เรื่องราวนี้เกิดขึ้นกับเพื่อนสนิทของน้องสาวดิฉันเองคะ
น้องสาวฉันเรียนอยู่ม.ปลายมีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่ง ขอสมมุติว่าชื่อ "น้องเอ" ก็แล้วกันนะคะ
น้องเอเป็นคนที่เรียนเก่งและกิริยามารยาทเรียบร้อยมากค่ะ แถมจิตใจอ่อนโยนอีกด้วยจากประสบพบเจอหลายครั้งแล้ว
ตัวดิฉันก็สนิทกับน้องเออยู่พอควรเพราะพี่ชายของน้องเอแต่ก่อนเคยเป็นเพื่อนร่วมห้องของดิฉัน
น้องดิฉันเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่มีการเปิดเทอมม.ปลายมาได้สักพัก น้องเอก็เริ่มไม่มาโรงเรียน น้องดิฉันก็เป็นห่วงโทรไปหา แล้วก็ได้คำตอบว่าน้องเอมีโรคประจำตัวที่ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน น้องดิฉันก็ไม่เอะใจอะไรเพราะสมัยม.ต้นน้องเอก็เคยหยุดเพราะเป็นโรคประจำตัวนี้อยู่แล้ว ห่างหายไปได้สักพัก ล่าสุดที่เจอกันครอบครัวพาน้องเอมาลาออก เพื่อนในห้องตกใจกันมาก น้องดิฉันกับเพื่อนสนิทสองสามคนก็ลากน้องเอมาสอบถามว่าทำไมถึงลาออก น้องเอมีอาการอึกอักไม่กล้าบอกจนน้องดิฉันเค้นแล้วเค้นอีก น้องเอเลยยอมบอกว่า "ตัวเองท้อง"
ทุกคนพากันตกใจมาก ถามว่าเกิดอะไรขึ้น น้องเอบอกว่า
ในห้องนั้น เรามีก็มีเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก แต่พออยู่ม.ปลายก็ไม่ได้คุยอะไรกันมากแล้ว (ขอสมมุติให้เด็กผู้ชายคนนี้ชื่อน้องบีนะคะ) น้องบีมีน้องสาวชื่อน้องซี น้องเอก็เลยสนิทกับน้องซีมาก มีอยู่วันหนึ่งน้องบีโทรมาหาน้องเอ บอกว่าตอนนี้น้องซีไม่สบายหนัก เขาอยากจะให้น้องเอมาที่บ้านช่วยพาน้องซีไปโรงพยาบาลที น้องเอตอบตกลงทันี และรีบไปที่บ้านกลับพบว่า ที่บ้านไม่มีใครอยู่เลยสักคน มีเพียงพี่ชายของน้องบีรออยู่!!!!!!" น้องบียังเล่าให้น้องดิฉันฟังต่อไปว่า พี่ชายน้องบีคนนี้ได้ข่มขืนน้องเอ ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่ได้กระทำหลายครั้ง!!! น้องบีหนีออกมาและไม่ยอมเล่าให้พ่อแม่ฟัง จนน้องเอทนไม่ไหวยอมบอกพ่อแม่ไป พ่อแม่รู้เข้าก็จะพาไปแจ้งความ แต่น้องเอบอกว่าไม่อยากแจ้งเพราะเห็นแก่น้องบีที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กแต่ ครอบครัวทางฝ่ายน้องบีโทรให้น้องเอมาคนเดียว แล้วรู้ไหมค่ะ ต่อจากนี้ที่น้องดิฉันเล่าให้ฟัง กลับทำให้ดิฉันปรี๊ดแตกเลย พ่อแม่ฝ่ายนั้นบอกว่า
"เขาไม่ขอรับผิดชอบแถมยังบอกอีกว่า ถ้าท้องก็ไปทำแท้งซะ เขาจะจ่ายค่าทำแท้งให้"
ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าครอบครัวนี้ดี เท่านั้นยังไม่พอ ต่อมาน้องเอคิดว่าร่างกายตัวเองผิดปกติก็เลยไปหาหมอคนเดียว ผลปรากฏว่า น้องท้องได้หลายสัปดาห์แล้ว ครอบครัวนั้นเหมือนจะนกรู้ ส่งลูกชายคนโตหนีไปต่างประเทศทันที !!!!! น้องบีก็ไม่สนใจน้องเอเลยเลยสักนิด
ไม่นานน้องเอก็แท้ง เคยคิดตอนที่น้องเอท้องอยู่นะคะว่า จะให้คำปรึกษาให้ไปทำแท้งดีหรือเปล่านะเพราะอายุครรภ์ยังไม่ถึงเดือน แต่อีกใจก็คิดว่ามันเป็นบาปหรือเปล่า??? ได้แต่อโหสิกรรมกับครอบครัวนั้น ขอให้เรื่องน้องเอนั้น สักวันเกิดขึ้นกับน้องซีของครอบครัวนั้นสักวันเถอะ แล้วจะรู้สึก!!!!
ตอนนี้น้องเอคิดจะฟ้องครอบครัวนั่นแล้วค่ะ เลยอยากจะขอคำปรึกษาว่าจะทำยังไง เพราะดิฉันไม่รู้ว่าจะหาหลักฐานไหนมาฟ้องครอบครัวนั้นอย่างไรดี ขอความกรุณาด้วยคะ
เพื่อนสนิทน้องสาวถูกข่มขืน จะฟ้องศาลยังไงดีคะ?
น้องสาวฉันเรียนอยู่ม.ปลายมีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่ง ขอสมมุติว่าชื่อ "น้องเอ" ก็แล้วกันนะคะ
น้องเอเป็นคนที่เรียนเก่งและกิริยามารยาทเรียบร้อยมากค่ะ แถมจิตใจอ่อนโยนอีกด้วยจากประสบพบเจอหลายครั้งแล้ว
ตัวดิฉันก็สนิทกับน้องเออยู่พอควรเพราะพี่ชายของน้องเอแต่ก่อนเคยเป็นเพื่อนร่วมห้องของดิฉัน
น้องดิฉันเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่มีการเปิดเทอมม.ปลายมาได้สักพัก น้องเอก็เริ่มไม่มาโรงเรียน น้องดิฉันก็เป็นห่วงโทรไปหา แล้วก็ได้คำตอบว่าน้องเอมีโรคประจำตัวที่ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน น้องดิฉันก็ไม่เอะใจอะไรเพราะสมัยม.ต้นน้องเอก็เคยหยุดเพราะเป็นโรคประจำตัวนี้อยู่แล้ว ห่างหายไปได้สักพัก ล่าสุดที่เจอกันครอบครัวพาน้องเอมาลาออก เพื่อนในห้องตกใจกันมาก น้องดิฉันกับเพื่อนสนิทสองสามคนก็ลากน้องเอมาสอบถามว่าทำไมถึงลาออก น้องเอมีอาการอึกอักไม่กล้าบอกจนน้องดิฉันเค้นแล้วเค้นอีก น้องเอเลยยอมบอกว่า "ตัวเองท้อง"
ทุกคนพากันตกใจมาก ถามว่าเกิดอะไรขึ้น น้องเอบอกว่า
ในห้องนั้น เรามีก็มีเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก แต่พออยู่ม.ปลายก็ไม่ได้คุยอะไรกันมากแล้ว (ขอสมมุติให้เด็กผู้ชายคนนี้ชื่อน้องบีนะคะ) น้องบีมีน้องสาวชื่อน้องซี น้องเอก็เลยสนิทกับน้องซีมาก มีอยู่วันหนึ่งน้องบีโทรมาหาน้องเอ บอกว่าตอนนี้น้องซีไม่สบายหนัก เขาอยากจะให้น้องเอมาที่บ้านช่วยพาน้องซีไปโรงพยาบาลที น้องเอตอบตกลงทันี และรีบไปที่บ้านกลับพบว่า ที่บ้านไม่มีใครอยู่เลยสักคน มีเพียงพี่ชายของน้องบีรออยู่!!!!!!" น้องบียังเล่าให้น้องดิฉันฟังต่อไปว่า พี่ชายน้องบีคนนี้ได้ข่มขืนน้องเอ ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่ได้กระทำหลายครั้ง!!! น้องบีหนีออกมาและไม่ยอมเล่าให้พ่อแม่ฟัง จนน้องเอทนไม่ไหวยอมบอกพ่อแม่ไป พ่อแม่รู้เข้าก็จะพาไปแจ้งความ แต่น้องเอบอกว่าไม่อยากแจ้งเพราะเห็นแก่น้องบีที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กแต่ ครอบครัวทางฝ่ายน้องบีโทรให้น้องเอมาคนเดียว แล้วรู้ไหมค่ะ ต่อจากนี้ที่น้องดิฉันเล่าให้ฟัง กลับทำให้ดิฉันปรี๊ดแตกเลย พ่อแม่ฝ่ายนั้นบอกว่า
"เขาไม่ขอรับผิดชอบแถมยังบอกอีกว่า ถ้าท้องก็ไปทำแท้งซะ เขาจะจ่ายค่าทำแท้งให้"
ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าครอบครัวนี้ดี เท่านั้นยังไม่พอ ต่อมาน้องเอคิดว่าร่างกายตัวเองผิดปกติก็เลยไปหาหมอคนเดียว ผลปรากฏว่า น้องท้องได้หลายสัปดาห์แล้ว ครอบครัวนั้นเหมือนจะนกรู้ ส่งลูกชายคนโตหนีไปต่างประเทศทันที !!!!! น้องบีก็ไม่สนใจน้องเอเลยเลยสักนิด
ไม่นานน้องเอก็แท้ง เคยคิดตอนที่น้องเอท้องอยู่นะคะว่า จะให้คำปรึกษาให้ไปทำแท้งดีหรือเปล่านะเพราะอายุครรภ์ยังไม่ถึงเดือน แต่อีกใจก็คิดว่ามันเป็นบาปหรือเปล่า??? ได้แต่อโหสิกรรมกับครอบครัวนั้น ขอให้เรื่องน้องเอนั้น สักวันเกิดขึ้นกับน้องซีของครอบครัวนั้นสักวันเถอะ แล้วจะรู้สึก!!!!
ตอนนี้น้องเอคิดจะฟ้องครอบครัวนั่นแล้วค่ะ เลยอยากจะขอคำปรึกษาว่าจะทำยังไง เพราะดิฉันไม่รู้ว่าจะหาหลักฐานไหนมาฟ้องครอบครัวนั้นอย่างไรดี ขอความกรุณาด้วยคะ