ประสบการณ์แย่ๆๆๆๆ กับ B- quik

กระทู้สนทนา
วันนี้ ขณะที่เรากับเพื่อนกำลังขับรถกลับบ้านออกจากซอยที่ทำงานมาได้ไม่ถึงกิโล  ก็รู้สึกถึงความผิดปกติคือมีเสียงดังเหมือนมีอะไรอยู่ในห้องเครื่อง แล้วก็หมุนตลอดเสียงดังจนตกใจ แล้วแอร์ก็ไม่เย็น มีกลิ่นไหม้ ก็เลย เปิดไฟฉุกเฉิน เข้าข้างทาง พบว่าสายพานขาด แต่ไม่ได้ขาดทั้งก็ยังพอขับได้  แต่เราก็เป็นผู้หญิงเพื่อนก็ผู้หญิงด้วย ก็เลยเออหาร้านเข้าดีกว่าเพราะกว่าจะถึงบ้านต้องไปอีกไกล เพราะเราก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอะไรไหม อ่ะใกล้สุด ก็บีควิก แยกพัฒนาการ รู้ว่าน่าจะต้องเสียเยอะ เพราะต้องมี สายพาน ลูกปืน ลุกรอก อีก ก็ยอม เพราะเชื่อใจเขาเพราะเป็นร้านใหญ่ พอเข้าไปจอด ก็มีช่างวิ่งมาดู  แล้วเขาก็ไปเรียกช่างใหญ่มาวิเคราะห์อีกที ว่าโหต้องเปลี่ยนสายพาน 2 เส้นนะครับ 1,200 บาท ลูกปืน ลูกรอก 300 ค่าแรง 300 เราก็โอเคนะ ทำเลยค่ะ เขาก็คิดตังมา 1,800  บาท  เราก็ตกลงไปเดินซุปเปอร์มาร์เก็ตกับเพื่อนก็สบายใจละว่าถึงมือช่างผ่านไป ชั่วโมงนึงได้ เขาก็โทรมาหาว่า พี่ครับ ตัวลูกรอกลูกปืนที่ 300 ไม่มีครับ มีแต่เป็นชุดที่แพงอ่ะครับ มีแต่ตัว 750 รวมแล้วก็ 2250  บาท เราก็ขอต่อเขา เขาก็คุยกับผู้จัดการ ก็ยอมลดให้เหลือ 2,000 บาท ถ้วน เขาบอกว่าตรงนี้เป็นความผิดของช่าง เราก็อืมดีจังมีความรับผิดชอบ ก็ชมกับเพื่อน ก็นั่งสบายใจกันไป เพราะเขาบอกว่าทำแล้วไม่นานก็เสร็จ  สักครึ่งชั่วโมงได้แฟนโทรมาบอกว่า ช่างโทรมาบอกว่ารถซ่อมไม่ได้นะ มีอีกอันนึงเสียถ้าจะซ่อมต้องจอดไว้ค้างคืน ไม่มีอะไหล่เปลี่ยน เราก็เอ๊ะ แปลกใจว่าใครโทรหาแฟนเรา ก็ถามเบอร์โทรว่าใช่เบอร์เดียวกันไหมสรุปว่าใช่ อ้าวทำไมโทรหาแฟนล่ะ แฟนอยู่บ้าน เราอยู่พัฒนาการนี่นะ  ก็เลยโทรกลับไปที่เบอร์มือถือนี้ สรุปว่าเขาโทรไปหาแฟนจริงแล้วก็ซ่อมไม่ได้ด้วย
ก็เริ่มมีอารมณ์ที่  ว่าเอ๊ะทำไมก่อนที่คุณจะมาคิดเงินกับเราอ่ะ  คุณไม่เช็คให้ดีก่อนล่ะว่ามันเสียหายตรงไหนบ้าง ให้นั่งรอเกือบ 2 ชั่วโมงเนี่ยนะ เม่าในกองไฟ  แล้วที่แล้วไปใหญ่คือ คุณทำไมไม่โทรบอกเราล่ะ ในเมื่อทุกครั้งคุณก็ขอเบอร์คนขับอ่ะ
ก็เลยไปที่ร้านถามว่าทำไมไม่เช็คก่อนล่ะคะว่ามันซ่อมไม่ได้หรือว่าเป็นอะไรบ้าง เราได้คำตอบว่า  ........  โอียมันเช็คไม่ได้หรอกครับ แค่เนี้ย

แล้วอีกคำถามคือทำไมคุณโทรไปเบอร์นั้น ไอ้คุณช่างตอบว่าก็ผมค้นในระบบ เราก็ถามกลับว่า แล้วถ้ารถมันเปลี่ยนมือ หรือ ลูกค้าเปลี่ยนเบอร์โทรคุณจะทำยังไง  ก็ยังเถึยงนะ ก็มันมีในระบบ  ค่ะไม่เอาไม่พูด ไม่มีคำอื่นแล้วใช่ไหม!!!!  เราก็ถามอีกว่าแล้วใบที่ให้เขียน ชื่อ ที่อยู่ วันเดือน ปีเกิด เบอร์โทรอีกเมล คุณเอาไปไว้ไหน   ไอ้คุณช่างคนเดิม ก็ตอบแบบ รับไม่ได้ว่า  ผมหาไม่เจอ
เห้ย ร้านคุณไม่ได้ใหญ่โต แล้วเวลาส่งงานให้ซ่อมคุณก็ต้องเอาใบนั้นให้ต่อด้วยไม่ใช่เหรอ แล้วที่สำคัญนะคะ  เบอร์โทรอยู่กับกุญแจรถอ่ะ  คุณหาไม่เจอ!!!!!!!!

        สรุปคือ ที่ถอดไปใส่กลับคืนที่เดิม ดิฉันก็ขับ 40 กลับบ้านเปิดแอร์ไม่ได้แล้วต้องขึ้นวงแหวนรอบนอกกลับ รถกระพริบไฟใส่กันใหญ่ทั้งที่ขับเลนส์ซ้ายแล้วแท้ๆๆ เฮ้อ เกือบไม่รอดถึงบ้านเพราะเกือบ 30 โลถึงจะถึงบ้าน

ที่มาพูดตรงนี้นะคะ  1.  ถ้าเกิดแฟนของเราติดต่อไม่ได้หรือทางแฟนหรือลูกค้านั้นๆเปลี่ยนเบอร์โทร มันจะเกิดอะไรขึ้นคะ รอต่อไปใช่ไหมคะ

                          2.  อยากให้ช่างนะคะรอบคอบกว่านี้ คุณห่วงแต่เรื่องเงิน ไอ้เสียเงินเราไม่ว่า แต่คุณช่วยรอบคอบว่าสรุปว่าเสียตรงไหนบ้างก่อนที่จะสรุปยอดเงิน  ซ่อมไม่ได้ตั้งแต่แรกจบนะคะ ไม่ว่ากัน

    และ                 3.  ช่างเถียงลูกค้า ไม่มีคำขอโทษจากพนักงานที่รุมกันอยู่ 3  คน  จริงๆคำขอโทษคำเดียวดิฉันก็จะโอเครับได้ แต่นี่เถียงเอาเถียงเอาแล้วน้ำเสียงที่ใช้มันแย่มากๆๆๆ

ดิฉันคงไม่เอาแล้วกับ ร้านนี้ เพราะเจอมาแต่ละที่ไม่ได้บริการดีสักที่เลย หรือเพราะรถเรามันเก่าไม่ใหม่หรูเหมือนคนอื่นรึป่าวคะ คุณถึงได้เลือกปฏิบัติ  แต่ไม่น่าใช่ เพราะมีอยู่วันนึงดิฉันไปเอารถไปตั้งศูนย์ยืนรอหน้าร้าน มีรถโตโยต้าแคมรี่ มาสูบลมยางรึอะไรสักอย่าง พอลูกค้าคนนั้นขึ้นรถยังไม่ทันออก  พนังกงานด่าทันที ว่า " อย่ามาให้เห็นหน้าอีกนะ" โอเอาฟังแล้วตกใจเลยอ่ะ เห้ยแบบว่าคุณจะไปว่ากันในร้านที่ไม่มีลุกค้าก็ได้นี่ นี่ลูกค้าก็ยืนเยอะอ่ะ  หลายครั้งกับบีควิก  คราวนี้คงพอจริงๆ  ค่ะ  กับบริการแย่ๆของคุณ กับพนักงานที่ไม่มีมารยาทเลย กับอะไรๆ ก็ขาดไม่มีๆๆๆ  

.....พาพันขอบคุณ  ขอบคุณนะคะไม่ว่าใครที่เข้ามาอ่าน เราแค่อยากแชร์ตรงนี้เพราะมันสุดๆๆๆจริงค่ะ และบอกไว้ตรงนี้เลยว่า
ไม่ได้จะเข้ามาดิสเครดิตใคร นี่เรื่องจริงเกิดวันนี้เมื่อหัวค่ำเลย



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่