รบกวนผู้รู้เรื่องผ่อนบ้านค่ะ (กลุ้มมากกก)

คือดิฉันได้ทำการผ่อนบ้านได้ประมาณ 2 ปีแล้วค่ะ
ค่าผ่อนบ้านก็ประมาณ 8000 บาท/เดือน
ในระยะหลังๆ ดิฉันรู้สึกว่าเริ่มผ่อนไม่ไหวแล้ว จึงได้หาข้อมูลต่างๆ ทาง internet
ดิฉันจึงได้ตัดสินใจโทรเข้าไปถามกับทางธนาคาร ว่าจะขอจ่ายแต่ดอกเบื้ย ซื่งตอนนั้นดิฉันคิดว่าจ่ายแต่ดอกเบื้อคือดอกเบี้ยต่อเดือน (ในใบเสร็จที่ได้ตอนจ่ายแต่ละเดือน) แต่ไม่ใช่ค่ะ ต้องจ่ายดอกเบื้ยทั้งหมดที่กู้มา ก็จะพอๆ กับที่ผ่อนจ่ายเป็นเดือนเนี่ยแหละค่ะ
และสุดท้าย ธนาคารก็ให้คำแนะนำว่า "ให้กัดฟันผ่อนไปก่อน"
ดิฉันก็งงว่าถ้าดิฉันมีปัญญาผ่อนต่อไปได้ ดิฉันจะโทรเข้ามาขอคำปรึกษาทำไม...

ดิฉันจึงอยากจะขอความกรุณาจากผู้รู้ทุกท่านด้วยค่ะ...
1.ในแต่ละเดือนดิฉันมีแค่ไหนจ่ายแค่นั้นได้ไหมคะ
2.การที่เราไม่ไปจ่ายเลย กับที่เราให้แต่ไม่ครบ อันไหนส่งผลเสียกับเราน้อยที่สุดคะ
3.ระยะเวลานานแค่ไหนคะ กว่าที่ธนาคารจะฟ้องดิฉัน
4.ค่าใช้จ่ายในการขึ้นสารมีอะไรบ้างคะ แล้วต้องเสียประมาณเท่าไหร่คะ
5.ถ้าจ่ายบางส่วน กับการไม่จ่ายเลย แล้วผลลัพท์สุดท้ายก็โดนฟ้อง ดิฉันไม่จ่ายดีกว่าไหมคะ

ตอนนี้สับสนมากเลยค่ะ ไม่รู้จะเอาชีวิตตัวเองเดินทางไปทางไหน
ขอบคุณทุกท่านนะคะ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
จริง ๆ แล้วปัญหาคุณหน่ะ แก้ง่ายมาก......... และ Bank ทุก Bank ยินดีช่วยเหลือคุณ.......อยู่แล้ว
ไม่รู้ทำไม จนท.ถึงบอกเช่นนั้น แต่ไม่ว่าจนท.จะพูดเช่นไร .....

ถ้าคุณยืนยันจะขอปรับยอดผ่อน เค้าก็ต้องทำเรื่องให้.......

และเท่าที่เห็น ก็แค่ปรับลดยอดผ่อนตามกำลังคุณไป 6-12 เดือน จากนั้นก็ทบทวนความสามารถใหม่ ถ้ามีรายได้เพิ่มขึ้นก็ปรับเพิ่ม
บางรายยอดผ่อนน้อยกว่าดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นใหม่ เค้าก็ตั้งพักดอกเบี้ยที่เกินให้ ...........ไม่ได้ยากเย็นอะไร.....
พอวันข้างหน้าความสามารถในการผ่อนคุณเพิ่มขึ้น เค้าก็ปรับยอดผ่อนเพิ่มขึ้นมาก.....ก็แค่นั้น

เรื่องที่จำเป็นแบบนี้ ถ้าจนท.พูดไม่รู้เรื่อง ก็ควรขอปรึกษากับ "ผู้จัดการ" ที่เค้ามีดุลยพินิจและประสบการณ์มากกว่า.......
นี่คือปัญหาของลูกนี้ คือมักจะชอบ "พูด" ไม่ยอมทำเป็น "ลายลักษณ์อักษร"
เวลาเค้าบรรยายฟ้องหน่ะ เค้าระุบุว่า "โจทก์ ได้ติดตามทวงถาม หลายครั้งมาโดยตลอด แต่ลูกหนี้เพิกเฉย ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย"
ถึงแม้ข้อเท็จจริงคุณจะไปเจรจากับ Bank แทบทุกวันก็ตามเหอะ "คำพูด" หน่ะส่วนใหญ่เค้าไม่ถือเป็นหลักฐานใน "คดีแพ่ง"

สิ่งที่คุณควรทำ.......
1. ทำหนังสือขอปรับยอดผ่อนชำระ เหลือ เท่าไหร่ ก็ว่าไป ชี่แจงให้ Bank เค้าเห็นถึงความจำเป็นจริง ๆ แล้วแนบหลักฐานที่เกี่ยวข้องไป
2. ยื่นให้กับ หัวหน้าหน่วยงาน นั้น ๆ เช่น ผจก.สาขา
3. ถ้าทำได้ ก็ให้เค้าเซ็นต์รับ หนังสือของคุณ.....
4. ติดตามทวงถาม ถึงผลพิจารณาด้วย....
5. เวลาติดต่อใครหน่ะ ควร จดชื่อเค้าไว้....

จริง ๆ เรื่องนี้ยังไม่ต้องรีบ "กลุ้ม"  หากคุณทำตามขั้นตอน Bank ทุก Bank หน่ะ เค้ามีนโยบาย ช่วยเหลือลูกหนี้อยู่แล้ว......เพราะไม่อยากสำรองหนี้
แต่ส่วนใหญ่ติดต่อแค่ จนท. ซึ่งมีประสบการณ์น้อย บางคนงานยุ่งก็บอกปัด ๆ ไป.... ซึ่งจริง ๆ แล้ว เค้าไม่มีอำนาจ "ปฏิเสธคำขอลูกค้า"



"ไม่เสียสละ ชัยชนะไม่เกิด"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่