ตัวก่อนนะค่ะ ดิฉันอายุ 28 ปีแล้วปีนี้ ก่อนหน้านี้ดิฉันมีอาชีพเป็นพยาบาล ตั้งแต่เรียนจบพยาบาลมา เริ่มมีแฟนเป็นผู้ชายคนแรกหลังจากเรียนจบมา 1 ปี ก่อนหน้านี้มีแต่แฟนเป็นผู้หญิงค่ะ หลังจากคบแฟนคนนี้ ซึ่งเขาอายุ 35 ปี
เป็นผู้ชายคนแรกและเราก็รู้สึกรักมาก แต่คบกันประมาณ 2 ปี ถือว่านานพอสมควร ผู้ชายมีกิจการร้านขายมือถือ
เขาขาดทุนเป็นระยะ และก็ยืมเงินดิฉันตลอด ดิฉันให้ยืมและไม่เคยทวงคืน พี่เขาก็ไม่เคยคืนด้วย เป็นอย่างนี้ตลอด 2 ปี
จนวาระสุดท้ายเราเลิกกันเพราะ พี่เขายืมเงินเรา เราไม่มีให้ แต่จริงๆ เรามี เนื่องจากเราอยากรู้ว่าหากเราไม่มีให้เขา
เขาจะทำอย่างไร ผลสุดท้ายเขาบอกว่าเขาไม่เชื่อว่าเราไม่มีเงินให้ยืม และขอเลิกเนื่องจากไม่รักกันจริง ตอนนั้นทำให้เราคิดได้ว่า เรารักกันหรือเปล่าหรือ เขารักเราเพราะเงินของเรา เราเริ่มคิดได้ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา เราเป็นฝ่ายให้ตลอด กินข้าวเราก็จ่ายตลอด ตอนแรกคิดว่าเขามีน้อยส่วนเราพอมีอยู่บ้างแค่เรื่องเล็กน้อยเอง ก็จ่ายๆ ไปเถอะ เราเป็นคนชอบซื้อของเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เวลาเราซ๊อป เราก็ซื้อให้เขาตลอด มีอยู่ช่วงหนึ่งเขาเริ่มมีรายได้ดีขึ้น เขาซื้อของเหมือนคนไม่เคยซื้อ แต่ไม่เคยซื้อให้ฝากเราสักชิ้น ไม่รู้ทำไมวันนั้นถึงคิดเล็กคิดน้อย ปกติไม่เคยคิด อีกอย่างเขาบอกว่าให้เราขายทรัพย์สินของเรา และขายรถเราซะ เอาเงินมาให้เขาลงทุนเปิดร้ายขายโทรศัพท์ เผื่อจะมีรายได้ดีขึ้น และสัญญาว่าหากรายได้ดีขึ้นเขาจะแต่งงานกับเรา วันนั้นพอเขาพูดจบเราตัดสินในเลิกกับเขาทันที เหตุผลคือเราคิดว่าหากเขายังไม่สามารถยืนด้วยลำแข็งตัวเองได้ อนาคตเราสองคนก็ดูจะยุ่งยาก เราไม่แน่ใจในคำสัญญาของเขาว่าจะแต่งกับเรา แค่เรื่องยืมเงินเราบอกว่าจะให้ภายในกำหนด ก็ไม่เคยเอ่ยปากถึง บอกว่าจะทำอะไรให้ ก็ละเลยไม่เคยทำตามสัญญาเลย เราเลยแน่ใจว่าเขาไม่ใช่หัวหน้าครอบครัวที่ดี แน่นอน จึงตัดสินใจเลิก
ควรจะเลือก"ความถูกใจ"หรือ"ความถูกต้อง" ถึงจะมีความสุข???
เป็นผู้ชายคนแรกและเราก็รู้สึกรักมาก แต่คบกันประมาณ 2 ปี ถือว่านานพอสมควร ผู้ชายมีกิจการร้านขายมือถือ
เขาขาดทุนเป็นระยะ และก็ยืมเงินดิฉันตลอด ดิฉันให้ยืมและไม่เคยทวงคืน พี่เขาก็ไม่เคยคืนด้วย เป็นอย่างนี้ตลอด 2 ปี
จนวาระสุดท้ายเราเลิกกันเพราะ พี่เขายืมเงินเรา เราไม่มีให้ แต่จริงๆ เรามี เนื่องจากเราอยากรู้ว่าหากเราไม่มีให้เขา
เขาจะทำอย่างไร ผลสุดท้ายเขาบอกว่าเขาไม่เชื่อว่าเราไม่มีเงินให้ยืม และขอเลิกเนื่องจากไม่รักกันจริง ตอนนั้นทำให้เราคิดได้ว่า เรารักกันหรือเปล่าหรือ เขารักเราเพราะเงินของเรา เราเริ่มคิดได้ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา เราเป็นฝ่ายให้ตลอด กินข้าวเราก็จ่ายตลอด ตอนแรกคิดว่าเขามีน้อยส่วนเราพอมีอยู่บ้างแค่เรื่องเล็กน้อยเอง ก็จ่ายๆ ไปเถอะ เราเป็นคนชอบซื้อของเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เวลาเราซ๊อป เราก็ซื้อให้เขาตลอด มีอยู่ช่วงหนึ่งเขาเริ่มมีรายได้ดีขึ้น เขาซื้อของเหมือนคนไม่เคยซื้อ แต่ไม่เคยซื้อให้ฝากเราสักชิ้น ไม่รู้ทำไมวันนั้นถึงคิดเล็กคิดน้อย ปกติไม่เคยคิด อีกอย่างเขาบอกว่าให้เราขายทรัพย์สินของเรา และขายรถเราซะ เอาเงินมาให้เขาลงทุนเปิดร้ายขายโทรศัพท์ เผื่อจะมีรายได้ดีขึ้น และสัญญาว่าหากรายได้ดีขึ้นเขาจะแต่งงานกับเรา วันนั้นพอเขาพูดจบเราตัดสินในเลิกกับเขาทันที เหตุผลคือเราคิดว่าหากเขายังไม่สามารถยืนด้วยลำแข็งตัวเองได้ อนาคตเราสองคนก็ดูจะยุ่งยาก เราไม่แน่ใจในคำสัญญาของเขาว่าจะแต่งกับเรา แค่เรื่องยืมเงินเราบอกว่าจะให้ภายในกำหนด ก็ไม่เคยเอ่ยปากถึง บอกว่าจะทำอะไรให้ ก็ละเลยไม่เคยทำตามสัญญาเลย เราเลยแน่ใจว่าเขาไม่ใช่หัวหน้าครอบครัวที่ดี แน่นอน จึงตัดสินใจเลิก