นักวิชาการหนุนเก็บภาษีคนโสด

ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับการเก็บภาษีคนโสด นะครับ  ส่วนตัวมองว่าถ้าต้องการเพิ่มการแต่งงาน ควรมีมาตรการแบ่งเบาภาระผู้ที่มีครอบครัว และส่งเสริมการแต่งงาน เช่นที่สิงคโปร์มีนโยบายให้เงินกับครอบครัวที่มีลูก ยิ่งมีลูกมากเท่าไหร่ รัฐบาลก็จะให้เงินมากเท่านั้น

ยิ่งเก็บภาษีคนโสดมากเท่าไหร่ ผมว่ายิ่งโสดกันมากขึ้น

คิดอย่างไรกันบ้างครับ

นักวิชาการหนุนเก็บภาษีคนโสด


นายเทอดศักดิ์ ชมโต๊ะสุวรรณ เลขานุการคณะเศรษฐศาสตร์ และอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยในการอภิปรายหัวข้อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจและนโยบายการรองรับในสองทศวรรษหน้าว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญความเสี่ยงเกิดปัญหาขาดแคลนแรงงาน โครงสร้างประชากรไม่สมดุล และต้องเสียงบประมาณดูแลผู้สูงอายุจำนวนมาก หลังประชากรในวัยรุ่นวัยทำงานมีแนวโน้มเพิ่มต่ำลง สวนทางกลับกลุ่มผู้สูงอายุที่เพิ่มต่อเนื่อง โดยอัตราการเจริญพันธุ์ของไทยขณะนี้ต่ำมากเพียง 1.6 ต่อครอบครัว หรือ 1 คู่สมรส มีลูกเพียง 1 คนกว่าเท่านั้น ทั้งที่จริงต้องมีลูกขั้นต่ำ 2-3 คน ถึงจะเพียงพอต่อการทดแทนประชากรเดิมที่ตายไป

ทั้งนี้สาเหตุที่คนไทยมีลูกน้อย มาจากแนวโน้มสังคมเมืองและเศรษฐกิจที่เติบโตรวดเร็ว เพราะเมื่อเศรษฐกิจดีหนุ่มสาวจะเลือกทำงานเพื่อสร้างฐานะ ความมั่นคงในชีวิตมากกว่าการหาคู่แต่งงานสร้างครอบครัว ประกอบกับปัจจุบันค่าครองชีพ และต้นทุนในการเลี้ยงดูบุตรสูงขึ้น ทั้งค่าเล่าเรียน ค่ารักษาพยาบาล สินค้าข้าวของแพงขึ้น ครอบครัวส่วนใหญ่จึงเลือกมีลูกน้อย เพราะกลัวจะดูแลได้ไม่ดี ซึ่งต่างจากอดีตในสังคมเกษตร ที่คนไทยมีลูกมากเพราะต้นทุนการเลี้ยงดูไม่สูง

นายเทิดศักดิ์กล่าวว่า แนวทางแก้ไขภาครัฐควรออกนโยบายสนับสนุนให้คนไทยมีลูกเพิ่มขึ้น เช่น โครงการลูกคนแรก โดยรัฐช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่าย การเลี้ยงดูให้กับครอบครัวที่มีลูกคนแรก รวมถึงให้เงินอุดหนุน หรือลดภาษีสำหรับครอบครัวที่มีลูกคน 2 และ 3  นอกจากนี้ควรเรียกเก็บภาษีคนโสด ภาษีคนไม่มีลูก กระตุ้นให้มีครอบครัวเพื่อลดภาระงบประมาณ การใช้สวัสดิการดูแลของภาครัฐในอนาคต

“สถิติตั้งแต่ปี 47 พบว่าสังคมไทยได้เป็นสังคมผู้สูงอายุแล้ว โดยมีสัดส่วนประชากรที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ถึง 10% ของประชากรรวม และคาดว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า หรือปี 67 ประเทศไทยจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มขั้น คือ มีสัดส่วนคนอายุเกิน 60 ปี สูงเกิน 20% ซึ่งจะเกิดผลกระทบต่อภาพรวมในการพัฒนาเศรษฐกิจ แรงงาน และพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชากรในประเทศ เพราะแต่ละช่วงอายุมีพฤติกรรมใช้จ่ายที่แตกต่างกัน”

ที่มา:http://www.chaoprayanews.com/2013/09/06/%E0%B8%8B%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%AA%E0%B8%94-%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่