กำหนดการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ออกมาแล้ว เป็น 17 ต.ค. 56 พร้อมกับกรรมการบริหารรวมทั้งหมด 19 ตำแหน่ง โดยเปิดรับสมัครระหว่าง 4-17 ก.ย. 56 ที่จะลงชิงชัยเป็นตำแหน่งนายกสมาคมฯ 1 ตำแหน่ง อุปนายก 5 ตำแหน่ง และสภากรรมการ 13 ตำแหน่ง ขณะที่ ''บังยี'' วรวีร์ มะกูดี เดินทางไปแคนดิเดตครั้งแรกกับผู้ท้าชิง ''บิ๊กก๊อง'' วิรัช ชาญพานิชย์ ผ่านรายการ ''ตอบโจทย์'' ชูนโยบายขอล้างบางวงการเชิ้ตดำที่ยังมีปัญหา พร้อมตั้งเป้าสานฝันไปโอลิมปิก 2016 ที่บราซิล
เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมา "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ "บิ๊กก๊อง" วิรัช ชาญพานิชย์ ผู้ท้าชิง ได้เดินทางไปร่วมอัดรายการ "ตอบโจทย์" ที่สตูดิโอสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ภายใต้คอนเซปต์รายการว่า "ศึกล้างตาเก้าอี้นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย"
"บังยี" ขอบคุณฟีฟ่ากาวใจเคลียร์ลงตัว
"บังยี" วรวีร์ มะกูดี ได้กล่าวถึงการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ที่สามารถตกลงกันได้ด้วยดีจากทุกฝ่ายว่า ต้องขอขอบคุณตัวแทนฟีฟ่าที่ให้เกียรติเดินทางมาชี้แจงและเคลียร์ให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน โดยฟีฟ่าได้ศึกษาโครงสร้างของวงการฟุตบอลไทยโดยละเอียดแล้ว ซึ่งเราเป็นหนึ่งในสมาชิกจึงต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยการเลือกตั้งครั้งนี้โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
พร้อมกันนี้ยังได้กล่าวอีกว่า "ผมเคยประกาศแล้วว่าหากชนะการเลือกตั้งได้เป็นนายกสมาคมฯ อีกสมัย ก็พร้อมที่จะเชิญคุณวิรัช ชาญพานิชย์ ซึ่งถือเป็นผู้มีความรู้ความสามารถคนหนึ่งในวงการฟุตบอลไทยเข้ามาช่วยในฐานะที่ปรึกษา และหากว่าเขาเป็นฝ่ายชนะ เขาจะเชิญผมไปช่วยปรึกษาผมก็ยินดี"
ขอล้างบางปฏิรูปวงการผู้ตัดสิน
ในส่วนของนโยบายที่จะเข้ามาบริหารสมาคมฟุตบอลฯ อีกครั้งนั้น "บังยี" เผยว่า "การบริหารไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่ต้องมีการพัฒนากันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งที่ผ่านมาผมภูมิใจกับลีกูมิภาคที่ประสบความสำเร็จเกินคาด มันคือการกระจายความสุขไปสู่ครอบครัวทั่วประเทศ นอกจากนี้เรื่องของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ใครจะไปคิดว่าจะพุ่งขึ้นไปถึง 600 ล้านบาทในปีหน้า
แต่สิ่งที่ได้รับการร้องเรียนมากที่สุดเห็นจะเป็นปัญหาเรื่องผู้ตัดสิน โดยเรื่องนี้เราจะมีการปฏิรูปวงการผู้ตัดสินใหม่ด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลโดยเฉพาะ เรียกได้ว่าสิ่งไหนที่ดีแล้วก็จะเดินหน้ากันต่อไป ส่วนสิ่งไหนที่ยังต้องปรับปรุงแก้ไขก็จะต้องเร่งทำโดยทันที"
ชูนโยบายไปบอลโลก 2018
นอกจากนี้ "บังยี" ยังได้กล่าวอีกว่า ในส่วนของทีมชาติไทยเราต้องตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน โดยเราจะมีการพัฒนาตั้งแต่ระดับรากหญ้าไล่ตั้งแต่เยาวชน, ฟุตบอลหญิง, ฟุตซอล, ฟุตบอลชายหาด และอื่นๆ อย่างครอบคลุม ตอนนี้เรามีทัวร์นาเมนต์ที่ตั้งความหวังไว้สูงมากก็คือซีเกมส์ จะต้องคว้าแชมป์กลับมาให้ได้ จากนั้นจะวางเป้าไปที่โอลิมปิก ปี 2016 ที่ประเทศบราซิล และเป้าหมายสุดท้ายที่ต้องไปให้ถึงก็คือ ฟุตบอลโลก ปี 2018 ทีประเทศรัสเซีย ผมมั่นใจในศักยภาพของเด็กไทยที่ตอนนี้เรามีลีกที่แข็งแกร่ง ทำให้เด็กเรามีศักยภาพฝีเท้าที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผมมั่นใจว่าเราทำได้แน่ ซึ่งการทำทีมชาติต้องวางเป้าหมายที่ชัดเจนแล้วต้องไปให้ถึง"
รับสมัครกรรมการบริหาร 19 ตำแหน่ง
ขณะที่เรื่องของการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ที่ล่าสุดได้มีการประกาศออกมาแล้วว่า จะกำหนดการเลือกตั้งในวันที่ 17 ต.ค. ที่จะถึงนี้ ซึ่ง "บังยี" วรวีร์ มะกูดี เปิดเผยว่า สมาคมฟุตบอลฯ จะเปิดรับสมัครอุปนายกสมาคมฯ 5 ตำแหน่ง และคณะกรรมการบริหารอีก 13 ตำแหน่ง รวมถึงนายกสมาคมฟุตบอลฯ 1 ตำแหน่ง รวมทั้งสิ้น 19 ตำแหน่ง โดยจะเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 4 -17 ก.ย. นี้ ตามเงื่อนไขก่อนการเลือกตั้ง 30 วัน โดยจะให้สโมสรสมาชิกเสนอชื่อผู้ที่มีความประสงค์จะเข้ามาทำงานในสมาคมฟุตบอลฯ ส่วนเรื่องของผู้มีอำนาจในการลงคะแนนเสียงจะมีการส่งหนังสือเชิญก่อนวันเลือกตั้ง 45 วัน และจะประกาศรายชื่อให้ทราบอีกครั้ง เพื่อความโปร่งใสและเป็นประชาธิปไตย สามารถตรวจสอบได้ รับประกันว่าครั้งนี้ไม่มีปัญหาเรื่องของบัตรผีเกิดขึ้นแน่นอน
"วิรัช" ชู 4 ข้อพัฒนาบอลไทย
นายวิรัช ชาญพานิชย์ ได้กล่าวถึงนโยบาย หากได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกฯ ว่า จะยึดนโยบายหลัก 4 ข้อ คือ ให้ผู้เชี่ยวชาญศึกษาโครงสร้างสมาคมฟุตบอลฯ และทีพีแอล เพื่อให้รู้ปัญหาที่เกิดขึ้นว่ามีอะไรบ้างจะได้แก้ปัญหาให้ตรงจุด พร้อมกันนี้จะมีการพัฒนาบุคลากรในองค์กรรวมถึงผู้ตัดสิน ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาจะนำไปสู่การพัฒนาทีมชาติไทยให้มีประสิทธิภาพ โดยรายละเอียดจะแถลงข่าวให้ทราบต่อไป
"บิ๊กเปี๊ยก" ย้ำเลือกตั้ง 17 ต.ค. 56
"บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ ได้กล่าวถึงความคืบหน้าในเรื่องของการจัดการเลือกตั้งว่า ในส่วนของธรรมนูญฉบับใหม่ตอนนี้อยู่ในระหว่างการปรับปรุงแก้ไข และทางสมาคมฯ เตรียมที่จะส่งให้การกีฬาแห่งประเทศไทยตรวจสอบอีกครั้ง ก่อนที่จะนำไปจดทะเบียนกับกรมการปกครองภายในสัปดาห์นี้ คาดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร
ส่วนเรื่องการจัดตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง เลขาธิการสมาคมฯ เผยว่า ก่อนหน้านี้ทางคุณวิรัช ชาญพานิชย์ ได้เสนอชื่อประธานและคณะกรรมการอีก 2 คนมาให้แล้ว ตอนนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติ คาดว่าเราจะสามารถเปิดเผยรายชื่อคณะกรรมการทั้งหมดได้ภายในสัปดาห์นี้เช่นกัน
"บิ๊กเปี๊ยก" ยังได้กล่าวถึงวันเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ด้วยว่า แต่เดิมหลังจากที่ได้มีการรับรองธรรมนูญฉบับใหม่ไปเมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา จะต้องมีการจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน ซึ่งจะตรงกับวันที่ 7 ต.ค. แต่ในวันดังกล่าวหลังจากเราได้ปรึกษากับตัวแทนฟีฟ่า และนายวิรัช แล้วนั้น ปรากฏว่าทางฟีฟ่าติดภารกิจสำคัญไม่สามารถเดินทางมาร่วมการเลือกตั้งในวันดังกล่าวได้ จึงตกลงกำหนดวันเลือกตั้ง เป็นวันที่ 17 ต.ค. นี้แทน ซึ่งทุกฝ่ายก็เห็นชอบ และไม่ขัดข้องแต่อย่างใด"
นอกจากนี้เลขาธิการสมาคมลูกหนังไทยยังเผยด้วยว่า จะเปิดรับสมัครผู้ที่จะชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลฯ รวมถึงอุปนายก และสภากรรมการ รวม 19 ตำแหน่ง ระหว่างวันที่ 4-17 ก.ย. นี้
http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/130903_412.html
ลงตัวกำหนดเลือกตั้งนายกส.บอลฯ17ต.ค.นี้
เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมา "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ "บิ๊กก๊อง" วิรัช ชาญพานิชย์ ผู้ท้าชิง ได้เดินทางไปร่วมอัดรายการ "ตอบโจทย์" ที่สตูดิโอสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ภายใต้คอนเซปต์รายการว่า "ศึกล้างตาเก้าอี้นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย"
"บังยี" ขอบคุณฟีฟ่ากาวใจเคลียร์ลงตัว
"บังยี" วรวีร์ มะกูดี ได้กล่าวถึงการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ที่สามารถตกลงกันได้ด้วยดีจากทุกฝ่ายว่า ต้องขอขอบคุณตัวแทนฟีฟ่าที่ให้เกียรติเดินทางมาชี้แจงและเคลียร์ให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน โดยฟีฟ่าได้ศึกษาโครงสร้างของวงการฟุตบอลไทยโดยละเอียดแล้ว ซึ่งเราเป็นหนึ่งในสมาชิกจึงต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยการเลือกตั้งครั้งนี้โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
พร้อมกันนี้ยังได้กล่าวอีกว่า "ผมเคยประกาศแล้วว่าหากชนะการเลือกตั้งได้เป็นนายกสมาคมฯ อีกสมัย ก็พร้อมที่จะเชิญคุณวิรัช ชาญพานิชย์ ซึ่งถือเป็นผู้มีความรู้ความสามารถคนหนึ่งในวงการฟุตบอลไทยเข้ามาช่วยในฐานะที่ปรึกษา และหากว่าเขาเป็นฝ่ายชนะ เขาจะเชิญผมไปช่วยปรึกษาผมก็ยินดี"
ขอล้างบางปฏิรูปวงการผู้ตัดสิน
ในส่วนของนโยบายที่จะเข้ามาบริหารสมาคมฟุตบอลฯ อีกครั้งนั้น "บังยี" เผยว่า "การบริหารไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่ต้องมีการพัฒนากันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งที่ผ่านมาผมภูมิใจกับลีกูมิภาคที่ประสบความสำเร็จเกินคาด มันคือการกระจายความสุขไปสู่ครอบครัวทั่วประเทศ นอกจากนี้เรื่องของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ใครจะไปคิดว่าจะพุ่งขึ้นไปถึง 600 ล้านบาทในปีหน้า
แต่สิ่งที่ได้รับการร้องเรียนมากที่สุดเห็นจะเป็นปัญหาเรื่องผู้ตัดสิน โดยเรื่องนี้เราจะมีการปฏิรูปวงการผู้ตัดสินใหม่ด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลโดยเฉพาะ เรียกได้ว่าสิ่งไหนที่ดีแล้วก็จะเดินหน้ากันต่อไป ส่วนสิ่งไหนที่ยังต้องปรับปรุงแก้ไขก็จะต้องเร่งทำโดยทันที"
ชูนโยบายไปบอลโลก 2018
นอกจากนี้ "บังยี" ยังได้กล่าวอีกว่า ในส่วนของทีมชาติไทยเราต้องตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน โดยเราจะมีการพัฒนาตั้งแต่ระดับรากหญ้าไล่ตั้งแต่เยาวชน, ฟุตบอลหญิง, ฟุตซอล, ฟุตบอลชายหาด และอื่นๆ อย่างครอบคลุม ตอนนี้เรามีทัวร์นาเมนต์ที่ตั้งความหวังไว้สูงมากก็คือซีเกมส์ จะต้องคว้าแชมป์กลับมาให้ได้ จากนั้นจะวางเป้าไปที่โอลิมปิก ปี 2016 ที่ประเทศบราซิล และเป้าหมายสุดท้ายที่ต้องไปให้ถึงก็คือ ฟุตบอลโลก ปี 2018 ทีประเทศรัสเซีย ผมมั่นใจในศักยภาพของเด็กไทยที่ตอนนี้เรามีลีกที่แข็งแกร่ง ทำให้เด็กเรามีศักยภาพฝีเท้าที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผมมั่นใจว่าเราทำได้แน่ ซึ่งการทำทีมชาติต้องวางเป้าหมายที่ชัดเจนแล้วต้องไปให้ถึง"
รับสมัครกรรมการบริหาร 19 ตำแหน่ง
ขณะที่เรื่องของการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ที่ล่าสุดได้มีการประกาศออกมาแล้วว่า จะกำหนดการเลือกตั้งในวันที่ 17 ต.ค. ที่จะถึงนี้ ซึ่ง "บังยี" วรวีร์ มะกูดี เปิดเผยว่า สมาคมฟุตบอลฯ จะเปิดรับสมัครอุปนายกสมาคมฯ 5 ตำแหน่ง และคณะกรรมการบริหารอีก 13 ตำแหน่ง รวมถึงนายกสมาคมฟุตบอลฯ 1 ตำแหน่ง รวมทั้งสิ้น 19 ตำแหน่ง โดยจะเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 4 -17 ก.ย. นี้ ตามเงื่อนไขก่อนการเลือกตั้ง 30 วัน โดยจะให้สโมสรสมาชิกเสนอชื่อผู้ที่มีความประสงค์จะเข้ามาทำงานในสมาคมฟุตบอลฯ ส่วนเรื่องของผู้มีอำนาจในการลงคะแนนเสียงจะมีการส่งหนังสือเชิญก่อนวันเลือกตั้ง 45 วัน และจะประกาศรายชื่อให้ทราบอีกครั้ง เพื่อความโปร่งใสและเป็นประชาธิปไตย สามารถตรวจสอบได้ รับประกันว่าครั้งนี้ไม่มีปัญหาเรื่องของบัตรผีเกิดขึ้นแน่นอน
"วิรัช" ชู 4 ข้อพัฒนาบอลไทย
นายวิรัช ชาญพานิชย์ ได้กล่าวถึงนโยบาย หากได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกฯ ว่า จะยึดนโยบายหลัก 4 ข้อ คือ ให้ผู้เชี่ยวชาญศึกษาโครงสร้างสมาคมฟุตบอลฯ และทีพีแอล เพื่อให้รู้ปัญหาที่เกิดขึ้นว่ามีอะไรบ้างจะได้แก้ปัญหาให้ตรงจุด พร้อมกันนี้จะมีการพัฒนาบุคลากรในองค์กรรวมถึงผู้ตัดสิน ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาจะนำไปสู่การพัฒนาทีมชาติไทยให้มีประสิทธิภาพ โดยรายละเอียดจะแถลงข่าวให้ทราบต่อไป
"บิ๊กเปี๊ยก" ย้ำเลือกตั้ง 17 ต.ค. 56
"บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ ได้กล่าวถึงความคืบหน้าในเรื่องของการจัดการเลือกตั้งว่า ในส่วนของธรรมนูญฉบับใหม่ตอนนี้อยู่ในระหว่างการปรับปรุงแก้ไข และทางสมาคมฯ เตรียมที่จะส่งให้การกีฬาแห่งประเทศไทยตรวจสอบอีกครั้ง ก่อนที่จะนำไปจดทะเบียนกับกรมการปกครองภายในสัปดาห์นี้ คาดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร
ส่วนเรื่องการจัดตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง เลขาธิการสมาคมฯ เผยว่า ก่อนหน้านี้ทางคุณวิรัช ชาญพานิชย์ ได้เสนอชื่อประธานและคณะกรรมการอีก 2 คนมาให้แล้ว ตอนนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติ คาดว่าเราจะสามารถเปิดเผยรายชื่อคณะกรรมการทั้งหมดได้ภายในสัปดาห์นี้เช่นกัน
"บิ๊กเปี๊ยก" ยังได้กล่าวถึงวันเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ด้วยว่า แต่เดิมหลังจากที่ได้มีการรับรองธรรมนูญฉบับใหม่ไปเมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา จะต้องมีการจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน ซึ่งจะตรงกับวันที่ 7 ต.ค. แต่ในวันดังกล่าวหลังจากเราได้ปรึกษากับตัวแทนฟีฟ่า และนายวิรัช แล้วนั้น ปรากฏว่าทางฟีฟ่าติดภารกิจสำคัญไม่สามารถเดินทางมาร่วมการเลือกตั้งในวันดังกล่าวได้ จึงตกลงกำหนดวันเลือกตั้ง เป็นวันที่ 17 ต.ค. นี้แทน ซึ่งทุกฝ่ายก็เห็นชอบ และไม่ขัดข้องแต่อย่างใด"
นอกจากนี้เลขาธิการสมาคมลูกหนังไทยยังเผยด้วยว่า จะเปิดรับสมัครผู้ที่จะชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลฯ รวมถึงอุปนายก และสภากรรมการ รวม 19 ตำแหน่ง ระหว่างวันที่ 4-17 ก.ย. นี้
http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/130903_412.html