สวัสดีคะ ขอท้าวความก่อนนะคะอาจจะยาวหน่อย เรากับแฟนอยู่กันด้วยกันมา2ปี การกินอยู่ใช้จ่ายจะเป็นเงินเราซะส่วนใหญ่
จะใช้เงินกระเป๋าเดียวกันเวลาเราลำบากเราก็ใช้กับเค้า เวลาเค้าลำบากเค้าก็ใช้กับเราประมาณนี้
เรา23 แฟน30 รายได้เรา30,000บาทอัพ แฟนเราไม่แน่ไม่นอนคะ 10,000-15,000บาท
เราทำงานกับที่บ้านเรา แฟนก็ทำกับที่บ้านของเค้า(ชั่วคราวระหว่างว่างงาน) ถ้าไม่พอก็จะมาขอเราหรือแม่ของเค้า
วางแผนจะแต่งงานกันตอนคบแรกๆๆคะ ไปๆๆมาๆๆแฟนบอกต้องรออะไรๆให้เค้าพร้อม เราก็โอเค เราเข้าใจเค้า
แฟนกับเรานับถือคนละศาสนา เราอิสลาม แฟนพุทธ ตอนคบกันใหม่ๆเราจะพูดให้เค้าเข้าใจศาสนาของเรายังไง
คุณพ่อเราเค้าก็พุทธครึ่งจีน แม่เราอิสลามครึ่งจีน (ประมาณว่ามาจากเชื้อสายของคนรุ่นก่อนนะค่ะ)
พ่อเราเข้ารับอิสลามทำตามหลักคำสอนทุกอย่าง พื่เขยก็พุทธเข้าอิสลาม (-*-รวมเชื้อชาติ)
มันมีประเด็นที่ว่าเราท้องตอนนี้ได้5เดือนกว่า เข้าเรื่องเลยนะคะ
เราพึงบอกกับแม่ตอนเราท้องได้4เดือนคะ แม่เราเสียใจมาก เค้าหวังพึงเราในด้านต่างๆ แต่เรากับเอียงไปทางแฟนซะส่วนใหญ่
แม่เราน้อยใจเรา อะไรๆก็แฟนหรือบ้านแฟน บ้านเราเรากับไม่สนใจเท่าไหร่เลย เราอยากได้รถแม่ก็ออกรถให้เพราะคิดเผื่อว่าแม่จะได้ใช้
แต่ไม่ใช่คะแม่เราไม่ได้ใช้ เรากับแฟนใช้ แต่เรากลับมาขอให้ท่านผ่อนรถให้อีก (แฟนเราก็ช่วยเรื่องผ่อนบ้างเวลาเราไม่อยากพึงแม่)
ตอนนี้เรามีปัญหาอยู่ตรงที่ว่า ก่อนเข้ารับอิสลามถ้าเป็นฝ่ายชายต้องทำตัวเองให้สะอาดซึ้งก็คือ ขลิบ
แล้วถึงจะปฏิยานตนได้ว่ามีพระเจ้าเพียงองค์เท่านั้น(คำกล่าวในการเข้าศาสนา)และถึงจะแต่งงานได้เป็นขั้นเป็นตอน
แฟนเราเค้ายอมแต่งงานคะ แต่มันมีเรื่องที่ว่า เค้าพึงไปสมัครงานใหม่ทำเกี่ยวกับ Maketing ขายมินิอุตสาหากรรมต้องไปที่ไซงานบ้าง
พึงเข้างานใหม่ๆก็คงลางานเป็นอาทิตย์เพื่อไปขลิบไม่ได้ ไหนจะไปไซงาน ถ้าลางานขนาดนี้เค้าคงไล่ออกแน่ แฟนว่ามาประมาณนี้
แอบงงค่ะบริษัทพึงเปิดตัว แค่2-3เดือน เค้าเริ่มเปิดไซงานกันแล้วหรอค่ะ คือเรากะว่าไซคงไม่เปิดเร๊วขนาดนั้นมั่งจะให้เค้าขลิบเลย
แต่เราก็ไม่ว่าไรค่ะ กลัวเค้าคิดว่าเราไปบังคับเค้า แต่ก่อนหน้านี้เค้าทำงานกับที่บ้านขายของ
เราก็คิดว่าถ้าลางานกับที่บ้านเค้าก็คงไม่ว่าไร แต่แฟนกับบ่ายเบี่ยงว่างานเหมือนกัน ได้แต่พูดว่าแต่งอะแต่งได้เลย แต่มันติดที่ขลิบ
เรากับแม่ก็ปรึกษากันว่าควรทำไงดี เพราะแฟนพูดๆๆแต่เรื่องงาน และเค้าพูดอีกว่าถ้าออกมาเนี่ยแล้วภาระค่าใช้จ่าย ใครจ่ายแม่เราใช้ไหม
เราก็เล่าให้แม่ฟังค่ะ แม่เราก็แอบอึ้งเพราะที่เค้าพูดมามันก็จริง
แม่เราเลยพูดกับเราว่า ลูกแม่ลูกเดือนร้อนแม่ก็ให้แล้วแม่เค้าไม่คิดจะช่วยหรอ
สรุปตอนนี้เราเป็นกลางค่ะ แม่อีกอย่างแฟนอีกอย่าง เราได้แต่นั่งถามแฟนเวลาทางบ้านเราเร่งลัดมาเพราะเวลาก็เหลือน้อยมากๆ
เราถามแฟนว่าแล้วจะขลิบได้จริงๆเมื่อไหร่ คำตอบคือ เมื่อลูกเราออกมาลืมตาดูโลกค่ะ เราเสียใจมากๆๆ ที่เค้าตอบแบบนี้
เราได้แต่คิดใจเค้าใจเราอะคะว่าเราไม่นึกถึงใจเราบ้างหรอ เหมือนโดนปฎิเสธอะไรซักอย่าง
เราก็คิดถึงเค้าเช่นกันถ้าเค้าขลิบก็คงเจ็บไปหลายวันคงลำบากแย่
คือตอนนี้เราเครียดมากค่ะ เป็นคนกลางต้องคอยสื่อให้ฝ่ายแม่และฝ่ายแฟนให้เข้าใจ ฝ่ายแม่ก็จะคอยถามว่าแฟนว่าไงๆ
เราก็ได้แต่พูดไม่ออกเพราะแฟนก็ยืนยันคำตอบเดิม ว่า งาน อยากบอกว่าตั้งแต่คบกันมาแฟนไม่เคยเข้าบ้านเราซักครั้ง
เราไม่รู้ว่าเราเห็นแก่ตัวไปไหม ลูกผู้ชาย เรื่องมันเกิดขึ้นมาแล้ว จะรับผิดชอบคนทั้งที ก็อยากจะให้มาเป็นแม่เราบ้าง แม่เราเค้าไม่เร่งหรอกถ้าไม่เกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆ ถ้าเป็นคนในครอบครัวเค้า
เจอประสบปัญหาแบบเรา ท้องแล้วบอกไม่พร้อมจะแต่งจะรู้สึกยังไง ท่านให้โอกาสอยู่จะรอเวลาไม่กลัวมันจะหมดหรอ ถ้าคิดในมุมเรา
เราก็เสียใจเพราะเค้าบอกเค้ามีภาระ ซึ้งเรื่องทั้งหมดเราก็มีส่วนผิดเช่นกัน ที่บ้านเราก็ปลอบเราว่าไม่เป็นไรๆ เค้าไม่แต่งก็ปล่อยเค้า หลานคนเดียวเลี้ยงได้สบายมาก
ช่วยทีคะคิดไม่ออกว่าควรทำไง
การแต่งงานที่ติดตรงที่ ขลิบ อย่างเดียวช่วยด้วยคะ
จะใช้เงินกระเป๋าเดียวกันเวลาเราลำบากเราก็ใช้กับเค้า เวลาเค้าลำบากเค้าก็ใช้กับเราประมาณนี้
เรา23 แฟน30 รายได้เรา30,000บาทอัพ แฟนเราไม่แน่ไม่นอนคะ 10,000-15,000บาท
เราทำงานกับที่บ้านเรา แฟนก็ทำกับที่บ้านของเค้า(ชั่วคราวระหว่างว่างงาน) ถ้าไม่พอก็จะมาขอเราหรือแม่ของเค้า
วางแผนจะแต่งงานกันตอนคบแรกๆๆคะ ไปๆๆมาๆๆแฟนบอกต้องรออะไรๆให้เค้าพร้อม เราก็โอเค เราเข้าใจเค้า
แฟนกับเรานับถือคนละศาสนา เราอิสลาม แฟนพุทธ ตอนคบกันใหม่ๆเราจะพูดให้เค้าเข้าใจศาสนาของเรายังไง
คุณพ่อเราเค้าก็พุทธครึ่งจีน แม่เราอิสลามครึ่งจีน (ประมาณว่ามาจากเชื้อสายของคนรุ่นก่อนนะค่ะ)
พ่อเราเข้ารับอิสลามทำตามหลักคำสอนทุกอย่าง พื่เขยก็พุทธเข้าอิสลาม (-*-รวมเชื้อชาติ)
มันมีประเด็นที่ว่าเราท้องตอนนี้ได้5เดือนกว่า เข้าเรื่องเลยนะคะ
เราพึงบอกกับแม่ตอนเราท้องได้4เดือนคะ แม่เราเสียใจมาก เค้าหวังพึงเราในด้านต่างๆ แต่เรากับเอียงไปทางแฟนซะส่วนใหญ่
แม่เราน้อยใจเรา อะไรๆก็แฟนหรือบ้านแฟน บ้านเราเรากับไม่สนใจเท่าไหร่เลย เราอยากได้รถแม่ก็ออกรถให้เพราะคิดเผื่อว่าแม่จะได้ใช้
แต่ไม่ใช่คะแม่เราไม่ได้ใช้ เรากับแฟนใช้ แต่เรากลับมาขอให้ท่านผ่อนรถให้อีก (แฟนเราก็ช่วยเรื่องผ่อนบ้างเวลาเราไม่อยากพึงแม่)
ตอนนี้เรามีปัญหาอยู่ตรงที่ว่า ก่อนเข้ารับอิสลามถ้าเป็นฝ่ายชายต้องทำตัวเองให้สะอาดซึ้งก็คือ ขลิบ
แล้วถึงจะปฏิยานตนได้ว่ามีพระเจ้าเพียงองค์เท่านั้น(คำกล่าวในการเข้าศาสนา)และถึงจะแต่งงานได้เป็นขั้นเป็นตอน
แฟนเราเค้ายอมแต่งงานคะ แต่มันมีเรื่องที่ว่า เค้าพึงไปสมัครงานใหม่ทำเกี่ยวกับ Maketing ขายมินิอุตสาหากรรมต้องไปที่ไซงานบ้าง
พึงเข้างานใหม่ๆก็คงลางานเป็นอาทิตย์เพื่อไปขลิบไม่ได้ ไหนจะไปไซงาน ถ้าลางานขนาดนี้เค้าคงไล่ออกแน่ แฟนว่ามาประมาณนี้
แอบงงค่ะบริษัทพึงเปิดตัว แค่2-3เดือน เค้าเริ่มเปิดไซงานกันแล้วหรอค่ะ คือเรากะว่าไซคงไม่เปิดเร๊วขนาดนั้นมั่งจะให้เค้าขลิบเลย
แต่เราก็ไม่ว่าไรค่ะ กลัวเค้าคิดว่าเราไปบังคับเค้า แต่ก่อนหน้านี้เค้าทำงานกับที่บ้านขายของ
เราก็คิดว่าถ้าลางานกับที่บ้านเค้าก็คงไม่ว่าไร แต่แฟนกับบ่ายเบี่ยงว่างานเหมือนกัน ได้แต่พูดว่าแต่งอะแต่งได้เลย แต่มันติดที่ขลิบ
เรากับแม่ก็ปรึกษากันว่าควรทำไงดี เพราะแฟนพูดๆๆแต่เรื่องงาน และเค้าพูดอีกว่าถ้าออกมาเนี่ยแล้วภาระค่าใช้จ่าย ใครจ่ายแม่เราใช้ไหม
เราก็เล่าให้แม่ฟังค่ะ แม่เราก็แอบอึ้งเพราะที่เค้าพูดมามันก็จริง
แม่เราเลยพูดกับเราว่า ลูกแม่ลูกเดือนร้อนแม่ก็ให้แล้วแม่เค้าไม่คิดจะช่วยหรอ
สรุปตอนนี้เราเป็นกลางค่ะ แม่อีกอย่างแฟนอีกอย่าง เราได้แต่นั่งถามแฟนเวลาทางบ้านเราเร่งลัดมาเพราะเวลาก็เหลือน้อยมากๆ
เราถามแฟนว่าแล้วจะขลิบได้จริงๆเมื่อไหร่ คำตอบคือ เมื่อลูกเราออกมาลืมตาดูโลกค่ะ เราเสียใจมากๆๆ ที่เค้าตอบแบบนี้
เราได้แต่คิดใจเค้าใจเราอะคะว่าเราไม่นึกถึงใจเราบ้างหรอ เหมือนโดนปฎิเสธอะไรซักอย่าง
เราก็คิดถึงเค้าเช่นกันถ้าเค้าขลิบก็คงเจ็บไปหลายวันคงลำบากแย่
คือตอนนี้เราเครียดมากค่ะ เป็นคนกลางต้องคอยสื่อให้ฝ่ายแม่และฝ่ายแฟนให้เข้าใจ ฝ่ายแม่ก็จะคอยถามว่าแฟนว่าไงๆ
เราก็ได้แต่พูดไม่ออกเพราะแฟนก็ยืนยันคำตอบเดิม ว่า งาน อยากบอกว่าตั้งแต่คบกันมาแฟนไม่เคยเข้าบ้านเราซักครั้ง
เราไม่รู้ว่าเราเห็นแก่ตัวไปไหม ลูกผู้ชาย เรื่องมันเกิดขึ้นมาแล้ว จะรับผิดชอบคนทั้งที ก็อยากจะให้มาเป็นแม่เราบ้าง แม่เราเค้าไม่เร่งหรอกถ้าไม่เกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆ ถ้าเป็นคนในครอบครัวเค้า
เจอประสบปัญหาแบบเรา ท้องแล้วบอกไม่พร้อมจะแต่งจะรู้สึกยังไง ท่านให้โอกาสอยู่จะรอเวลาไม่กลัวมันจะหมดหรอ ถ้าคิดในมุมเรา
เราก็เสียใจเพราะเค้าบอกเค้ามีภาระ ซึ้งเรื่องทั้งหมดเราก็มีส่วนผิดเช่นกัน ที่บ้านเราก็ปลอบเราว่าไม่เป็นไรๆ เค้าไม่แต่งก็ปล่อยเค้า หลานคนเดียวเลี้ยงได้สบายมาก
ช่วยทีคะคิดไม่ออกว่าควรทำไง