ใครมีธุระ หรือรีบ สามารถข้ามไปอ่านย่อหน้าสุดท้ายได้เลยครับ เพราะก่อนหน้านั้น น้ำล้วนๆ
ขออนุญาตสอบถามครับ รถ City ปี 2010 ไมล์ 77,xxx เริ่มมีอาการเมื่อวัน พฤ ที่ผ่านมา คือ ขับๆอยู่ (ในกรุงเทพ ประมาณสองทุ่ม รถไม่ติด) สังเกตเห็นว่า ไฟ A/C ดับไป แต่แอร์ยังเย็นอยู่ (อาจเป็นเพราะในรถยังเย็นอยู่ จำไม่ได้ว่าเอามือไปอัง ช่องแอร์หรือเปล่า เพราะปกติไม่ได้ปรับให้แอร์มาโดนตัวตรงๆ) ตอนนั้นเปิดพัดลมเบอร์ 1 เอามือไปกดปุ่ม A/C ก็รู้ได้ว่า Switch อยู่ในตำแหน่งกด อยู่ (มันจะบุ๋มลงไปนิดนึง) ลองกดดู สอง สาม ครั้ง ไฟก็ไม่ติด เข้าใจว่าหลอดไฟขาด
เช้าวันศุกร์ ขับรถไปทำงาน พัดลมเบอร์ 1 แอร์ คราวนี้ไม่เย็น ด้วยความคิดตอนนั้น เข้าใจว่า น้ำยาแอร์คงหมด (มารู้ภายหลังว่า น้ำยาแอร์ถ้าไม่รั่ว มันจะไม่หายไปไหน) ก็ไม่ได้คิดอะไร กะว่า ใว้ไปหาร้านแอร์ เติมน้ำยาก็แล้วกัน
เย็นวันศุกร์ พัดลมเบอร์ 1 2 3 ไม่มีลมออกมาเลย แต่เบอร์ 4 มีลม และเย็น เหมือนปกติ (คือเย็นเท่าเบอร์ 4 ปกติ) พอดี เสาร์อาทิตย์ มีธุระต้องไปต่างจังหวัด ก็เลยยังไม่ได้ทำอะไร พร้อมทั้งได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาว่า น้ำยาแอร์มันไม่หายไปไหนถ้าไม่รั่ว จาก Internet
เช้าวันเสาร์ ยังพอมีเวลาก่อนเดินทาง โทรไปที่ศูนย์ใกล้บ้าน เผื่อว่าจะเอารถเข้าไปเช็ค ปรากฏว่าไม่มีคนรับ ก็เลยยังไม่ได้ทำอะไร
วันจันทร์ โทรไปศูนย์ใกล้ที่ทำงาน ทราบว่า ต้องนัดล่วงหน้า ก็บอกอาการไป สรุป นัดเป็น อังคาร 8.00น. เอารถเข้าไปเช็ค
วันอังคารเช้า เอารถเข้าไปเช็คตามนัด ไม่ต้องบอกอาการซ้ำอีก คงเป็นข้อดีของการจองล่วงหน้า เจ้าหน้าที่บอกว่า เรื่องไฟ A/C ก็คงหลอดขาด ส่วนเรื่องแอร์ น่าจะเป็นที่ Resistor สองอย่างรวมค่าแรง ราวๆ พันสาม จริงๆก็พอทราบว่าราคาข้างนอกหรือทำเองประมาณเท่าไร แต่เอาเถอะ ไม่เป็นไร
บ่ายอังคาร เจ้าหน้าที่ โทรมาบอกว่า มันมีอุปกรณ์เสียเพิ่มนะ เป็น Motor Blower ราคา สามพันกว่า แต่ตอนนี้ไม่มีอะไหล่ ต้องรอพรุ่งนี้ ก็เลยแจ้งไปว่า งั้นขอไปรับรถก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้เช้าเอาเข้าไปให้ใหม่ เจ้าหน้าที่บอกว่า แบบนั้นต้องจองคิวใหม่นะครับ เราก็ เหรอๆ ไม่ได้ว่าอะไร
เย็นอังคารหลังเลิกงานไปรับรถ จ่ายค่าเปลี่ยนไฟ กับเช็คแอร์ ไปหกร้อยกว่าบาท และเจ้าหน้าที่ ณ จุดนั้นบอกว่า พรุ่งนี้เช้าพี่เอารถมาได้เลย เพราะเราสั่งอะไหล่ตอนเช้า ยังไงก็ทัน เออ..ค่อยยังชั่ว
หลังจากนั้น จนตอนนี้ ยังไม่ได้เอาเข้าไปเปลี่ยนเลย ด้วยสงสัยว่า Motor Blower หรือภาษาชาวบ้านเรียก มอเตอร์พัดลม ของผมมันเสียจริงไหม เพราะอาการตอนนี้คือ พัดลมเบอร์ 1 2 3 ไม่ทำงานเลย โดยที่ไม่เคยมีอาการมาก่อน แต่พัดลมเบอร์ 4 กลับทำงานปกติ ไม่มี ติดๆ ดับๆ หรือว่าจะหยุดไปเมื่อรถติดๆ (ไปเสิจอาการมอเตอร์พัดลมเสียมาจาก Internet) มันน่าจะเป็นในส่วนที่ควบคุม speed 1 2 3 มากกว่า ถ้าอาการนี้เป็นที่ Resistor อย่างที่บอกทีแรก น่าจะเป็นไปได้มากกว่า
ก็เลยอยากสอบถามครับว่า City ปี 2010 รถใช้ไป สามปีเศษ 77,xxx กิโล มีอาการ พัดลมแอร์ 1 2 3 ไม่ทำงาน แต่เบอร์ 4 ทำงานและเย็นปกติ เกิดจากสาเหตุอะไร ค่าซ่อมประมาณเท่าไรครับ
City 2010 สอบถามปัญหาแอร์
ขออนุญาตสอบถามครับ รถ City ปี 2010 ไมล์ 77,xxx เริ่มมีอาการเมื่อวัน พฤ ที่ผ่านมา คือ ขับๆอยู่ (ในกรุงเทพ ประมาณสองทุ่ม รถไม่ติด) สังเกตเห็นว่า ไฟ A/C ดับไป แต่แอร์ยังเย็นอยู่ (อาจเป็นเพราะในรถยังเย็นอยู่ จำไม่ได้ว่าเอามือไปอัง ช่องแอร์หรือเปล่า เพราะปกติไม่ได้ปรับให้แอร์มาโดนตัวตรงๆ) ตอนนั้นเปิดพัดลมเบอร์ 1 เอามือไปกดปุ่ม A/C ก็รู้ได้ว่า Switch อยู่ในตำแหน่งกด อยู่ (มันจะบุ๋มลงไปนิดนึง) ลองกดดู สอง สาม ครั้ง ไฟก็ไม่ติด เข้าใจว่าหลอดไฟขาด
เช้าวันศุกร์ ขับรถไปทำงาน พัดลมเบอร์ 1 แอร์ คราวนี้ไม่เย็น ด้วยความคิดตอนนั้น เข้าใจว่า น้ำยาแอร์คงหมด (มารู้ภายหลังว่า น้ำยาแอร์ถ้าไม่รั่ว มันจะไม่หายไปไหน) ก็ไม่ได้คิดอะไร กะว่า ใว้ไปหาร้านแอร์ เติมน้ำยาก็แล้วกัน
เย็นวันศุกร์ พัดลมเบอร์ 1 2 3 ไม่มีลมออกมาเลย แต่เบอร์ 4 มีลม และเย็น เหมือนปกติ (คือเย็นเท่าเบอร์ 4 ปกติ) พอดี เสาร์อาทิตย์ มีธุระต้องไปต่างจังหวัด ก็เลยยังไม่ได้ทำอะไร พร้อมทั้งได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาว่า น้ำยาแอร์มันไม่หายไปไหนถ้าไม่รั่ว จาก Internet
เช้าวันเสาร์ ยังพอมีเวลาก่อนเดินทาง โทรไปที่ศูนย์ใกล้บ้าน เผื่อว่าจะเอารถเข้าไปเช็ค ปรากฏว่าไม่มีคนรับ ก็เลยยังไม่ได้ทำอะไร
วันจันทร์ โทรไปศูนย์ใกล้ที่ทำงาน ทราบว่า ต้องนัดล่วงหน้า ก็บอกอาการไป สรุป นัดเป็น อังคาร 8.00น. เอารถเข้าไปเช็ค
วันอังคารเช้า เอารถเข้าไปเช็คตามนัด ไม่ต้องบอกอาการซ้ำอีก คงเป็นข้อดีของการจองล่วงหน้า เจ้าหน้าที่บอกว่า เรื่องไฟ A/C ก็คงหลอดขาด ส่วนเรื่องแอร์ น่าจะเป็นที่ Resistor สองอย่างรวมค่าแรง ราวๆ พันสาม จริงๆก็พอทราบว่าราคาข้างนอกหรือทำเองประมาณเท่าไร แต่เอาเถอะ ไม่เป็นไร
บ่ายอังคาร เจ้าหน้าที่ โทรมาบอกว่า มันมีอุปกรณ์เสียเพิ่มนะ เป็น Motor Blower ราคา สามพันกว่า แต่ตอนนี้ไม่มีอะไหล่ ต้องรอพรุ่งนี้ ก็เลยแจ้งไปว่า งั้นขอไปรับรถก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้เช้าเอาเข้าไปให้ใหม่ เจ้าหน้าที่บอกว่า แบบนั้นต้องจองคิวใหม่นะครับ เราก็ เหรอๆ ไม่ได้ว่าอะไร
เย็นอังคารหลังเลิกงานไปรับรถ จ่ายค่าเปลี่ยนไฟ กับเช็คแอร์ ไปหกร้อยกว่าบาท และเจ้าหน้าที่ ณ จุดนั้นบอกว่า พรุ่งนี้เช้าพี่เอารถมาได้เลย เพราะเราสั่งอะไหล่ตอนเช้า ยังไงก็ทัน เออ..ค่อยยังชั่ว
หลังจากนั้น จนตอนนี้ ยังไม่ได้เอาเข้าไปเปลี่ยนเลย ด้วยสงสัยว่า Motor Blower หรือภาษาชาวบ้านเรียก มอเตอร์พัดลม ของผมมันเสียจริงไหม เพราะอาการตอนนี้คือ พัดลมเบอร์ 1 2 3 ไม่ทำงานเลย โดยที่ไม่เคยมีอาการมาก่อน แต่พัดลมเบอร์ 4 กลับทำงานปกติ ไม่มี ติดๆ ดับๆ หรือว่าจะหยุดไปเมื่อรถติดๆ (ไปเสิจอาการมอเตอร์พัดลมเสียมาจาก Internet) มันน่าจะเป็นในส่วนที่ควบคุม speed 1 2 3 มากกว่า ถ้าอาการนี้เป็นที่ Resistor อย่างที่บอกทีแรก น่าจะเป็นไปได้มากกว่า
ก็เลยอยากสอบถามครับว่า City ปี 2010 รถใช้ไป สามปีเศษ 77,xxx กิโล มีอาการ พัดลมแอร์ 1 2 3 ไม่ทำงาน แต่เบอร์ 4 ทำงานและเย็นปกติ เกิดจากสาเหตุอะไร ค่าซ่อมประมาณเท่าไรครับ