เมื่อคนเกาหลีใต้ไม่ชอบ Samsung

ผมเคยคิดว่า แซมซังคือเกาหลี , เกาหลีคือแซมซัง มาแต่ไหนแต่ไร

เมื่อไม่นานมานี้ผมได้รู้จักกับคำว่า "แชโบล" ครับ มันสั่นคลอนความคิดนี้ของผม

กล่าวโดยย่อ แชโบล ก็คือ กลุ่มธุรกิจครอบครัวขนาดยักษ์(ธุรกิจเอกชนระดับเรือธงของเกาหลีใต้) ที่มีรายได้รวมกันแล้วคิดเป็น GDP ส่วนมากของประเทศเกาหลีใต้ (ประมาณ 80%) ส่วนมากก็เป็นบริษัทชื่อดังที่เรารู้จักกันดีเช่น Samsung, LG, Hyundai ซึ่งนอกจากจะผลิตสินค้าที่ต้องใช้ทุกครัวเรือน ยังมีอิทธิพลที่ครอบงำชีวิตคนเกาหลีด้วย ทั้งด้านการเมือง ที่อยู่ ที่ทำงาน (ซึ่งอาจจะเป็นเพราะความเป็นชาตินิยมของคนเกาหลีด้วย จนทำให้คนบางกลุ่มมีอิทธิพลต่อชาติตนเองมาขึ้น) แชโบลทำให้เกาหลีใต้ยิ่งใหญ่ขึ้นจริงๆ แต่ก็ทำให้ประชาชนเกาหลีแทบหมดโอกาสทำมาหากินไปด้วย

ลองอ่านดูนะครับ น่าสนใจทีเดียว
http://www.suanboard.net/view.php?p=view&kid=68886
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9550000043473

มีการเอาเรื่องราวของแชโบลไปดัดแปลงลงบทละครด้วย :: http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2012/07/A12378022/A12378022.html

แล้วทีนี้หันมองประเทศเราดูบ้าง วันนี้เราอาจจะยังไม่มีแชโบลในไทย
แต่ในไม่กี่ปีข้างหน้าคุณคิดว่า บริษัทไหนบ้างที่พอจะเข้าเค้าคำว่า "แชโบล" ของไทยได้บ้างครับ
แล้วจะเตรียมตัวรับมือยังไงดี

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
ยุทธศาสตร์แชโบ เป็นยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลเกาหลีใช้เพื่อพัฒนาประเทศจากประเทศด้อยพัฒนาให้กลายเป็นประเทศพัฒนาแล้ว
หลักการคือ
เลือกบริษัทที่ทำธุรกิจหรืออยู่ในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มีความแข็งแกร่งพอจะแบกการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศไปข้างหน้าได้
ซึ่งตอนแรกจะเป็นอุตสาหกรรมเหล็ก นำมาโดย แดวู (ผลิตรถยนต์ ต่อเรือ อุตสาหกรรมเหล็กครบตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ)
ต่อมาก็พลังงาน (จำชื่อม่ได้) เทเลคอม (SK Telecom) และ consumer electronic (ซัมซุง และ แอลจี)

เดิมเกาหลีมีทรัพยากรอยู่พอสมควร จึงดึงดูดฝรั่งให้เข้ามาลงทุน ซึ่งรัฐบาลก็เปิดกว้างภายใต้เงื่อนไขว่าต้อง JV กับ 1 ใน แชโบ สัดส่วนสูงสุดไม่เกิน 50%
ตรงนี้เองเป็นจุดเริ่มต้นยุทธศาสตร์ copy & development และ benchmarking ของเกาหลี (เป้าหมาย benchamrking ง่ายมากครับ คือ ทำอย่างไรก็ได้ให้ชนะญี่ป่น)  (ยุทธศาตร์รองๆ ก็มีอีกหลายอย่าง เช่น คนเกาหลีทุกคนต้องรู้ภาษาอังกฤษ เพื่อจะดูดซับองค์ความรู้ทาง ตต. ได้)
คนเกาหลีก็ไม่ต้องบอกอยู่แล้วยุทธศาสตร์นี้ยังไงก็เอาด้วย (เพราะตอนนั้นยังเกลียดญี่ปุ่นกันพอสมควร) มุมานะทำงานเพื่อสร้างบริษัทเกาหลีให้ไปชนะญี่ปุ่นให้ได้

เริ่มเห็นชัดตอนช่วง '90
ตอนนั้น GDP เกาหลีโตระดับเลข 2 หลักต่อเนื่องหลายปี (ระดับ GDP เข้าไปใกล้เคียงกับญี่ปุ่น) จนถูกเรียกเป็นเสือเศรษฐกิจตัวใหม่ของเอเซีย หรือฝรั่งเรียกว่า "Miracle on Han river" (ไทยเราก็โตประมาณนั้นเหมือนกันนะ แล้วก็โดนคาดหมายเหมือนกันว่าจะเป็นเสือตัวที่ 5) ส่วนหนึ่งเกิดจาการที่รัสเซียล่มสลาย เกาหลีจึงสามารถ recruit วิศวกรรัซเซียมาทำงานในบริษัทเกาหลีได้จำนวนมาก

ต้มยำกุ้ง 1997
แล้วไทยเราก็เป็นสาเหตุของความล่มสลาย เมื่อปี 1997 ทำเอาตอนนั้นเกาหลีก็ทรุดตามไปด้วย
ไม่ต้องบอกสำหรับ แชโบ ที่เป็นหลักในการพัฒนาธุรกิจของประเทศ ทรุดไปพอกัน
แต่ก็กลับมาได้เร็วเพราะความมีระเบียบวินัย ความขยัน อดทน และเสียสละของคนเกาหลี (ว่ากันว่าช่วงนั้น นายกฯ เกาหลีออกมาเรียกร้องให้ชาวบ้านบริจาคทองเพื่อไปชำระหนี้ต่างประเทศและเอามาเป็นทองคำสำรองในคลัง ประชาชนเกาหลีก็กลับเข้าไปในบ้านเอาทองมาบริจาคกันใหญ่)

รัฐบาลทบทวนบทบาทแชโบ
แชโบเคยเป็นหัวเรือหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจ แต่จากวิกฤต 1997 ก็เห็นแล้วว่ารัฐบาลผ่อนผันให้แชโบอย่างมาก เหมือนเป็นการเอาประเทศไปผูกกับบริษัทเหล่านี้ จึงยกเลิกระบบแชโบ แล้วปล่อยให้บริษัทต่างๆ ยืนด้วยขาตนเอง และต่อสู้กันเองบ้างเพื่อความแข็งแกร่ง

ปัจจุบันระบบแชโบ เหลือแต่ชื่อเท่านั้น ความแข็งแกร่งของบริษัทอดีตแชโบ มาจากฝีมือการบริหารของผู้บริหารเท่านั้น รัฐบาลไม่ได้ยุ่งด้วยแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่