ประกันสุขภาพ30บาท VS ฝ่ายเวชระเบียน

น่าเบื่อจริงๆกับการให้บริการของฝ่ายเวชระเบียนโรงพยาบาลแห่งหนึ่งแถวสีลม ตอนแรกผมก็ไปหาหมอที่คลินิกเพราะนิ้วมันอักเสบ แต่คลินิกบอกดูจากอาการแล้วมันบวมเยอะ ให้ไปที่โรงพยาบาลเพื่อ X-Ray ดูก่อนดีกว่าเผื่อกระดูกร้าว ผมก็นั่งรถไปโรงพยาบาล พอไปถึงก็เดินเข้าไปติดต่อฝ่ายเวชระเบียน เป็นป้าใส่แว่นคนนึง ก็ขอบัตรประชาชนไป แล้วถามว่าเป็นอะไรมา ผมก็ตอบไปแบบง่ายๆเพราะยังไงป้าแกก็คงต้องการข้อมูลเบื้องต้นเลยบอกไปว่านิ้วมันอักเสบเพราะนั่งรถไปแล้วเฉี่ยวกับกระจกรถอีกคัน (ตอบแบบง่ายๆไป) ไปหาที่คลินิกแล้วแต่เค้าบอกให้มา X-Ray ดู ป้าแกก็ทำหน้าเบื่อๆแล้วตอบว่าประกัน 30 บาท ไม่ครอบคลุมถึงอุบัติเหตุทางรถท่าจะรักษาวันนี้ต้องจ่ายปกติ (ผมก็คิดว่าไออุบัติเหตุที่เกิดมันไม่เชิงอุบัติเหตุทางรถเพราะเราไม่ได้ขับไปชนกับใครแล้วหัวแตกแขนขาหัก คู่กรณีก็ไม่มี แค่นั่งซ้อนท้ายแล้วถือของไว้เท่านั้นเอง) เลยถามเค้าไปว่ามันไม่น่าใช่อุบัติเหตุทางรถหนิ แล้วก็เริ่มเล่าเหตุการแบบละเอียด พอป้าแกได้ฟัง คำพูดของป้าแกคือ "อ่าวตอนแรกไม่ได้พูดแบบนี้หนิ พอได้ยินว่าใช้สิทธิไม่ได้ก็มาเล่าแบบนี้" <<<ได้ยินแบบนี้เสียความรู้สึกมาก ทำไมต้องมาพูดเหมือนเราไปโกหกเค้าเพราะไม่มีปัญญาจ่ายหรอ เงินผมก็มีแล้วเป็นเงินที่ไม่ได้ไปปล้นใครมาด้วย มีสิทธิ30บาทก็อยากจะใช้เพราะคิดว่าอย่างน้อยก็ช่วยเราประหยัดได้บ้าง หรือท่าเรารักษาเองเอาไปเบิกได้มันก็ยุ่งยาก อีกอย่างท่าผมไม่มีเงินจริงก็ไม่ควรมาพูดดูถูกคนอื่นแบบนี้

แล้วป้าเวชระเบียนก็เลยไปเรียกฝ่ายประกันสุขภาพ30บาทมาให้คุย ซึ่งพี่เค้าก็อธิบายให้ฟังอย่างสุภาพหน่อย ประมาณว่า30บาทรักษาแต่พวก เป็นไข้ เจ็บป่วยทั่วไป ผ่าตัดใส้ติ่ง เหตุการแบบนี้เรานั่งซ้อนก็จริงแต่ก็ถือว่าเป็นอุบัติเหตุเกี่ยวกับรถ บราๆๆๆ <<<เออท่าป้ามันอธิบายแบบนี้ก็จบแล้ว ว่า30บาทมันรักษาอะไรได้บ้างแล้วมันรักษาไม่ได้เพราะอะไร ไม่ใช่มาบอกแค่ไม่ครอบคลุมแล้วก็มาพูดดูถูกกัน

แล้วไม่ใช่แค่ 30 บาทเท่านั้นที่มีปัญหา กระทั่งพวกประกันสังคมก็เหมือนกัน ไปโรงพยาบาลทีไรถ้ามันรู้ว่าเป็นประกันสังคม ฝ่ายเวชระเบียนจะบริการเราด้วยคำพูดห่วยๆเป็นอีกชนชั้นทันที (ปลื้มอะจ่ายค่าประกันสังคมแล้วมาเจอแบบนี้)

แต่ก็อย่างว่าแหละมันอยู่ที่นิสัยคนด้วย ไม่ได้เป็นกันหมด เพราะหมอกับพยาบาลในโรงพยาบาลที่ไปนี้ที่เคยเจอมาก็นิสัยดีกันทุกคน