีย ที่มีสามีภรรยาแต่อายุยังน้อย ทำให้มีประชากรมากถึงนับพันล้านคน
และ 7.ยังมีนโยบายที่ดีกว่านี้อย่างการใช้แรงจูงใจเช่น ให้เงินสวัสดิการเลี้ยงดูกรณีที่มีลูก ซึ่งแม้ว่าจะไม่สำเร็จ แต่อย่างน้อยผลกระทบก็จะน้อยกว่าการเก็บภาษีคนโสด
ก็คงว่านั้นแหละ ถ้าทำเหมือนนักวิชาการกล่าวคงทำไม่ได้แน่ๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่