วงดนตรีเล่นดนตรีสดขับคลอ เป็นวงสตรีล้วน สวมใส่อาภรณ์ชุดขาว ทั่วบริเวณงานมีกลิ่นกำยานหอมจรุง ผสมกลิ่นดอกไม้สดแสนสดชื่น
       เก้าอี้นวมยาว สำหรับพิธีสมรสของเจ้าบ่าวชารีฟ และ เจ้าสาว มิเชลล์ จัดดอกไม้ประดับตกแต่งล้อมรอบ อย่างงดงาม
       พิธีการเริ่มขึ้น อีหม่ามแห่งอีนาอิซาเป็นผู้นำในการทำพิธี ซึ่งอีหม่ามคนนี้เป็นคนที่องค์อาหเม็ดประกาศเอาไว้ว่าจะให้เป็นคนทำพิธี มีการรัวลิ้นตามประเพณี เสียงรัวๆ ดัง อยู่ตลอดเวลา
       
       มิเชลล์ สวยสะคราญ อยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาว ชายกระโปรงยาว ปักด้วยพลอยแท้สีขาวบริสุทธิ์
       ขบวนเจ้าสาวเคลื่อนเข้ามาในงาน มีหญิงสาวคู่หนึ่งเป็นธิดาของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ถือตะเกียงเดินนำ ต่อจากนั้นเป็นแถวเด็กสาวประมาณ 10 คู่ เดินถือถาดทองบรรจุขนมและของใช้ตามมา
       มิเชลล์เดินตามเด็กสาวเหล่านี้ คลุมผ้าลูกไม้สีขาวโปร่ง ตลอดเวลาที่เดินเข้ามา มีเสียงรัวลิ้นของข้าราชบริพารในห้องต่างๆ รับกันเป็นช่วงๆ
       ชารีฟหล่อเหลาอยู่ในชุดนายพลเต็มยศ
       สองคนยืนประจันหน้ากัน
       ชารีฟเอ่ยขึ้นเสียงนุ่มนวลหวานซึ้ง
       “เงยหน้าขึ้นซิมิเชลล์”
       มิเชลล์เงยหน้าขึ้น
       ชารีฟดึงผ้าลูกไม้โปร่งตลบไปอยู่ข้างหลัง โน้มตัวลงประทับจูบตรงหน้าผากตามธรรมเนียม ส่งแขนให้เธอเกาะ แล้วเดินเคียงกันมาลงมาจากเวที ก้าวย่างสง่าบนพรมสีแดง ผ่านที่ประทับเจ้านายฝ่ายใน ผ่านเจ้าชายอับดุลลาห์ และชาลิตาที่นั่งคู่กันยิ้มหวานให้บ่าวสาว ผ่านพระราชวงศ์ ทูตานุทูต ผู้หญิงสูงศักดิ์ทั้งหลายที่ใบหน้ายิ้มแย้มยินดีขณะมองมา
       จากนั้นคู่บ่าวสาวไปนั่งที่เก้าอี้ยาวตัวเดิม ซึ่งแวดล้อมด้วยหมู่ดอกไม้สด มิเชลล์นั่งประสานมือในท่าอันสงบ
       เจ้าหญิงสุไบดา และพระญาติหลายคนขึ้นมา ทุกคนขึ้นมาจุมพิตที่หน้าผากมิเชลล์ แล้วไปจูบชารีฟ ตามประเพณี
       มิเชลล์สบตาเจ้าหญิงพระมารดา เห็นถึงใบหน้าและแววตาเฉยเมย ในท่าทีวางตัวอันแสนปั้นปึ่งนั้นของสุไบดา
       
       เจ้าหญิงฟารีดาตามเข้ามาเป็นรายต่อมา ยิ้มชื่นให้มิเชลล์อย่างจริงใจ

**************************************************

สวัสดีสาวก G.I.N ทุกคน มาดามจินนี่โผล่มาจากตะเกียงแล้วจ้า เช่นเคยนะคะมีเรื่องเม้าท์มอยแซ่บ ๆ มาฝากกันให้หายคิดถึง หลายเดือนที่ผ่านมาเรื่องอะไรก็คงไม่ talk of the town เท่า "เรื่องที่คุณก็รู้ว่าอะไร" นับเป็นความชื่นมื่นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ของผู้ที่สมหวัง แต่ในความสมหวังนั้นมาดามจินนี่ได้ข่าวแว่ว ๆ ว่า "ยุคสงครามเย็น" มิช้ามินานคงเกิดขึ้นในแดนทะเลทรายค่ะ คู๊ณณณณณณณณ อิข้อนี้มาดามก็เข้าใจล่ะนะ  ก็เล่นรวมหัวรุมขุ่นแม่ตั้งแต่หัวแถวยันท้ายแถวแบบนี้ ถ้าขุ่นแม่ไม่แค้นฝั่งหุ่นตุ๊กตาชัคกี้ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร

สายลับกรังปรีซ์ของมาดามจกข่าวมาว่า ภาพสวยหะหรูหะหราในวันชื่นมื่นจ๊ะทิงจาของคู่บ่าวสาวนั้น แท้จริงมีเบื้องหลังมากมาย เริ่มจากความไม่พอใจ "สะใภ้ไร้เบอร์" เพราะสาวประวัติแล้วไม่มีอะไรถูกใจขุ่นแม่แม้ซักกระผีก มิใยเบื้องบนจะพยายามเจรจาต้าอ่วย ขุ่นแม่ก็ยืนกระต่ายขาเดียวไม่ย้อม ไม่ยอม จาระไนประวัติฝ่ายหญิงอย่างเมามันส์ (ดูฤทธิ์ขุ่นแม่แล้วกันขนาดเบื้องบนยังมิสู้) เล่นเอาเจ้าบ่าวหนุ่มใหญ่น้ำตาตกในเช็ดหัวเข่าพูดอะไรไม่ออกอยู่หลายเพลา ถ้าฮีดิ้นลงกับพื้นได้คงดิ้นไปแล้ว ฝ่ายสะใภ้คนงามก็ใจเด็ดเหลือหลาย ไม่เอาก็ไม่เอา .... เจ็บแต่จบ ทิ้งให้เจ้าบ่าวสี่สิบกะรัตเหี่ยวแห้งเฉาตายใครรู้เรื่องก็อดจะสงสาร เว-ทะ-นา ไม่ได้

ฝ่ายขุ่นแม่ที่กระหยิ่มยิ้มย่อง ก็จัดแจงหาสะใภ้เบอร์ใหม่ให้ โดยไม่ได้เอะใจซักนิดว่าขุ่นแม่จะโดนตลบหลังอย่างเจ็บแสบสุด ๆ ขณะที่เจ้าบ่าวก็เหี่ยวลง ๆ เฉาลง ๆ ทุกวัน ขุ่นแม่ก็กระหยิ่มยิ้มย่องผ่องใสที่อะไร ๆ จะเป็นไปตามคาด แต่สุดท้ายกลายเป็นทั้งหัวทั้งหางมังกรหลอกต้มขุ่นแม่ซะเปื่อยกลางงาน ยิ่งรู้ว่า "ระดับบิ๊ก" อุตส่าห์กริ๊งกร๊างไปฉกตัวสะใภ้ไร้ศักดินาออกจากเครื่องบินที่จะบ่ายหน้ากลับประเทศ ขุ่นแม่ยิ่งควันออกหู แต่ก็ต้องจำนั่งหน้าตูมอยู่ในงานรักษาภาพ ผิดกับเจ้าบ่าวที่ฟิน ฟิ้น ฟิน จนไม่รู้จะฟินยังไง ที่เคยแห้งเหี่ยวได้ข่าวว่าคึกคักเตะปี๊บดังขึ้นมาโดยทันที

ปิดกันให้แซ่ดว่า ป่านนี้สะใภ้ไร้เบอร์ยังเข้าหน้าขุ่นแม่ไม่ติด ไปหาที่ไรขุ่นแม่ไม่เคยอยู่บ้าน เรือนชานไม่ออกมาต้อนรับ เงิบนี้ต้องชำระแต่เมื่อทำอะไรลูกชายไม่ได้ จึงต้องมาลงกับสะใภ้ไร้เบอร์แทน แต่แม้มหากาพย์นี้จะมียกสอง ก็คงไม่กระทบชีวิตสะใภ้ไร้เบอร์แต่อย่างใด .... ก็แหม หนุ่มใหญ่ ใจดี สปอร์ต ฮฟร. เค้ารักเค้าหลงเสียยิ่งกว่าอะไร วัน ๆ ไม่ไปไหน ... ข่าวว่ากลับไว เร่งทำการบ้านอย่างเดียว อิ อิ ในเมื่อมันเป็นอย่างนี้ จินนี่ก็ไม่รู้วววด้วยนะคะขุ่นแม่ขราาาา